24 ตุลาคม 2024

‘ธนาธร’ เหน็บนโยบายลดค่าไฟใครก็พูดได้ แต่มีแค่พรรคก้าวไกลที่กล้าจะรื้อระบบผูกขาด

0

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้โพสต์บนเฟซบุ๊ค เกี่ยวกับเรื่องค่าไฟฟ้าแพงที่กำลังถูกประชาชนบ่นว่าอย่างหนักในเวลานี้ ใจความว่า นโยบายลดค่าไฟใครก็พูดได้ แต่พรรคที่จะเข้าไปรื้อระบบผูกขาดธุรกิจไฟฟ้าที่ไม่เป็นธรรม คือพรรคก้าวไกล

ภายใต้การบริหารของรัฐบาลประยุทธ์ ประชาชนต้องแบกรับค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวันที่ 1 มกราคม 2564 จนถึงต้นปี 2565 ค่าไฟประชาชนเพิ่มขึ้นแล้วมากกว่า 30% สำหรับภาคครัวเรือน (จากเฉลี่ย 3.68 บาท/หน่วย เป็น 4.72 บาท/หน่วย)

ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าบ้านประชาชนธรรมดา ต้นปี 2564 เคยจ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละ 2,000 บาท มาต้นปีนี้จ่ายค่าไฟเพิ่มอีก 600 บาท เป็น 2,600 บาท โดยใช้ไฟเท่าเดิม

และถ้าคุณคิดว่าค่าไฟเดือนนี้แพงแล้ว เดือนหน้าค่าไฟอาจจะแพงกว่านี้ขึ้นอีกนะครับ เพราะรัฐบาลมีแผนจะเพิ่มค่า FT สำหรับภาคครัวเรือน จากหน่วยละ 93 สตางค์ เป็นหน่วยละ 98 สตางค์ เพื่อเฉลี่ยให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าเท่ากับภาคธุรกิจที่ลดลงมา 56 สตางค์

ค่าไฟที่แพงขึ้น มาจากสิ่งที่เรียกว่าค่า FT หรือต้นทุนผันแปรซึ่งส่วนใหญ่ค่าเชื้อเพลิง สิ่งที่รัฐบาล “อ้าง” กับเรามาตลอดก็คือราคาก๊าซ LNG นำเข้าในตลาดโลกสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนของก๊าซธรรมชาติที่นำมาผลิตไฟฟ้าแพงขึ้น คำอธิบายนี้ฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่ความจริงแล้วไม่เป็นธรรม

ประเทศไทยมีก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่สามารถขุดได้ในราคาถูกนั้น กลับถูกเอาไปจัดสรรให้ ปิโตรเคมีและเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ก่อนที่จะเอาไปจัดสรรให้กับโรงไฟฟ้า
ปี 65 ประเทศไทยผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งต่างๆ ได้ 2,648 ล้านลูกบากฟุต/วัน
ความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อการผลิตไฟฟ้าประเทศไทยอยู่ที่ 2,437 ล้านลูกบากฟุต/วัน

ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย 2 บาท/หน่วย แต่ 59% ขายให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี คือโรงแยกก๊าซของ ปตท. และเครือ PTTGC
ในขณะที่ต้นทุนค่าก๊าซนำเข้า LNG นำเข้าที่ผลิตให้กับประชาชนมีต้นทุน 7-8 บาท/หน่วย กลายเป็นประชาชนต้องมาจ่ายค่าไฟฟ้าแพง จากราคา ก๊าซนำเข้า LNG ทั้งๆที่มีก๊าซธรรมชาติในประเทศเพียงพอผลิตไฟฟ้าให้ถูกลงได้

ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา อาจมองว่าก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยราคาถูกที่กลายเป็นกำไรเข้าสู่ ปตท. ไม่มีปัญหาอะไร เพราะ ปตท. เป็นรัฐวิสาหกิจ แล้วค่อยปันผลให้เป็นรายได้รัฐบาล แต่อย่าลืมนะครับว่าสัดส่วนหุ้น ปตท. ที่ถือโดยรัฐบาลคือ 51% กองทุนรวมวายุภักษ์ของกระทรวงการคลังอีก 12% สำนักงานประกันสังคมอีกเกือบ 2% ในขณะที่อีก 35% นั้นถือหุ้นโดยบริษัทต่างชาติและเอกชนรายอื่นๆ ซึ่งนั่นหมายความว่าผลประโยชน์จากนโยบายจัดสรรทรัพยากรก๊าซธรรมชาติที่ไม่เป็นธรรม ก็ไม่ได้เข้ากระเป๋ารัฐบาลทั้งหมด แต่กลายเป็นซ้ำเติมค่าใช้จ่ายประชาชน

นี่คือความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากรของประเทศ คำถามของเราคือทรัพยากรธรรมชาติของประชาชน ควรจัดสรรเพื่อกำไรสูงสุดของกลุ่มทุน หรือควรจัดสรรเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน อย่าลืมนะครับว่าค่าไฟฟ้าคือค่าใช้จ่ายพื้นฐานของทุกครอบครัว และเป็นต้นทุนที่สำคัญของธุรกิจ

ผมจึงสนับสนุนนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่จะเปลี่ยนนโยบายการจัดสรรทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ โดยภายใน 100 วันแรก รัฐบาลก้าวไกลจะใช้กลไกคณะกรรมการกำกับดูแลนโยบายพลังงาน (กพพ.) ออกกฎการจัดสรรทรัพยากรใหม่ ซึ่งจะลดค่าไฟฟ้าได้ 70 สตางค์ ภายใน 1 ปีแรกหลังเป็นรัฐบาล

นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีอีกหลายนโยบายที่จะทำลายการผูกขาดในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นการปลดล็อกกฎระเบียบที่ขัดขวางการติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าของบ้านเรือนแบบ Net Metering และการเปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้าให้ประชาชนเลือกซื้อไฟฟ้าที่ถูกกว่าหรือสะอาดกว่าได้ ไม่ต้องซื้อจากการไฟฟ้าฯ ที่เบื้องหลังคือการประกันกำไรให้นายทุนตามนโยบายรัฐบาล ให้การแข่งขันการันตีว่าประชาชนและธุรกิจจะได้ซื้อไฟฟ้าที่ดีที่สุดได้ในระยะยาว รวมทั้งกล้าชนกับกลุ่มทุนพลังงานที่ได้รับอนุมัติโรงไฟฟ้าเพิ่มจากรัฐบาลพร้อมประกันกำไรมาตลอด 20 กว่าปี เพื่อลด ‘ค่าความพร้อมจ่าย’ ไม่ให้ประชาชนต้องจ่ายเงินให้กับโรงไฟฟ้าที่ไม่เดินเครื่องผลิตไฟฟ้ามากขนาดนี้

ประเทศไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่าความต้องการใช้ 60% โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ของประเทศไทยไม่ได้เดินเครื่องเลยแม้แต่วันเดียว 7 โรง จาก 13 โรง มีเจ้าสัวโรงไฟฟ้าที่รวยขึ้นจนติดอันดับโลกได้ภายใน 10 ปี โดยไม่ได้มีนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ เลย บริษัทโรงไฟฟ้ามีกำไรเป็นหมื่นล้าน ในขณะที่ประชาชนทั้งประเทศต้องรับภาระค่าไฟแพง นี่คือความไม่เป็นธรรม

ผมคิดว่าเราปล่อยให้ประเทศไทยเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ นโยบายลดค่าไฟใครๆ ก็พูดได้ แต่พรรคเดียวที่จะเข้าไปรื้อระบบผูกขาดในธุรกิจไฟฟ้าของประเทศ มีเพียงพรรคเดียวคือพรรคก้าวไกล

ถ้าทุกคนเห็นว่าระบบที่เป็นอยู่นี้ไม่เป็นธรรม ค่าไฟฟ้าที่คุณต้องจ่ายในบิลค่าไฟไม่เป็นธรรม
14 พฤษภานี้ ช่วยกันกาก้าวไกลให้ถล่มทลายครับ

ภาพ เฟซบุ๊ก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *