24 ตุลาคม 2024

กลายเป็นประเด็น ดราม่าข่าวร้อนทางการเมือง ขึ้นมาอย่างรุนแรง

ไม่ต่างจากดราม่าข้อสงสัย “สัมพันธภาพระหว่าง 2 ป.”

ประวิตร vs ประยุทธ์ วันนี้ยังเหมือนเดิมหรือไม่

แน่นอนสังคมการเมืองวินาทีนี้ ล้วนฟันธง 2 ป.ไม่เหมือนเดิมแล้ว

ไม่เช่นนั้น ป.ป๊อก อนุพงษ์ เผ่าจินดา คงไม่ตัดสินใจ ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า

ไม่เช่นนั้น คงไม่มีเกมปาดหน้าลงพื้นที่กันให้จ้าละหวั่น

รวมทั้งคงไม่ได้เห็น อาการกระฟัดกระเฟียด หงุดหงิด โมโห ออกสื่อ โดยไม่แคร์ภาพลักษณ์ ไม่แคร์คำว่า “ภาวะผู้นำ”

แต่ใครจะคิด ข่าวสัมพันธ์ร้าวในลักษณะเดียวกัน จะเกิดขึ้นกับขั้วประชาธิปไตยไปด้วย

ร้อนฉ่า เมื่อ “จตุพร พรหมพันธุ์” เปิดศึกกับ “ทักษิณ ชินวัตร”

รุนแรงกันถึงขนาดสวนมาก็ซัดกลับไป แบบไม่มีคำว่าเกรงใจ หรือนึกถึงเรื่องดีๆในอดีตกันเลยสักนิด

แรงขนาดนี้ แน่นอนมีทั้งคนตะลึงอ้าปากค้าง มีทั้งคนสงสัย

และหนีไม่พ้น…มีคนสะใจ

มองในมุมของเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ต้องบอกตรงๆว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า

ทั้งทักษิณ ทั้งจตุพร ล้วนมีเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มาด้วยกันทั้งคู่

อาจจะต่างสไตล์ ต่างวิธีการ แต่ด้วยเป้าหมายต้องการสร้าง “การเมืองประชาธิปไตย” ให้เข้มแข็ง จึงทำให้ถูกสังคมมองและเชื่อมาตลอด ว่าเป็น “ขั้วการเมืองประชาธิปไตย” เหมือนกัน

ผ่านการต่อสู้ ผ่านการเจ็บปวด ผ่านการสูญเสีย มาด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ

ทักษิณ ชินวัตร ก็เจ็บปวด สูญเสีย จนสุดท้ายต้องลี้ภัยการเมืองหนีไปอยู่ต่างประเทศจนทุกวันนี้

ส่วนจตุพร พรหมพันธุ์ ก็เจ็บปวด สูญเสียไม่ต่างกัน แถมสุดท้ายถึงขั้นต้องติดคุกด้วยสารพัดข้อกล่าวหาทางการเมือง

ทั้งคู่จึงต้องถือว่าล้วนแต่บอบช้ำทางการเมือง พ่ายแพ้ในเกมการเมืองมาเหมือนกัน

แต่ที่สำคัญยังเหลือภาพลักษณ์ ว่ายังคิดที่จะสู้ต่อเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสที่ดี มีอนาคตที่ดี

ไม่ใช่การเมืองที่จมปลักอยู่ใต้ท็อปบู๊ท อยู่ใต้เผด็จการที่สวมคราบประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยจอมปลอมใต้หน้ากากคนดีย์

แต่อนิจจา วันนี้การต่อสู้ยังไม่จบ ชัยชนะที่หอมหวานยังไม่ทันได้มา ดันมาฟัดกันเอง

ก็ใช่ ต่างคนต่างสไตล์ ต่างคนต่างวิธีการ แต่ในเมื่อเป้าหมายเพื่อประชาธิปไตยไม่ต่างกัน คำถามสำคัญก็คือ

แล้วจะมาฟัดกันเองให้ฝ่ายเผด็จการขำกลิ้งไปเพื่ออะไร

สงครามยังไม่จบมาเปิดศึกกันเองซะงั้น

ขัดแย้งกันเองยังพอเข้าใจ แต่ถ้าถึงขั้นแบ่งแยกแตกขั้ว ซัดกันดุเดือดอย่างนี้ ไม่คิดหรือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้อีกขั้วการเมืองหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง

องครักษ์พิทักษ์ประยุทธ์ ถึงขั้นตบเข่าฉาด หัวร่อร่า วาดหวังว่าจะได้พันธมิตรเสื้อแดงมาเพิ่มกันเลยทีเดียว

ผู้ใหญ่ในบางกอกทูเดย์ ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว เห็นเกมการเมืองในยุคต่างๆมาอย่างโชกโชน ฝากให้ช่วยตั้งคำถาม

แยกกันเดิน ร่วมกันตี สู้สงครามชิงคืนประชาธิปไตย ให้จบลงก่อนดีกว่าไหม?1?

หลังสงครามจบ ประเทศคืนสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริง ค่อยมาเคลียร์ใจ หรือจะตัดขาดกันไปเลย ก็แล้วแต่

แต่มาปะทะกันในตอนนี้ บอกได้เลยว่าฝ่ายเผด็จการหัวเราะเยาะดังสนั่นหวั่นไหว

บางกอกทูเดย์ ขอเตือนสติอย่างเป็นกลางๆให้กลับไปคิดกันทั้งสองฝ่าย

เพราะไม่อยากจะเห็นภาพอนาคตที่หากเพื่อไทยชนะแลนด์สไลด์ได้เป็นรัฐบาลประชาธิปไตย แล้วต้องโดน จตุพร เดินหน้านำคนลงถนนประท้วง

กลายเป็นภาพประชาธิปไตยปะทะประชาธิปไตยซะงั้น

ถ้าเกิดขึ้นจริงบอกได้เลยว่าขั้วเผด็จการ หรือ กลุ่มนกหวีด กปปส. ได้หัวล่อขำกลิ้งแน่นอน

ถ้าถึงวันนั้นความเสียหายที่เกิดก็คือ การเมืองประชาธิปไตยไปไม่ถึงฝั่งฝัน

เป็นได้แค่การเมืองจมปลักบนความขัดแย้งแบ่งแยกแตกขั้ว

ประเทศชาติ ระบบการเมืองไทยนั่นแหละ ที่เป็นฝ่ายเสียหายที่สุด

และทั้ง ทักษิณ ชินวัตร กับ จตุพร พรหมพันธุ์ ก็จะถูกมองเป็นจำเลย เป็นตราบาปการเมืองไทยด้วยกันทั้งคู่

ลองไปคิดกันดูแล้วกันฟัดกันเองแบบนี้ สุดท้ายแล้วใครจะเป็นตาอยู่

คว้าพุงปลาไปกิน

กรศิริ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *