ระแวง! พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน 7.5 ล้านใบ

ไพศาล พืชมงคล ซึ่งปูมหลังจุดแกร่งคือการเป็นนักกฎหมาย มีความรอบรู้ เป็นนักอ่านตัวยง ยิ่งมาคลุกคลีในแวดวงการเมือง เป็นอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี มีพรรคพวกเพื่อนฝูงเยอะ จึงมีข้อมูลมากมาย ผสมกับมุมมองส่วนตัว จึงทำให้ได้เห็นได้อ่านมุมมองที่น่าสนใจทางการเมืองเยอะมาก

เยอะจนกระทั่งท่าน บก.ยังออกปากยอมรับ ว่าลงข่าวเกี่ยวกับไพศาลพูดได้ไม่ทันจริงๆ

ก็เลยเสนอไปว่าถ้างั้น ก็เอามาเขียนเป็นบทความบ้างก็ได้ พูดจบปุ๊บ บก.บอกดีเลย งั้นคุณรับไปทำด้วย!!!

เอาก็เอาวะ หยิบประเด็นที่ ไพศาลพูดเกี่ยวกับเรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน 7.5 ล้านใบ และต้องการให้ตรวจสอบให้ดี ระมัดระวังเรื่องนี้ให้มากๆ เพราะมันอาจจะมีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้นก็ได้

เหตุผลแรกก็คือ ข่าวเรื่องพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน7.5ล้านใบ มันฮือขึ้นมาในช่วงนับถอยหลังการเลือกตั้ง ทำให้กระบวนการจับโกงจึงฮือตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเข้มข้น

เพราะบัตร7.5 ล้านใบ คำนวณเป็นสส. ได้ 23 คน แต่ถ้านำไปเพิ่มจำนวนให้กับเขตเลือกตั้งที่คะแนนห่างกันไม่มาก ก็อาจทำให้ได้สส.เพิ่มขึ้นนับร้อยคนทีเดียว แน่นอนถ้าเกิดขึ้นจริง ซึ่งสำหรับการเมืองใต้อำนาจรัฐบาลยุคนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

ไม่แปลกที่ไพศาลมองว่า ทำให้ทุกพรรคการเมืองผวา!!!!

อันนี้แย้งนิดนึงนะ ว่าคงไม่ทุกพรรคหรอกที่ผวา อย่างน้อยก็มีไอ้พรรคขี้โกงนั่นล่ะ ที่แอบหัวร่อคิกคักชอบใจ

ไพศาล เรียกร้องให้ กกต.ชี้แจงให้ชัดเจน ว่าได้พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกิน 7.5 ล้านใบหรือไม่? เพราะอะไรจึงต้องพิมพ์เกินขนาดนี้? และจัดเก็บไว้ที่ไหน? มีระบบการเบิกจ่ายบัตรนี้อย่างไร? ใครเบิกได้และใครเป็นผู้อนุมัติ? และจะมี คนกลางตรวจสอบได้อย่างไร ว่านำเอาไปใช้ที่ไหนจำนวนเท่าใดเพื่ออะไร? เพื่อทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรม

ถ้าชี้แจงไม่ได้ เรื่องนี้อาจระเบิดเถิดเทิงแน่!!!!

ชี้แจงสไตล์ กกต. ก็อย่างที่ท่านไพศาลเห็นนั่นแหละ งงทั้งคนฟัง มึนทั้งคนแถลง

แน่นอน อย่างที่บอกว่าพรรคการเมืองอาจหวาดระแวงว่า จะมีการนำบัตรเลือกตั้งที่พิมพ์เกินไปใช้ในการทุจริต
ดังนั้น จึงอาจฟ้องร้องคดีต่อศาล และขอให้ศาลมีคำสั่งอายัดบัตรเลือกตั้งดังกล่าวไว้ จนกว่าจะมีคำชี้แจงให้เป็นที่พอใจของศาล หรือกำหนดวิธีการควบคุม โดยให้เบิกเอาไปใช้ได้ตามความจำเป็น ซึ่งกกต.จะต้องทำเบิกตามจำนวนที่ต้องการใช้จริง พร้อมระบุข้อมูลต่อศาล!!!!

อันนี้น่าสนใจ คล้ายการขอคุ้มครองฉุกเฉิน แต่ถ้าข้างหลัง กกต. มันมีคนถือด้ามอำนาจอยู่อย่างโอหัง งานนี้ก็อาจจะไม่ง่ายเหมือนกัน เพราะถ้ากดจน กกต.เชื่อฟังได้ มันจะไม่พยายามแทรกแซงศาลหรือ? น่าคิดเหมือนกันนะ

ไพศาลฝากความหวังไว้ที่ภาคประชาชน ทั้งที่อยู่ในขบวนการจับโกงเลือกตั้ง และประชาชนทั่วประเทศที่ระแวงว่า “ใครโกงการเลือกตั้ง” ต้องช่วยกันตรวจสอบ และกดดันให้ไอ้โม่งถูกแฉ และทำให้พวกที่หงอต่ออำนาจไอ้โม่งไม่กล้าให้ความร่วมมือในการทำผิด

แน่นอนว่าเห็นด้วยที่ควรกระตุ้นให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและป้องกันการโกงเลือกตั้ง

แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า 8 ปี ที่ผ่านมา ทั้งๆที่บอกปาวๆว่าทำโน่นทำนั่นเยอะแยะไปหมด มีผลงานเพียบ

แล้วทำไมพอถึงเวลาเลือกตั้ง ดันมีข่าวเรื่องความพยายามโกงเลือกตั้งโดยคนของรัฐบ้าง โดยคนขององค์กรอิสระบ้าง หรือคนพวกนี้กลัวผลงานนายไม่พอ กลัวนายจะแพ้ ก็เลยคิดจะช่วยโกงแทนนาย

โดยที่นายไม่ได้สั่งสักแอะเลยนะ… เผือก!ช่วยนายล้วนๆ

อัคคี กัมปนาท