สภาล่ม! ซ้ำซาก ภูมิใจไทยเอาคืน ‘ศุภชัย’ เรียกร้อง ‘ประยุทธ์’ ยุบสภา หลัง‘พรบ.กัญชา ค้างเติ่ง’

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ปรากฏว่าในช่วงเข้าสู่วาระเรื่องด่วนร่างพ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร ฉบับที่..พ.ศ…. ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ต่อจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ในช่วงลงมติแต่องค์ประชุมไม่ครบ ครั้งนี้จึงอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบองค์ประชุม เพื่อลงมติ ซึ่งนายศุภชัย ได้พยายามกดออดเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุม ประมาณ 15 นาที แต่ ส.ส.ในห้องประชุมยังบางตา มีเพียงแต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่อยู่เป็นองค์ประชุม เนื่องจากเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ….เกี่ยวกับการขออนุญาตทำประมงพื้นบ้าน ทำประมงในทะเลนอกชายฝั่ง การคุ้มครองชาวประมง ธุรกิจการประมง สนับสนุนผู้ประกอบการ จำนวน 7 ฉบับ ที่ทั้ง 3 พรรคมีส่วนร่วมในการเสนอเข้าสู่ที่ประชุม โดยไม่มีส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อยู่ในห้องประชุม

ทำให้มี ส.ส.หลายคนได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับการไม่มาประชุมของ ส.ส. โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท. บอกขอให้นายศุภชัย แจ้งในไลน์กลุ่มพรรค ภท. ให้ไปตามส.ส.มาเข้าร่วมประชุมด้วย ทำให้นายศุภชัยย้อนว่า ให้แจ้งในไลน์กลุ่มของพรรคเพื่อไทยด้วย ทำให้เกิดการต่อปากต่อคำกัน สุดท้ายนายศุภชัยตัดลบว่าถ้าจะตามขอให้ช่วยตามทุกพรรค

ขณะที่นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรค พท. กล่าวว่า ปัญหามาจากการลาออกและย้ายพรรค ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มาเกิดขึ้นอย่างมากในยุคนี้ และได้ใช้คำพูดเปรียบเทียบว่าแย่ยิ่งกว่าตลาดซื้อขายวัวควาย ทำให้ถูกนายศุภชัยทักท้วงว่าใช้คำแรงเกินไป ขอให้ถอนคำพูด ซึ่งนายครูมานิตย์ ก็ยอมถอนคำพูดดังกล่าว แต่ยังคงมองว่าการรักษาองค์ประชุมควรเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องควบคุมองค์ประชุมให้ได้

“ขณะนี้มีส.ส.ย้ายพรรคกันมากมาย หนักยิ่งกว่าตลาดวัว ตลาดควายบ้านผมเสียอีก สมัยก่อนย้ายพรรคแค่ 1-2 คนถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ต้องหาสาเหตุที่มาที่ไป ไม่เหมือนทศวรรศนี้ที่ย้ายกันเต็มไปหมด ผมขอท้าถ้าบริหารไม่ได้ก็ยุบสภาฯ ไปเลย” นายครูมานิตย์ กล่าว

ด้านนายศุภชัย ได้พูดขึ้นมาบ้าง แม้จะมีเสียงทักท้วงว่าทำหน้าที่ประธาน ไม่ควรจะพูดแสดงความเป็น แต่นายศุภชัย ก็ยังคงพูดต่อ โดยกล่าวว่า

“ผมขอระบายบ้าง ใช่ว่าผมจะไม่อึดอัด ผมตั้งใจเข้ามาเป็นส.ส.รอบนี้ ตั้งใจมาทำงานเต็มที่ ขนาดผมเป็นรองประธานฯ เวลาขึ้นบัลลังก์ก็ทำหน้าที่ประธาน เวลาลงจากบัลลังก์ก็ไปทำหน้าที่สมาชิกช่วยเป็นองค์ประชุม พยายามทำมาโดยตลอด ผมเห็นบรรยากาศอย่างนี้ อย่าว่าแต่พวกท่านเหนื่อยหน่าย ผมก็เบื่อหน่ายเช่นกัน ถ้าเป็นไปได้ อยากเรียกร้องเหมือนนายครูมานิตย์ ว่าท่านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถ้าได้ยินก็รีบยุบสภาฯ เสีย เพราะ ส.ส.เขาไม่อยากประชุมแล้ว รัฐมนตรีก็ไม่ยอมมาตอบกระทู้ในที่ประชุม ท่านจะอยู่ไปทำไม ผมก็มีอารมณ์อยากระบายเหมือนกัน”

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการขอข้อมูลองค์ประชุม พบว่ามีสมาชิกไม่ครบ นายศุภชัย จึงแจ้งว่า ขณะนี้มีสมาชิก 190 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม จากนั้นสั่งปิดการประชุมในเวลา 13.46 น. แต่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค พท.ได้ตะโกนสวนขึ้นมาว่า “ภูมิใจไทยไม่มาใช่มั้ย”

ทั้งนี้มาพบสาเหตุในภายหลังว่า ได้มีการไลน์ส่งข้อมูลจากพรรคภูมิใจไทยไปยังไลน์กลุ่มวิปพรรคร่วมรัฐบาล ว่า จากการที่สภาล่มในวาระที่ต้องพิจารณากฎหมายกัญชาของภท. จนทำให้กฎหมายนี้ค้างเติ่ง โดยที่ยังไม่ได้มีความพยายามแก้ไขปัญหาสภาล่มจากขั้วรัฐบาล ดังนั้นหากมีการพิจารณากฎหมายอื่นๆ ทาง ภท.ก็จะไม่รับผิดชอบในเรื่องขององค์ประชุมว่าจะครบหรือไม่