24 ตุลาคม 2024

“ตีป้อมค่ายประชาธิปไตยแตก”

“โกงเลือกตั้ง” เหนือกว่ายุค “จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์”  มีการ “ซื้อเสียง” กันอย่าง-เหลวแหลก

“ทัพหลวง” ที่จะ “รักษาด่านประชาธิปไตย” ไม่ให้ “ล่มสลาย” เพราะการแจกจ่ายเงิน.. หลายแห่งว่ากันถึง “หัวละ ๓ พันบาท” ทีเดียว

เป็นเรื่องสำคัญ ที่ “แม่ทัพใหญ่” อย่าง “กกต.” ต้องกวดขัน เพื่อปราบปราม  “ยับยั้ง” หยุดไว้ ห้ามไว้ ไม่ให้ “วงจรอุบาทว์” การซื้อเสียง “กล้ำกราย” เข้าทำลายประชาธิปไตย

ซื้อเสียงเงียบกันสะเด็ด..สอบแต่ “ดิจิตอลวอลเล็ท” -ของพรรคเพื่อไทย

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“การเลือกตั้งเป็นเรื่องด่วน”

“กกต.” ต้องตั้ง “กรรมการ” มาเช็คบิล เรื่องนี้ เป็นสิ่ง-สมควร

“เงียบเป็นเป่าสาก”..แต่จะเรียก “นักร้อง” ที่จองจะ “ยุบพรรคเพื่อไทย” มาให้รายละเอียด.. ทั้งที่ “พรรคเพื่อไทย” ส่งทุกเรื่องของ “ดิจิตอล วอลเล็ท” ไปถึงมือ “กกต.” กันเป็นที่เรียบร้อยสมใจนึกแล้ว

เอาเวลามาจัดการ “ปราบการซื้อเสียง” ที่กำลัง “แพร่ระบาด” กันไปทั้งประเทศ โดยเฉพาะที่ “ภาคอีสาน” และ “ภาคใต้” จดชื่อและจ่ายเงินกัน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ซื้อกันโจ๋งครึ่ม..  “กกต.เหมือนจะลืม” เอาแต่ตั้งหน้าสอบ-พรรคเพื่อไทย

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“ขออนุมัติแล้วไม่ผิด”

ทำกันง่ายๆ เช่นนี้ ไม่มี “มาตรฐาน” -ควรเอาไปคิด

คนของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ยิงเลเซอร์เรียกร้องให้ประชาชน “เลือกเบอร์ ๒๒” เพื่อสนับสนุน “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” เป็นนายกรัฐมนตรี..ซึ่งการฉายสไลด์เลเซอร์ยิงไปยัง พื้นที่ “ราชการ” เป็นสิ่งที่ผิด คนของพรรคการเมืองต้องรู้

ถ้าเช่นนั้น หากมี “ประชาชน” ทำหนังสือ “แนบท้าย” ขอกับ “เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ขอชกปาก “พวกที่ปฏิวัติมา” ถึงจะผิด แต่เจ้าหน้าที่ “ไม่ได้อ่านเอกสาร “ให้ครบถ้วน “ชาวบ้าน” เกิดลงมือไปแล้ว เขาย่อมไม่น่าผิดเหมือนกัน

ถึงขออนุญาต.. “แต่ทว่าอำนาจ” เขาให้ทำผิดได้ไม่มีหรอก-นะท่าน

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“พูดมาตรงกับหลักการประชาธิปไตย”

ให้ “พรรคได้เสียงข้างมาก” ชนะเลือกตั้ง ๖๖ ได้เป็น “แกนนำจัดตั้งรัฐบาล” -ก่อนใคร

เมื่อเปิดก๊อก เป็น “หัวหอก” ในเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว. “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ทำ “สัตยาบันไว้” กับ “ประชาชนทั้งประเทศ” เพื่อไม่ให้พลิกลิ้น

“ชวน หลีกภัย” เคยขายวาทะกรรม “เชื่อมั่นในระบอบรัฐสภาฯ” ฉะนั้น “พรรคประชาธิปัตย์” ต้อง “ร่วมโหวต” ให้กับพรรคอันดับ ๑ ชนะเลือกตั้งได้เป็น  “นายกรัฐมนตรี”

๒ พรรคว่าเกิดปฏิวัติ.. “ครั้งนี้โชว์มันชัด ๆ”เพื่อยืนยันหลักการ ที่บอกว่า-เคยมี

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

“ปฏิวัติ ปี ๕๗ ใหญ่เบ็ดเสร็จคับเมือง”

“ถือปืน” วางอำนาจ –มันไม่เอาเรื่อง

ฟังปฏิบัติการณ์ ส่งรถทหาร “ฮัมวี่” ใช้ในสถานการณ์รบ ไปยังหน้าบ้าน “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่มี “คุณแม่วัยชรา” อายุ ๘๐ ปีอยู่ที่บ้าน “หญิงผู้เฒ่า” ทำไมต้องมาถูกทหารเฝ้าหน้าบ้าน กันถึงเพียงนี้

ช่วงดังกล่าว “เศรษฐา ทวีสิน” บินไปทำธุรกิจเมืองนอก “หาเงินเข้าประเทศ”..เมื่อไปต่างประเทศคราใด ต้องไป “รายงานตัวให้ทหารทราบ”..ทีมชุดลายพรางรู้เต็มอกว่าเขาไม่อยู่ แต่ส่ง “รถฮัมวี่” รบในศึกสงครามไปเฝ้าทำไม

ปฏิวัติยึดอำนาจ..แต่ “กำลังขุมของชาติ” มาคุมหญิงวัย ๘๐ -มันน่าอาย

“กะพรุนไฟ”

๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๖

ภาพอินเตอร์เน็ต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *