จัดซื้อ F-35A ต้องโปร่งใส
ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม สำหรับโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี F-35A ของทางกองทัพอากาศ
จริงๆเรื่องนี้ลากยาวมาตั้งแต่ ผบ.ทอ.คนก่อนแล้ว จนกระทั่งมาถึง ผบ.ทอ.คนปัจจุบัน คือ พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ นี่แหละ
ประเด็นของเรื่องนี้ มองยังไงก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ ความเหมาะสม และความโปร่งใส
ในแง่ของกองทัพอากาศ ยืนยันว่า ทาง ทอ.ได้เสนอความต้องการ ไปยังสหรัฐ แล้วว่า ทอ.ยืนยันความต้องการในการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี มาทดแทน F-16 ที่ใช้กันมานานมาก จนใกล้เวลาที่จะปลดประจำการแล้ว
ซึ่งเครื่องบินรบ ที่เป็นเครื่องบินขับไล่ ยืดอายุการใช้งานไม่ได้นานมากนัก เช่น เครื่องบิน F-16 ก็จะปลดประจำการในอีกไม่กี่ปี ดังนั้นเมื่อได้เสนอความต้องการ F-35A ไปยังสหรัฐอเมริกา แล้วก็ต้องยึดตามนั้น ตอนนี้ ก็รอว่าสหรัฐจะให้คำตอบมา ซึ่งคาดว่าประมาณ ม.ค.-ก.ค.2566
เหตุผลสำคัญของ ทอ. คือ F-35A จำนวน 1 เครื่อง จะเท่ากับ F-16 ถึง 3 เครื่อง จึงถือว่าคุ้มค่า
แต่ในมุมของสังคม มองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ยังไม่ดี ยังไม่ฟื้น ควรใช้งบประมาณไปในเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจก่อนจะดีหรือไม่
เพราะสำหรับรัฐบาลนี้ ต้องยอมรับความจริงว่า มีปัญหาเรื่องการหารายได้อย่างมาก จนต้องมีการกู้มีการก่อหนี้กว่า 10 ล้านล้านบาทแล้ว
ในเมื่อตอนนี้ F-16 ยังไม่ได้ถึงเวลาปลดประจำการ จึงน่าจะรอเวลาอีกนิดให้เศรษฐกิจฟื้นตัวก่อน
ซึ่งทาง ทอ.ก็ใช่ว่าจะไม่ฟัง โดยระบุว่า ทอ. ก็ห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเช่นกัน ดังนั้นจึงจะใช้งบประมาณที่ทางกองทัพอากาศได้รับ โดยจะเป็นการทยอยจ่ายให้น้อยที่สุด
แต่หากไม่มีการเริ่มเลย ต่อให้จะมีเงินในอนาคต ก็อาจจะไม่สามารถซื้อได้
เป็นความตั้งใจ ปักหมุดหมายไปว่าจะต้องได้ F-35 ให้ได้ ชนิดที่เมื่อ ผบ.ทอ.ถูกถามว่าหากรัฐบาลสหรัฐไม่ขาย F-35 ให้ มีแผนสำรองไว้หรือไม่ว่า จะจัดหาเครื่องบินใดทดแทน
ผบ.ทอ. ยืนยันชัดเจนว่า ยังไม่มีแผนสำรอง
จริงๆเรื่องนี้ อดีต ผบ.ทอ. พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ เคยพูดไว้น่าสนใจว่า ประชาชนมุ่งหวังเห็นสิ่งสำคัญ 3 ประการ คือ 1.กองทัพซื้อของดี มีประสิทธิภาพ ใช้งานได้นาน คุ้มค่า คุ้มราคากับภาษีของประชาชน 2.การซื้อต้องไม่มีการคอร์รัปชั่น และ 3.การจัดซื้อจะต้องสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติอย่างเต็มที่ ทั้งทางตรง ก่อให้เกิดความมั่นคงของชาติ และทางอ้อมคือในเรื่องการพัฒนาคน พัฒนาองค์ความรู้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ
ดังนั้น หาก ทอ.เข้าใจชัดเจนเช่นนี้ ย่อมต้องเข้าใจว่า ทำไมสังคมยังคลางแคลงใจ
ใช่เพราะมีคนชอบอ้างความโปร่งใส แต่ไม่ให้ตรวจสอบ หรือไม่ ผลกระทบจึงมาตกที่ ทอ.
อัคคี กัมปนาท
