เผ่นแน่บ! ‘ประยุทธ์’ หาเสียง ถูก‘ชูวิทย์’ ดักรอถามจุดยืนกัญชาเสรี ต้องเลี่ยงหนีออกจากร้าน
น่าสังเกตุ ลงพื้นที่หาเสียงซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว แต่กลับมีการใช้กำลังทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเพียบ
วันที่ 20 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นั่งรถยนต์ไฟฟ้า EV มาถึง พร้อมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนเดินหาเสียงที่ย่านเยาวราช แวะชิมร้านขนมหวานเก่าแก่อายุ 50 ปี และแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง ยู้ลูกชิ้นปลาเยาวราช ซึ่งระหว่างนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้มาดักรอพบ พล.อ.ประยุทธ์ บริเวณหน้าร้านอาหารบะหมี่ขาวมังกรฟ้า ที่พรรค รทสช.ได้จองที่นั่งไว้ให้พล.อ.ประยุทธ์ กินมื้อเย็น แต่ก็ไม่ได้ไป
นายชูวิทย์ ระบุว่า มาดักรอพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อจะถามว่าเห็นด้วยกับนโยบายกัญชาของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่ และปล่อยให้นายอนุทินทำแบบนี้ได้อย่างไร
ซึ่งนายชูวิทย์ ยังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนให้มารับสติ๊กเกอร์การต่อต้านกัญชาเสรี พร้อมระบุว่า เยาวราชคือถิ่นบ้านเก่าของตน ยืนยันว่านโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทยต้องระวังให้ดี อย่าไปบ้ากัญชา เพราะกัญชาจะมีประโยชน์ก็แค่เอาไปสกัดน้ำมันเอาไปรักษาโรคเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อนายชูวิทย์เห็นว่ารอนานแล้ว จึงตัดสินใจเดินไปที่ร้านยู้ลูกชิ้นปลาเพื่อพบ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมถือโทรโข่งประกาศจุดยืนกัญชาเสรี เมื่อมาถึงหน้าร้านทีมรักษาความปลอดภัยของ นายหิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรค ได้บล็อกไม่ให้นายชูวิทย์เข้าไปในร้าน ขณะที่นายหิมาลัยได้เข้าไปรายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ทราบว่านายชูวิทย์กำลังมา ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ที่ทานบะหมี่ลูกชิ้นปลาอยู่ต้องหยุดทาน จากนั้นนายหิมาลัยและทีมรักษาความปลอดภัยได้เดินนำ พล.อ.ประยุทธ์ออกทางซ้ายของร้านอย่างรีบร้อน เพื่อเลี่ยงเจอกับนายชูวิทย์
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายชูวิทย์มาถือว่าทำให้เสียบรรยากาศหาเสียงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็มีบ้าง เมื่อถามว่า ทำไมถึงไม่พบกับนายชูวิทย์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มันคนละงานกัน วันนี้มาหาเสียง
ขณะที่นายชูวิทย์ตะโกนว่า “นี่คือบ้านของผม ผมจะมาต้อนรับบ้างไม่ได้หรืออย่างไร ทำไมต้องกันกันด้วย ก็แค่จะมาถามดีๆ ไม่เป็นไร ไว้ค่อยเจอใหม่ค่อยถาม”
ที่น่าสังเกตก็คือ นอกจากตลอดเส้นทางจะมีทีมรักษาความปลอดภัยของนายหิมาลัยอย่างเข้มงวดแล้ว ยังมีทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ บริษัทรักษาความปลอดภัยเอกชนผนึกกำลังกันด้วย ซึ่งก่อให้เกิดคำถามว่า ในเมื่อเป็นการลงพื้นที่หาเสียงซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วทำไมจึงมีการใช้กำลังทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบเช่นนี้
