23 ตุลาคม 2024

ตัณหาการเมือง เป็นแรงกระตุ้น ทำให้ต้องการที่จะอยู่ต่อในอำนาจ

เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ โดยเฉพาะกับคนประเภทที่ยึดถือตัวเองเป็นศูนย์กลาง

ไม่ใช่ความผิด กับการที่จิตใจตกเป็นทาสอำนาจและผลประโยชน์การเมือง

แต่ทุกสิ่งควรกระทำอยู่บนบรรทัดฐานของความถูกต้อง และมีคุณธรรม

แต่ถ้าทำทุกอย่างโดยไม่สนใจว่าจะต้องแปดเปื้อนสักเพียงใด

ไม่แคร์สังคม ว่าจะมองทะลุหน้ากากคนดีไปเห็นเนื้อแท้ข้างใน

การเร่งตั้งหัวหน้าพรรคที่ตัวเองจะเข้าไปสังกัดให้มากินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ให้มาทำหน้าที่เป็นเลขาธิการนายกในช่วงจังหวะสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งไม่นานแบบนี้

เอาเปรียบหรือไม่ แปดเปื้อนหรือไม่

ทั้งคนตั้งและคนที่ถูกแต่งตั้ง รู้อยู่แก่ใจว่าชิงแต่งตั้งแบบนี้ เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่

แค่ไม่รู้ว่ามีความเป็นลูกผู้ชายและกล้าเพียงพอที่จะยอมรับหรือเปล่า

แล้วทั้งคู่ก็ใช้ตำแหน่งหน้าที่ลงพื้นที่ต่างจังหวัดอุตลุตไปหมด

ข้ออ้างเรื่องการไปทำหน้าที่ กับการมุ่งหาเสียงทางการเมือง ไม่ใช่แค่เส้นคั่นบางๆ แต่เป็นเส้นคุณธรรมที่ต้องมีให้ชัดเจน

อีกนั่นแหละทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจ แค่ว่ากล้าที่จะยอมรับหรือไม่ ว่ามุ่งผลประโยชน์ทางการเมืองเป็นหลักหรือไม่

ยิ่งพฤติกรรมการดูดส.ส. จากพรรคการเมืองต่างๆ ไม่เว้นแม้แต่พรรคที่ตัวเองเคยอาศัยโควต้าเป็นแคนดิเดตนายก

พรรคการเมืองที่รู้ทั้งรู้อยู่แก่ใจ ว่าเป็นพรรคที่พี่ใหญ่ ซึ่งอ้างนักอ้างหนาว่ายังรักกันดี ไม่ได้แตกแยกกัน นั่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่

แต่เพื่ออำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง ก็ทั้งดูดทั้งดึงโดยไม่แคร์ความรู้สึกของพี่ใหญ่

นี่คือความสัมพันธ์สไตล์หน้ากากคนดีใช่หรือไม่

หรือยุคนี้เรื่องของความละอายใจ เป็นสิ่งที่ไกลเกินเอื้อมสำหรับคนบางจำพวก

ความเชื่อในเรื่องฤกษ์งามยามดี จะดีได้ จิตใจและพฤติกรรมจะต้องดีก่อนเป็นอันดับแรก

ถ้าจิตใจหมกมุ่นเต็มไปด้วย โมหะ โทสะ กิเลสตัณหา ไขว่คว้าไม่สิ้นสุด

ไม่แยแสความดีความถูกต้อง ไม่เกรงกลัวความแปดเปื้อน

ฤกษ์ดีที่คาดหวังก็คงช่วยอะไรไม่ได้

เพราะสุดท้ายกลายเป็นฤกษ์ดีของประชาชน ที่ได้รู้ความจริง

อัคคี กัมปนาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *