24 ตุลาคม 2024

‘ประวิตร’ วิดีโอคอลเวทีปราศรัยส่งใจถึงสมุทรสาคร ขอคะแนนผู้สมัครเบอร์ 1 ทั้ง3เขต และกา 37 พปชร.

0

เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเวทีปราศรัยที่ วัดยกระบัตร จังหวัดสมุทรสาคร โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โทรศัพท์ผ่านระบบวีดีโอคอลมายังเวทีปราศรัย เพื่อทักทายพี่น้องประชาชนกว่า 10,000 คน พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า, ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ร่วมขึ้นปราศรัยนโยบายพรรค โดยมี นายภัฎ สุริวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดสมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ได้แก่ นายวัฒนา แตงมณี เขต 1 เบอร์ 1, น.ส.ปัณฑารีย์ มั่งมี เขต 2 เบอร์ 1และ น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ เขต 3 เบอร์ 1 ร่วมปราศรัยและแนะนำตัว

พล.อ.ประวิตร กล่าวสวัสดีชาวสมุทรสาคร และขอบคุณพี่น้องประชาชนมาร่วมเวทีปราศรัยที่รักทุกคน ตนเข้าใจดีว่าชาวสมุทรสาครมีความสำคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก โดยพรรคให้ความสำคัญกับพื้นที่นี้ เพราะเป็นจังหวัดที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ที่เกิดจากความร่วมมือของพี่น้องทุกคน ขอฝากผู้สมัครทั้ง 3 เขตเข้าไปทำหน้าที่ในสภาฯ เพื่อผลักดันให้ประชาชนมีรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในโอกาสเทศกาลปีใหม่ไทย ขออวยพรให้พี่น้องชาวสมุทรสาคร คิดสิ่งใดขอให้สมความปรารถนา และมีความเจริญรุ่งเรือง

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พื้นที่สมุทรสาครเป็นเป้าหมายสำคัญของพรรคที่จะผลักดันการพัฒนาให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังการแพร่ระบาดโควิด 19 เพราะเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในการสร้างรายได้เข้ากับประเทศ สะท้อนจากผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ที่สร้างรายได้สูงถึง 400,000 ล้านบาท คิดเป็น 2.5% จัดเป็นจังหวัดลำดับ 6ของประเทศ และเมื่อรวมอีก 5 จังหวัดมีพื้นที่ติดสมุทรสาคร ทั้ง ราชบุรี สมุทรสงคราม นครปฐม กรุงเทพฯ มีมูลค่าจีดีพีถึง 7 ล้านล้านบาท คิดเป็น50% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ ซึ่งเป็นผลงานของชาวสมุทรสาคร ซึ่งที่ผ่านมาเราได้รับข้อมูลจาก ส.ส.จอมขวัญมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำข้อมูลมารายงาน ทีมนโยบายและผู้บริหารมาโดยตลอด ทั้งการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตร เพราะพื้นที่จังหวัดมีความหลากหลายทางอาชีพ และรายได้มาจากอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำนาข้าว ทำสวน ประมง ทำโรงงานอุตสาหกรรม ฟาร์มกุ้ง ฟาร์มปลา เป็นต้น

ทำให้วันนี้ พรรคพปชร.ต้องให้ความสนใจและสานต่อ เพราะการฟื้นฟูเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเรามีส.ส.ทั้ง 3 เขตที่เข้าใจในพื้นที่อย่างแท้จริง ถือเป็นคนสมุทรสาครทั้งสามคน ไม่ใช่คนหน้าใหม่ของพี่น้องประชาชน เป็นผู้สมัครที่ได้เบอร์ 1 ล้วนแล้วเป็นคนคุณภาพ ไม่ทิ้งพื้นที่ ตั้งแต่การแพร่ระบาดก็ได้เข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือประชาชน ตั้งโรงพยาบาลสนาม ตั้งโรงทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน

“เรามีผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 เขต ที่เข้าใจพื้นที่และปัญหาในแต่ละเขตเป็นอย่างดี เพราะเป็นคนพื้นที่ที่มีความใกล้ชิดกับประชาชน ไม่เคยทอดทิ้งกัน แม้ในช่วงสถานการณ์โควิดที่ยากลำบาก ราก็จับมือฝ่าฟันวิกฤติมาด้วยกัน อย่าง ส.ส.จอมขวัญ ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ประชาชนและมุ่งแก้ปัญหาให้กับทุกคนอย่างเต็มที่”ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ดังนั้น พรรคต้องกลับมาปักธงอีกครั้ง ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกทั้งสามคนเพื่อเป็นปากเสียงในการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในสภาฯ นอกจากเบอร์ 1 เพื่อเลือกผู้สมัครแล้ว ยังมีเบอร์ 37 ซึ่งเป็นเบอร์ของพรรค ซึ่งจำได้ง่าย 3700 มาจาก 3000 คือเบี้ยผู้สูงอายุ และ 700 คือลุงป้อม 700 ดังนั้น ต้องเลือกทั้งเขต และพรรค เพื่อนำนโยบายให้ถึงมือพี่น้องประชาชน ขอให้วันที่ 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหากาเบอร์ 1 และพรรคเบอร์ 37

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวปราศรัยว่า ผมในฐานะตัวแทนของพรรคพลังประชารัฐ ขอยืนยันกับประชาชนว่า การเลือกตั้งปี66 นี้ เราจะได้ชัยชนะที่จังหวัดสมุทรสาครยกจังหวัด ในอดีตที่ผ่านมาประเทศไทยมัวแต่เล่นกีฬาสี ทำให้ประเทศไม่เดินหน้าไปไหน พรรรพลังประชารัฐจึงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยของเราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อไปสู่การพัฒนาของประเทศไทย สุดท้ายนี้ บ้านเมืองเราจะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ ถ้าขาดเจ้าของประเทศอย่างพวกเรา ดังนั้นในวันที่ 14 พ.ค. อย่าลืมเข้าคูหากาหมายเลข 1 เลือก ส.ส.สมุทรสาคร และหมายเลข 37 ของพรรคพลังประชารัฐ

ด้านนายสนธิรัตน์ ได้กล่าวปราศรัยว่า ประเทศไทยประสบกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและเรื่องปากท้องของประชาชนมายาวนานต่อเนื่อง แต่วันนี้พรรคพลังประชารัฐเรามีทีมเศรษฐกิจระดับประเทศ ถูกยกย่องถือว่าเป็นขุนพลทีมที่ดีที่สุด ที่จะเข้ามาใช้ประสบการณ์ที่มีแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน และคนที่รวบรวมพวกเราให้มารวมกันได้ก็คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วันนี้เราขอโอกาสจากพี่น้องที่นี่ให้ไว้วางใจเราอีกครั้งหนึ่ง เหมือนในปี 62 ที่ผ่านมา

จากนั้นผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐสลับกันขึ้นปราศรัยนำโดย น.ส.จอมขวัญ กลับบ้านเกาะ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร และผู้สมัครเขต 3 เบอร์ 1 กล่าวปราศรัยว่า การทำหน้าที่ ส.ส.ในสี่ปีที่ผ่านมา ตนได้ทำหน้าที่ผู้แทน โดยนำความเดือดร้อนของประชาชนเข้าไปหารือและแก้ไขในที่ประชุมสภาฯ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างประตูระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วมตรงทางเข้าบ้านแพ้ว แต่ก็ยังมีสิ่งที่ตนอยากจะทำต่อเพื่อให้พี่น้องชาวสมุทรสาครมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นขอให้พี่น้องประชาชนพิจารณาจอมขวัญคนทำงานจริง เบอร์ 1 ด้วย

นายวัฒนา แตงมณี ผู้สมัครเขต 1 เบอร์ 1 กล่าวว่า ตนมีประสบการณ์ในการเมืองมานาน ทำงานแบบซื่อสัตย์ ไม่ทุจริต ไม่คอรัปชั่น ไม่โกหก จังหวัดสมุทรสาคร คือบ้านเกิดของตน ราต้องการเข้ามาเพื่อสร้างและไม่ทำร้ายใคร ตนเป็นนักบริหารและนักธุรกิจก็ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ในช่วงแรกก็ไม่เคยคิดจะมาเล่นการเมืองระดับชาติ แต่ได้รับการเชื้อเชิญจาก ร.อ.ธรรมนัส จึงตกลงเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ตนอาจจะเป็นคนตรงๆ แต่พูดทุกอย่างออกมาจากใจและความรู้สึกจริงๆ จากนี้ไปตนจะทำงานเพื่อชาวสมุทรสาครอย่างเต็มที่

ด้าน น.ส.ปัณฑารีย์ มั่งมี ผู้สมัคร เขต 2 เบอร์ 1 กล่าวว่า หลายคนคิดว่าเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ ไม่มีประสบการณ์ แต่ตนเกิดที่นี่ โตที่นี่ ต้องการเห็นอำเภอกระทุ่มแบนพัฒนาอย่างยั่งยืน ถึงแม้ตนจะเป็นหน้าใหม่ แต่ก็ทำงานให้กับชาวบ้านอำเภอกระทุ่มแบนมากกว่า 10 ปี ในฐานะลูกของกำนันกุ้ง การเลือกตั้งครั้งนี้ขอโอกาสให้กับผู้สมัครหน้าใหม่อย่างน้ำ ให้เข้าไปดูแลและแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *