พรรคประชาธิปัตย์ จะวุ่นได้อีกแค่ไหน ‘สมบูรณ์’ เลขาประธานชวนยังอยู่ไม่ได้
นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จ.ตรัง 4 สมัย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้ว
จากนั้นในวันนี้ 9 ธ.ค.จะเดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจเพราะต้องการความชัดเจนทางการเมืองให้กับตัวเอง ก่อนที่จะมีการยุบสภาและจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่
“ที่ผ่านมาผมทำตัวเป็นเด็กดีของพรรค ปชป.มาตลอด ไม่เคยสร้างปัญหาให้หนักใจ มีแต่จะทำประโยชน์ให้ประชาชนและพรรค แต่เมื่อไม่เห็นความดีและไม่มีพื้นที่ให้ยืน ผมก็ต้องไปหาพื้นที่เพื่อต่อสู้ในการเลือกตั้งก็เท่านั้น” นายสมบูรณ์กล่าว
นายสมบูรณ์ ยังได้กล่าวด้วยว่า ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกก็ได้แจ้งกับ นายชวน หลีกภัย ประธานสภา และ นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง ในฐานะที่เคารพรัก และถือว่าเป็นผู้ให้กำเนิดทางการเมือง เพราะชักนำให้เข้าสู่การเมืองตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งทั้งสองท่านก็เข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องไปอยู่พรรคอื่น
“ท่านชวนยังได้โทรศัพท์มาคุยกับผมระหว่างที่เดินทางไปยื่นใบลาออกกับ กกต.ว่าเห็นใจมากเพราะไม่มีที่ให้ยืนจริงๆ และยังมีเวลาในการสมัครสมาชิกพรรค ผมได้เรียนว่าต้องการทำงานทางการเมืองให้ชัดเจน แต่ก็ยังจะทำงานในตำแหน่งเลขานุการประธานสภาต่อไป เพราะคนละส่วนกัน” นายสมบูรณ์กล่าว
สำหรับประเด็นที่ว่า การตัดสินใจไปร่วมพรรค รทสช.เพราะได้รับการติดต่อจาก นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.ใช่หรือไม่ นายสมบูรณ์กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน โดยนายไตรรงค์เข้าใจถึงปัญหาความอึดอัดที่ได้รับจากพรรค ปชป.
ส่วนนายพีระพันธุ์ก็บอกว่ายินดีต้อนรับเข้าพรรค แต่อยากให้ตัดสินใจให้ชัดเจน เพราะเวลาเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว เขาจะได้วางแผนทางการเมืองได้ถูก
“ก่อนจะตัดสินใจลาออกจาก ปชป. ผมรู้สึกเสียใจจนต้องหลั่งน้ำตา เพราะผูกพันกับพรรคมานาน แม้จะออกไปแล้วแต่ก็ยังรักและรู้สึกดีกับหลายคนใน ปชป.อยู่ และไม่คิดที่จะเผาบ้านเก่า ยอมรับว่าออกไปแล้วไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่มีความสุขขึ้น เพราะเขาให้เกียรติเรามากกว่า และต้องการที่จะพิสูจน์ให้ผู้นำพรรค ปชป.เห็นว่าผลโพลที่บอกว่าเลือกตั้งครั้งหน้าผมจะได้แค่ 20% นั้น พอถึงเวลาแล้วจะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ แต่ถ้าได้มากกว่าก็ถือเป็นการยืนยันว่าผมทำได้จริง” นายสมบูรณ์กล่าว
