24 ตุลาคม 2024

‘เต้ มงคลกิตติ์’ จวกแรงปัญหาค่าไฟฟ้าแพง ลั่น เจ้าสัวหน้าไม่เหมือนพ่อ พร้อมรื้อสัญญาแก้ปัญหา

0

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่เดินทางไปกราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดตรัง และให้สัมภาษณ์ว่า แม้ว่าจังหวัดตรังทางพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ได้ส่ง ส.ส. เขต แต่ก็มาหาเสียง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เบอร์ 42 ซึ่งนโยบายพรรค คือการขับเคลื่อนเรื่องค่าไฟฟ้าที่แพงมากขึ้นในขณะนี้ โดยมองว่า ค่าเอฟทีสูง เพราะมีการสำรองไฟฟ้ามากเกินไป ปัจจุบันมีการผลิตไฟฟ้าไว้ประมาณ 51,000 เมกะวัตต์ และพีคสุดในเดือนที่ผ่านมา 33,000 เมกะวัตต์ ซึ่งมองว่ามีการสำรองไฟมากเกินไป และมีการซื้อจากเอกชนและเพื่อนบ้านด้วย ทำอย่างไรให้ค่าเอฟทีลดลงเกือบ 1 บาทต่อหน่วย จึงต้องไปดูสัญญาระหว่างเอกชนช่วงรัฐบาลคสช. จนถึงรัฐบาลลุง เพราะมีการเซ็นสัญญาเยอะมากในช่วงนั้น

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า พีเรียตในการใช้ไฟในช่วงหน้าฝน หน้าหนาวนั้นใช้น้อย ใช้อยู่ที่ 22,000 เมกะวัตต์เท่านั้น สามารถสำรองไฟไว้ที่ประมาณเพื่อไว้ที่ 38,000 เมกะวัตต์ได้ สามารถขายคืนให้เอกชนได้ 13,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะสามารถลดค่าเอฟทีลงได้ แตสำคัญคือ หากมีการยกเลิกสัญญาไปแล้วใครจะได้ประโยชน์หรือไม่ได อันนี้ไม่รู้ เจ้าสัวจะอุปถัมภ์ใครตนไม่ทราบ กระทรวงพลังงานไปอุปถัมภ์พรรคใดตนไม่ทราบ

“ที่ผมทราบคือ ทำอย่างไรให้ประชาชนจ่ายค่าเอฟทีน้อยลง โดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐ คือต้องยกเลิก แตหากไม่มีกฏหมายรองรับโดนฟ้องแน่ ดังนั้นต้องยกเลิกซื้อไฟจากเอกชนจำนวน 15,000 เมกะวัตต์ โดยต้องออกเป็นพระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนดให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เป็นผู้ยกเลิก ขอซื้อหุ้น ปตท. 1.5 ล้านบาทคืนประชาชนโดยออกเป็นพรก.”

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่รู้จักพรรคไทยศรีวิไลย์จากโลกออนไลน์ และจากการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ดังนั้น พรรคขนาดกลางไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัคร ส.ส. ลงครบทุกเขต การส่งตัวผู้สมัครลงทุกเขตโดยที่ไม่หาเสียงเลือกตั้งก็เหมือนส่งแปะไม่มีประโยชน์อะไร ส่วนใหญ่จะส่งผู้สมัครที่หาเสียงเท่านั้น บางพรรคส่ง 400 เขต หาเสียงอยู่ 50 เขตเอง มันก็เหมือนกัน เพราะงบประมาณเรามีจำกัด ส่วนคะแนนพรรคตนเชื่อว่าทาง กกต. ส่งรายละเอียดของบัญชีรายชื่อที่บ้านของประชาชนและหน่วยเลือกตั้งอยู่แล้ว คงไม่น่ามีปัญหาอะไรมากนัก

ทั้งนี้ ระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อ ระบบเขตสู้ประมาณ 30 เขต ส่วนบัญชีรายชื่อกำหนดไว้ประมาณ 7 คน ส่วนเขตหวังสูงสุด 16 คน บัญชีรายชื่อไม่เกิน 25 คน สามารถเสนอแคนดิเดตนายกได้ ส่วนจะได้น้อยหรือมากก็ขึ้นอยู่กับประชาชน ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่มีหัวคะแนนมีแต่เอฟซี และไม่ซื้อเสียงประชาชนเป็นรายหัว แบบประมาณ 9 พรรคที่ทำกันอยู่ หัว 500, 900 หรือ 1,000 บาท เราไม่ได้ทำ ซึ่งตนเชื่อว่า กกต.รู้ดี

“เราไม่ได้ซื้อด้วยเงินแต่เราซื้อด้วยใจของประชาชน เราหานโยบายดี ๆ และคิดว่าเราทำได้จริง เราไม่อยากได้ ส.ส. ที่ไปซื้อเสียงจนเว่อร์ สุดท้ายก็ไปโกงเลือกตั้ง โกงงบประมาณแผ่นดิน เราไม่เอา เพราะฉะนั้นถ้าตนไปรับเงินเจ้าสัวมา คงไม่กล้าออกนโยบายยกเลิกสัญญาซื้อไฟฟ้าจากเอกชนได้ หรือหากรับเงินจากปตท. จะกล้าออกนโยบายซื้อหุ้นคืนไดอย่างไร พรรคไทยศรีวิไลย์เป็นเรื่องของส่วนรวมทั้งนั้น ไม่มีเรื่องส่วนตัว ไม่เกรงใจใคร เกรงใจประชาชนอย่างเดียว ตามสโลแกนพรรค “แคร์ประชาชน ไม่ได้แคร์เจ้าสัว” เพราะเจ้าสัวไม่ใช่พ่อ หน้าไม่เหมือนพ่อ หน้าเป็นแบบฝรั่งๆ”

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า หากเป็น ส.ส. เลือกอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยอยู่แล้ว ซึ่งทุกพรรคก็บอกว่าเลือกอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าเราไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง เช่น พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ มาจากคสช. ก็ใช่เช่นกัน อันนั้นคือเผด็จการยึดอำนาจมา ส่วนคนที่มาจากประชาธิปไตยเดิมคือ คนที่โดนยึดอำนาจที่มีการติดคุกร่วม 100 คน อันนี้ตนมองว่ามันก็ไม่ดี ไม่มีอะไรดี ซึ่งการนับครั้งนี้ถ้าใครมีเสียงเกินครึ่งได้เป็นรัฐบาล ตนเองรับได้เกือบทุกพรรค

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *