กัดกันเละ?‘กัญชาเสรี’ภท.‘สุรา’ก้าวไกล – กรศิริ

ภายใต้ยุคสมัย รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นชัดเจนถึงการใช้กลเกมการเมืองนำหน้า ตามมาด้วยผลประโยชน์ทางการเมืองและตำแหน่งทางการเมือง ที่ใช้ในการผูกขาดเก้าอี้นายก
.
ตั้งแต่หลังเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2562 ก็ชัดเจนแล้วว่าการตระบัดสัตย์ที่เกิดขึ้นกับบางพรรคการเมืองนั้น ล้วนมาจากความต้องการมีอำนาจการเมือง มีหัวโขน มีตำแหน่ง จากการเข้าร่วมรัฐบาล
.
สัญญาอะไรไว้กับประชาชน สามารถกลืนน้ำลายลงคอได้หมด หรือแม้แต่ ต่อให้เป็นการถ่มน้ำลายขึ้นฟ้าตกลงมารดหน้าตัวเอง พวกนี้ก็ไม่สน ขอแค่ได้เป็นรัฐบาลเท่านั้นเป็นพอ
.
การร้อยรัดความร่วมมือจึงเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมืองและหัวโขนทางการเมืองล้วนๆ
.
ดังนั้นเมื่อใกล้ระยะเวลาที่จะต้องมีการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลจึงทะเลาะเบาะแว้งขัดแย้งกันอย่างรุนแรง
.
ภาษาชาวบ้านก็คือ “กัดกันเละ”
.
กรณีกฎหมายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย เป็นสิ่งที่สะท้อนความขัดแย้งให้ประชาชนได้เห็นอย่างชัดเจน เพราะภูมิใจไทยผลักดันสุดลิ่มทิ่มประตูที่จะให้กฎหมายกัญชาเสรีผ่านสภาให้ได้ เพื่อหวังใช้สร้างคะแนนนิยมในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่จะเกิดขึ้น
.
อวดโอ่ว่าเป็นพรรคที่พูดแล้วทำได้จริง ถ้ามีกัญชาเสรีประชาชนที่ปลูกกัญชาจะร่ำรวยกันหมด
.
แถมหัวหน้าพรรคยังเลยเถิดพูดบนเวทีว่า ต่อไปประชาชนสามารถพี้กัญชากันได้อย่างเสรี
.
พอถูกตำหนิถูกต่อว่าจากสังคม ก็พลิกลิ้นว่าเป็นแค่การพูดเอามันบนเวทีหาเสียงทางการเมืองเท่านั้น ฉะนั้นประชาชนพึงจำเอาไว้ให้ดีๆว่า คำพูดหาเสียงทางการเมืองของภูมิใจไทย อะไรที่จะเชื่อได้หรือว่าเชื่อไม่ได้
.
พอถึงเวลาเล่นแก้ตัวว่า แค่พูดเอามันเท่านั้น แต่ประชาชนเชื่อไปแล้ว ประชาชนฝันไปแล้วว่า ถ้ามีกัญชาเสรีจะมีหน่วยงานรัฐมารับซื้อ จะสามารถขายได้กิโลละ 6-7 หมื่นบาท
.
จะเหมือนกับการหาเสียงเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทของพลังประชารัฐหรือไม่ ก็รอดูกันไป
.
แต่ที่รอไม่ได้เพราะกลัวว่าจะเป็นกฎหมายเสรีกัญชาแบบเลยเถิด ทางพรรคประชาธิปัตย์จึงยืนกรานไม่เห็นด้วย และพร้อมที่จะโหวตคว่ำไม่ยอมรับกฎหมายกัญชาเสรีของภูมิใจไทย
.
ทำให้แม้ว่าทั้งประชาธิปัตย์และภูมิใจไทยจะเป็นพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลด้วยกัน แต่ก็เผชิญหน้าซัดกันอย่างดุเดือดในเรื่องนี้
.
จริงๆแล้วคอการเมืองเชื่อว่าขัดแย้งลึกๆมาระยะหนึ่งแล้ว ในเรื่องที่ภูมิใจไทยย่ามใจว่ามีเครือข่ายธุรกิจน้ำมันในภาคใต้ที่สามารถช่วยสนับสนุนให้แย่งเก้าอี้จากประชาธิปัตย์ได้ แถมภูมิใจไทยยังยึดครองเก้าอี้รัฐมนตรีท่องเที่ยวไว้ในมือ ยิ่งเพิ่มความเชื่อมั่นว่าจะได้ฐานเสียงด้านการท่องเที่ยวภาคใต้มาช่วยหนุนให้กวาดเก้าอี้ส.ส. ภาคใต้จนไม่เหลือที่ยืนให้กับประชาธิปัตย์อีกต่อไป
.
ขณะที่ประชาธิปัตย์ ลึกๆผู้ใหญ่ในพรรคและส.ส.ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ก็รู้ดีว่าผลการตระบัดสัตย์หลังเลือกตั้งปี 62 แล้วเข้ามาร่วมรัฐบาลประยุทธ์ ได้ทำให้คะแนนนิยมของพรรคตกฮวบ
.
ยิ่งมาเป็นรัฐบาลแล้วไม่ได้มีผลงานอะไรที่โดดเด่น แถมผลงานที่ควรจะต้องปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ปกป้องเกษตรกรภาคใต้ โดยควรจะต้องดึงสติ หรืองัดข้อกับประยุทธ์ และทีม ครม.สายประยุทธ์ไว้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำ
.
เมื่อสถานการณ์ไม่ดีอยู่แล้ว ยังมาเจอภูมิใจไทยตามขยี้หวังแย่งเก้าอี้ส.ส.ใต้ จึงยิ่งสาหัสหนักยิ่งขึ้น
.
วันนี้จึงได้เห็นภาพที่ประชาธิปัตย์สวนหมัดกับภูมิใจไทย ในขณะที่ภูมิใจไทยเองก็ไม่ได้ให้ราคาประชาธิปัตย์เลยสักนิด
.
ไม่ใช่แค่ อนุทิน ชาญวีรกูล เท่านั้นที่เหน็บประชาธิปัตย์แบบเจ็บๆ ล่าสุดแม้แต่ ศุภชัย ใจสมุทร ก็ยังตอกหน้าประชาธิปัตย์แบบไม่ให้ราคา ว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีอายุเยอะแต่วุฒิภาวะกลับไม่ได้เพิ่มขึ้น
.
ไม่แปลกที่สังคมจะอุทานลั่นโลกออนไลน์ว่า เฮ้ยกัดกันเละจริงๆ
.
แต่ บางกอกทูเดย์ ไม่คิดว่าเป็นการฟัดกันเละอย่างที่ถูกตั้งข้อสังเกต ฟัดกันแน่เพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว แต่เขียนแปะไว้ข้างฝาได้เลยว่า หากขั้วเผด็จการได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง จะโดยการใช้เกมรัฐธรรมนูญฉบับตามใจแป๊ะ ช่วงชิงความชอบธรรมจากเสียงประชาชนมาจนได้
.
รับรองได้เลยว่าจะได้เห็นภาพประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยกลับมาจูบปากกันอีกหนแน่
.
เพราะสังเกตหรือไม่ว่า ประชาธิปัตย์งัดภูมิใจไทย เรื่องกฎหมายกัญชาเสรีรอบนี้ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้วิธีลอยตัวเหนือปัญหา แบ่งแยกแล้วปกครอง ไม่ได้มีภาพเรียกประชุมกลางทำเนียบ ว่าอยากให้โหวตกฎหมายกัญชาเสรีอย่างไร
.
ต่างกันชัดเจนกับการเรียกประชุมกลางทำเนียบทั้งกรณีโหวตสูตรปาร์ตี้ลิสต์ และโหวตกฎหมายสุราก้าวหน้า
.
ประยุทธ์ที่ลงทุนยอมถูกมองว่าใช้อำนาจฝ่ายบริหารแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ เนื่องจากทั้งกรณีสูตรปาร์ตี้ลิสต์ และกฎหมายสุราก้าวหน้า ถ้าผ่าน 3 วาระได้ พรรคการเมืองฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล จะได้ประโยชน์เต็มๆ
.
วิธีคิดเช่นนี้เป็นวิธีคิดด้วยเรื่องของอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมืองล้วนๆ
.
ไม่ได้คิดบนพื้นฐานผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งเลย
.
บางกอกทูเดย์ ย้ำจุดยืนในเรื่องของกฎหมายสุราก้าวหน้า ว่าจะเกิดประโยชน์กับเกษตรกร กับธุรกิจ SME กับผู้ประกอบการ OTOP อย่างมากมายมหาศาล
.
ผลผลิตส่วนเกินทางการเกษตรที่สามารถนำมาทำเป็นไวน์ ทำเป็นเหล้ารัมท้องถิ่นได้นั้น จะไม่กลายเป็นผลผลิตที่ฉุดรั้งราคาให้ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำอีกต่อไป
.
เพราะข้าวและผลไม้เหล่านั้นจะถูกนำไปแปรรูปบรรจุขวด แล้วส่งขายให้กับนักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งออกได้เป็นอย่างดี เป็นผลบวกกับทั้งเกษตรกร ผู้ประกอบการท้องถิ่น และเศรษฐกิจของประเทศชาติ
.
แต่สิ่งที่รัฐบาลนี้กระทำก็คือ พฤติกรรมชี้นำ หรือครอบงำ จนทำให้กฎหมายที่มีประโยชน์ต่อเกษตรกรต่อเศรษฐกิจไทยต้องมีอันตกไป
.
แล้วตบตาสังคมด้วยการรีบร้อนออกกฎกระทรวงให้มีผลบังคับใช้เพียงชั่วข้ามคืนก่อนวันโหวต
.
แต่เนื้อในกลับเป็นกฎกระทรวงที่ไม่ได้เกื้อหนุนต่อเกษตรกรเลย
.
เพราะเงื่อนไขไม่ได้ให้ทำเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไวน์ และสุราพื้นบ้าน เพื่อให้เป็นรายได้ทางเศรษฐกิจ
.
ทุกอย่างมีเงื่อนปมให้ต้องขออนุญาตสารพัด เหมือนกับไม่ต้องการให้เกิด
.
ไม่แปลกที่จะถูกมองว่ารัฐบาลมุ่งเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจยักษ์ใหญ่ครอบงำผูกขาดธุรกิจสุราในเมืองไทยไว้ในมือต่อไปเหมือนเดิม
.
ไม่แปลกที่คนจะสงสัยถึงความสนิทสนมความผูกพันของ ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับสายธุรกิจสุราที่ผูกขาด ซึ่งลึกๆแล้ว มีมานานก่อนที่ประยุทธ์จะก่อกบฏทำรัฐประหารขึ้นมาเป็นรัฐบาลเป็นนายกฯด้วย
.
จึงเป็นเรื่องน่าเศร้าที่กฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงกับเกษตรกร ตลอดจน SME และ OTOP ต้องมาสะดุดหยุดยั้งลง
.
ไม่ว่ารัฐบาลและเครือข่ายประยุทธ์ จันทร์โอชา จะชี้แจงแก้ต่างอย่างไรก็ตาม แต่ภาพที่เกิดขึ้นในสายตาประชาชนก็คือ
.
สุราในเมืองไทยยังคงถูกผูกขาดอยู่ในมือของเจ้าสัวนายทุนใหญ่ต่อไป
.
เอื้อประโยชน์ให้นายทุนหรือไม่? เชื่อว่าประยุทธ์ จันทร์โอชา ย่อมรู้ดีแก่ใจ
.
กรศิริ