24 ตุลาคม 2024

‘ป้านาบ้านโป่ง’ แจ้งความแล้ว! คาใจข้อหาส่งเสียงดัง ยืนยันยังไม่ได้พูดอะไร กลับโดนปิดปาก-ลากตัว

0

ฝากไปถึง ‘ประยุทธ์’ จะเป็นคนของประชาชนต้องรับฟัง กลับไม่สนใจจะเป็น-ตาย บีบให้หายใจไม่ได้

กรณี นางวันทนา โอทอง หรือ “ป้านา” สุภาพสตรีสูงอายุรายหนึ่ง ยืนดักขบวน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ระหว่างลงพื้นที่อำเภอบ้างโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 13 มี.ค. พร้อมตะโกนด่าและตำหนิการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถูกเจ้าหน้าที่กระชากลากตัวและปิดปาก สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ซึ่งหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ฯ, ตะโกนพูดคำหยาบคาย, ทำร้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐฯ และต้องวางเงินประกัน 10,000 บาท โดยประสานความช่วยเหลือจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน อาศัยเงินจากมูลนิธิอิศรา (กองทุนราษฏรประสงค์)

ซึ่งหลังจากได้ประกันตัว ป้าวันนาไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอาการบาดเจ็บร่างกายซีกซ้ายทั้งซีก ข้อเท้า-ข้อมืออักเสบ บวม มีรอยข่วนตามร่างกาย เตรียมเดินทางจาก จ.ราชบุรี มาแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.)

ในวันที่ 14 มีนาคม ที่หน้ากองบังคับการปราบปรามฯ ถนนพหลโยธิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนผู้มีใจรักในประชาธิปไตยต่างเดินทางมาให้กำลังใจ นางวันทนา โอทอง หรือป้านา เป็นจำนวนมาก โดยบางส่วนนำน้ำแดงไปแจก อีกด้วย เมื่อนางวันทนา เดินทางมาถึง โดยขอเก้าอี้เนื่องจากเจ็บขา ก่อนนั่งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนจะมาแจ้งความตำรวจที่รุมทำร้ายร่างกาย

“ป้าจะมาแจ้งความ ในการที่ตำรวจบ้านโป่งรุมทำร้ายป้า ในการละเมิดสิทธิป้า และพยายามกักขังหน่วงเหนียวป้าไว้ รูปคดีเป็นอย่างไร ขอเข้าไปเคลียร์ข้างในก่อน แล้วออกมาแถลงอีกทีหนึ่ง” นางวันทนากล่าว

นางวันทนาเผยว่า ในขณะที่ตนกำลังจะมาพบนายกฯ ซึ่งตอนนั้น นายกฯ ก็ยังไม่ได้เดินทางมาถึง จึงเดินออกมานอกสถานที่เล็กน้อยบริเวณลานจอดรถ โดยยืนอยู่บริเวณนั้น ตำรวจก็เข้ามาถามว่า “ป้ามาทำไม?”

“ป้าบอกจะมาร้องเรียน ร้องทุกข์เรื่องอาชีพค้าขายของป้า มันไปไม่รอดเพราะเรื่องเศรษฐกิจ เขาก็บอกให้ป้าไปที่โรงพัก ศูนย์ดำรงธรรม ป้าบอก ไปมาหมดแล้วที่ตำรวจแนะนำ วันนี้เป็นวันดีนายกฯ มา อยากจะเจอและฝากท่านไว้ แค่นี้ ก็มีตำรวจ ผู้ชาย 2 คนเข้ามาหา ประชิดตัวทำป้าตกใจ เลยบอกว่า ‘อย่าเข้ามานะ’ ป้าดึงคอเสื้อป้าอยู่ ในลักษณะว่าถ้าเข้ามาป้าจะร้องนะ คือมีการดึงคอเสื้อขึ้นมา เขาก็ให้เจ้าหน้าผู้หญิงเข้ามาโอบปลอบเราว่า ‘ใจเย็นๆ นะป้า ไม่มีอะไรๆ’ แล้วก็ชาร์จเลย ไม่มีการถามอะไรทั้งนั้น ชาร์จป้าก่อนเลย นายกฯ ก็ยังไม่ได้เดินทางมาถึงเลย เขาก็บล็อกป้าแล้ว ป้าก็พยายามดิ้นรน ลักษณะการที่เขาอุดจมูกอุดปากป้า ทำให้ป้ามีวูบ ล้มลงไป หายใจไม่ออก”

กรณีที่ว่าได้ตะโกนอะไรก่อนหน้านี้หรือไม่ จึงมีการเข้ามาปิดปาก? นางวันทนาเผยว่า ยังไม่ได้ร้องอะไร

“ยังไม่ได้พูดอะไร ปิดปากเลย มันเป็นการชาร์จที่เขาบล็อกทั้งจมูก ทั้งปากเรา เพื่อไม่ให้เราตะโกน ในขณะที่เราถูกลากเข้าไปในซอกเล็กๆ ซึ่งรูปร่างป้าเป็นคนตัวใหญ่ แก่แล้วจะไปสู้แรงผู้ชายกับผู้หญิง 2-3 คนได้เหรอ เจ้าหน้าที่ผู้ชาย ตอนนั้นเหมือนป้าเหมือนจะขาดสติ เขาข่มขู่ว่า ห้ามร้องนะ ตอนนั้นมีโมโห ก็เลยตะโกนด่ามัน ตอนนั้นป้าล้มลงไปแล้ว เซ แล้วหาที่อะไรไม่ได้ ก็ขยุ้มหัวน้องตำรวจผู้หญิงนั่นแหละ”

กรณีที่มีการเอาร่มมาบังไม่ให้สื่อบันทึกภาพ นางวันทนา กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาเดียวกับเหตุการณ์ที่กล่าวไปข้างต้น

“ตอนนั้น เราจะไม่มีแรงแล้ว จะหมดลมหายใจ เขาก็ ‘เอาบังไว้ๆๆ’ ไม่ให้เห็นภาพที่กระทำรุนแรงกับเรา มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำร้ายโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว เราก็ไม่รู้ แต่พยายามบีบเราให้หายใจไม่ได้ ยังไงก็ได้ เหมือนให้นายกฯ ผ่านไปได้โดยดี โดยที่ไม่สนใจประชาชนอย่างเราว่า ถ้าเกิดมึงตาย หายใจได้ ไม่ได้ มันเป็นเรื่องของคุณ ประมาณนั้น” นางวันทนากล่าว

นางวันทนาระบุว่า มีอายุได้ 62 ปี เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์แรก ลูกและคนรอบข้าง ก็ตกใจกับภาพที่เกิดขึ่น เราก็ไม่ได้คิดว่า ตำรวจของเรา ซึ่งลงมาทานข้าวร้านป้า ร้านคนรู้จัก จะทำร้ายเราได้ขนาดนี้ แค่เราต้องการพบนายกฯ แค่นั้นเอง เราไม่ได้ไปร้องทุกข์ ไปชู หรืออะไร แค่อยากจะไปพูดความในใจของเรา แค่นั้นเอง

เหตุการณ์ดังกล่าว สร้างความหวาดกลัวหรือไม่ นางวันทนา รับว่า ใช่ เพราะเจ้าหน้าที่มีการข่มขู่ตอนที่เอาร่มบัง มีตำรวจผู้ชาย เอาป้ายแขวนคอเข้าด้านในเสื้อ ตนพยายามมองชื่อว่าคือใคร เพราะเขาพยายามทำร้าย บีบแขนให้ทรุดให้ได้ เพราะบีบทั้ง 2 ข้าง ตอนนี้มือก็ยังบวมอยู่

ส่วนว่าก่อนเกิดเหตุชุลมุน มีการแสดงสัญลักษณ์อะไรหรือไม่ นางวันทนากล่าวว่า ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เดินไปอย่างปกติ อย่างประชาชนคนธรรมดาที่จะขอเข้าพบนายกฯ แค่นั้นเอง

กรณีมีภาพว่า ป้านาไปรวมกลุ่มกับบุคคล 3 คน ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นสตรีที่มาตะโกนด่านายกฯ จะชี้แจงอย่างไร นางวันทนากล่าวว่า ภาพนั้น ใช่ตนเองกับสตรีรายดังกล่าว มาเจอกันหน้าศาลาประชาคม

“ไม่ได้นัดหมาย น้องเขาโดนไล่ล่ามา ก็ไปถามว่าทำไมถึงโดนไล่ล่า น้องเขาบอกว่า ตำรวจไล่ล่าเขามาเพราะไปชู 3 นิ้ว”

นางวันทนา ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการวางแผน เพราะว่าน้องเขาก็ยังทำหน้าที่ไลฟ์สดของตัวเองอยู่ จึงเดินลงมาอีกทางซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ

ประเด็นมีการชักชวนคนมารับนายกฯ จริงหรือไม่ นางวันทนากล่าวยืนยันว่า ตนโพสต์ข้อความจริง แต่ไม่ได้เรียกให้ใครมา

“ป้าพูดถึงชาวบ้านที่ได้รับสิทธิในการเข้าพบนายกฯ ที่มีค่าน้ำมัน ค่าเดินทาง ซึ่งทีมงานจัดสรรให้ ป้าบอกก็ว่า “ดีเนาะ ยอมถอยให้พี่น้องเราได้อิ่มปากอิ่มท้อง เงินก็จะได้สะพัด ป้าก็จะขายของดีขึ้น มันเป็นค่าอาหาร ค่าน้ำมันรถ พูดง่ายๆ ค่าเดินทาง ให้ประชาชนที่เขามาร่วม”

ส่วนว่าได้คนละเท่าไหร่นั้น นางวันทนากล่าวว่า ตนไม่ทราบจำนวนแน่นอน แต่เรียกว่ามีค่าเดินทาง

สำหรับความรู้สึกหลังเกิดเหตุ นางวันทนากล่าวว่า เสียใจ ที่นายกฯ เป็นคนของประชาชน แต่ทำเหมือนพวกเราเป็นเศษอะไรสักเศษหนึ่ง ไม่สนใจก็ได้ ทำยังไงก็ได้ ถึงเขาจะเป็นหรือจะตาย ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหา

ประเด็นเรื่องอาการความบาดเจ็บ นางวันทนากล่าวว่า มีบริเวณแขน หยุดทำงานไปก่อน เท้ายืนนานไม่ได้ มันจะอักเสบจากเหตุเมื่อวาน หมอให้หยุดรักษาไปก่อน หยุดเดินเพื่อไม่ให้อักเสบ มันจะบวมกว่าปกติ

กรณีที่เกิดขึ้นอยากฝากบอกอะไรเจ้าหน้าที่ที่ทำร้ายร่างกาย นางวันทนากล่าวว่า อยากบอกนายตำรวจทุกท่าน เข้าใจว่าทำตามหน้าที่ แต่เราควรมีความอะลุ่มอะล่วย ในฐานะที่เป็นประชาชน เสียภาษีให้ตำรวจ ข้าราชการทุกท่าน อย่าทำร้ายประชาชนขนาดนั้นเลย เราก็ประชาชนเหมือนกัน

เรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตที่ว่า รับเงินมาหรือไม่นั้น นางวันทนาระบุว่า ที่บอกว่าป้ารับเงิน ป้าขอปฏิเสธ

“ไม่ได้รับงานใครทั้งนั้น ป้าทำด้วยใจจริง ใจบริสุทธิ์ เราไม่ได้ไปซ้ายไปขวา ต้องการพบนายกฯ โดยที่ผ่านการทำงานเป็นขั้นตอนมาแล้ว เข้าพบตั้งแต่ศูนย์ดำรงธรรมโรงพัก ก็ผ่านมาแล้ว”

อยากบอกอะไรกับนายกฯหรือไม่ นางวันทนากล่าวว่า อย่างที่บอก ถ้าประชาชนรักท่าน มากกว่ากลุ่ม 2-3 คนในบ้านโป่ง ท่านก็ไม่น่าต้องกลัว ไม่น่าให้ลูกน้องทำมากมายเกินกว่ากว่าเหตุ

“ในฐานะที่ป้าเรียกว่า… ขอโทษนะคะ เป็นคราวรุ่นแม่เขาก็ได้ ถ้านายกฯ จะเป็นคนของประชาชน นายกฯ ต้องรับฟังประชาชนได้” นางวันทนากล่าว

ส่วนว่าโกรธนายกฯหรือไม่นั้น นางวันทนากล่าวว่า ไม่ได้โกรธ เขาก็ไม่เคยทำอะไรให้ป้าเดือดร้อน แต่เขามาผิดวิธี ถ้าเปิดทางสู้กันแบบนี้ป้าก็ไม่มีอะไรจะพูด ถ้าเขาได้เป็นนายกฯ เราก็อยู่ของเราอย่างนี้

นางวันทนากล่าวเพิ่มเติมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ชาย ว่า บอกให้ตน “หยุดดิ้น หยุดต่อสู้เจ้าพนักงาน” ตนหายใจไม่ได้เพราะอยู่ในซอกเล็กมาก ก็พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอด มีต่อสู้กัน เมื่อขึ้นรถไปแล้วไม่ได้พูดอะไร พาไป สน.บ้านโป่ง แต่ยังคาใจกับข้อหาส่งเสียงดังในที่สาธารณะ

“ป้ายังไม่ได้พูดอะไรออกจากปากเลย ป้าไปคนเดียว ขี่มอเตอร์ไซค์ไป น้ำมันบ้านป้า” นางวันทนากล่าว

ขณะที่ ทนายความเผยว่า นางวันทนาจะเข้าไปแจ้งความบุคคลในคลิป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พร้อมหลักฐาน เบื้องต้นจะแจ้งความ 2 ข้อหา คือ 1.ทำร้ายร่างกาย และ 2.เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ

จากนั้น เวลา 14.00 น. นางวันทนาเดินเข้าไปแจ้งความ โดยมี น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา เข้าไปด้วย ระหว่างนั้นประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจส่งเสียงตะโกนว่า “ป้านาสู้ๆ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *