‘ไพศาล’ เหน็บใคร! ออกความเห็นมุ่งเอาใจ? ใช้มิจฉาทิฏฐิ จนหน้าตาเปลี่ยนไป คล้ายจะไม่เป็นผู้เป็นคน

ชี้ ความเห็น ‘จรุงวิทย์ ภุมมา’ ส.ว.อดีตเลขาธิ กกต. ชัดเจนมาก “หัวหน้าพรรคถูกตัดสิทธิ์เพราะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แต่การรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งในฐานะหัวหน้าพรรคไม่เป็นโมฆะและไม่ทำให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เพราะหัวหน้าพรรคนั้นไม่มีกฎหมายห้ามถือหุ้นสื่อ”

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย และอดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ถึงเกมจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง มีใจความว่า ส.ว.ดัง อดีตเลขา กกต. หักดิบขบวนไสยศาสตร์ทางกฎหมาย!!!

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา อดีตเลขาธิ กกต.ซึ่งมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับการเลือกตั้งมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ ครั้นเกษียณจากตำแหน่งแล้วก็ได้รับแต่งตั้งเป็น ส.ว.ชุดปัจจุบัน

ตั้งแต่เป็น ส.ว. ตลอดมาไม่เคยออกความเห็นทางกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเลย!!!

จู่ๆก็มาออกความเห็นหักขบวนการไสยศาสตร์ทางกฎหมาย จนสร้างความแปลกใจให้กับบรรดาส.ว.ทั้งสภา!!!

อดีตเลขาธิการ กกต.ได้ยกบรรทัดฐานคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมาอ้างอิงว่า ในกรณีหัวหน้าพรรคถูกตัดสิทธิ์เพราะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แต่การรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งในฐานะหัวหน้าพรรคไม่เป็นโมฆะและไม่ทำให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. เพราะหัวหน้าพรรคนั้นไม่มีกฎหมายห้ามถือหุ้นสื่อ ซึ่งตรงกับที่ผมได้ออกความเห็นทางกฎหมายไว้!!!!

การออกความเห็นครั้งนี้คงเนื่องมาจากขบวนการไสยศาสตร์ทางกฎหมายไปออกความเห็นให้กับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ว่าหัวหน้าพรรคการเมืองดังอาจถูกสอยตกสวรรค์เพราะถือหุ้นสื่อ ทำให้การรับรองผู้สมัคร ส.ส. ตกเป็นโมฆะต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ เป็นเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดและมีการขับเคลื่อนเรื่องนี้กันอย่างคึกคัก เกิดเป็นแรงกดดันไปยังหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนเค้าลางกลียุคเกิดขึ้น อย่างน่าวิตกอย่างยิ่ง

ถ้าหาก กกต. ลงมติว่าตัวเองมีคำสั่งให้รับสมัครรับเลือกตั้งโดยผิดพลาด ผิดกฎหมาย ทำให้การเลือกตั้งส.ส.เป็นโมฆะถึง 151 คน และต้องเลือกตั้งใหม่ทั้งประเทศ ก็เท่ากับเป็นการฆาตกรรมตัวเองซึ่งต้องรับผิดทั้งอาญาและทางแพ่งเป็นส่วนตัว จะเป็นชะตากรรมที่น่าอเนจอนาถยิ่งนัก

การออกความเห็นทางกฎหมายของอดีตเลขา กกต. ครั้งนี้จึงดุจดั่งเป็นการเตือนสติพรรคพวกเก่าๆไม่ให้ฆ่าตัวตาย

กกต. ทราบความเห็นทางกฎหมายนี้แล้ว ก็จะได้หลักคิดหลักยึดที่หนักแน่นสามารถทนทานต่อแรงกดดันทั้งหลายได้

การออกความเห็นทางกฎหมายนั้นถ้าเป็นการออกความเห็น

~เพื่อเอาใจใคร หรือ

~ออกความเห็นโดยตั้งตนเป็นฝักฝ่ายกับฝ่ายใด และ

~ไม่ตั้งอยู่ในหลักแห่งกฎหมายแล้ว

ความเห็นนั้นก็ย่อมวิปริตฟั่นเฟือนไป และจะเป็นการทำร้ายบ้านเมืองและประชาชนอย่างน่าอเนจอนาถ

เวรกรรมนั้นมีจริงแท้แน่นอน ให้สังเกตดูก็ได้ว่า การประพฤติตนตั้งอยู่ในมิจฉาทิฏฐิ จะทำให้รูปลักษณ์หน้าตาเปลี่ยนแปลงไป จนคลับคล้ายจะไม่เป็นผู้เป็นคนไปแล้ว

เลือกตั้งเสร็จไปแล้ว 20 วัน น่าแปลกใจว่า ทำไมจึงยังไม่ประกาศผลการเลือกตั้งเลยแม้แต่คนเดียว????

#รัฐบาล66