23 ตุลาคม 2024

โลกของความเป็นจริงร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ จากการที่เลือกตั้งผ่านมาตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคมแล้ว แต่ความชัดเจนของหน้าตารัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี ยังคงไม่มีความชัดเจนใดๆเลย

สิ่งที่เห็นก็คือ ผลพวงจากการเขียนรัฐธรรมนูญฉบับตามใจแป๊ะ ที่ให้ ส.ว.เข้ามามีส่วนในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่แย่ตรงที่ ส.ว.ดันมีที่มาจากการแต่งตั้ง รวมทั้งการคัดเลือกจากกระบวนการของ คสช. ที่เข้ามามีอำนาจจากการทำรัฐประหาร

ส.ว.บางคน ไม่สนใจเสียงสะท้อนที่ว่า ไม่เห็นเสียงของประชาชนอยู่ในสายตา ยังคงออกมาแสดงความคิดเห็นชนิดที่ว่า สุดโต่ง สุดแถ

ตอน ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เป็นนายกฯ ตอนนั้นพลังประชารัฐรวมเสียงได้ 253 เสียง ก็อ้างว่านั่นเป็นเสียงข้างมากแล้ว ส.ว.ก็ต้องโหวตให้ ต้องโหวตตาม

แต่วันนี้ ก้าวไกล รวมเสียงได้ 312 เสียง กลับมี ส.ว.บางคนบางกลุ่ม ลอยหน้าลอยตาบอกว่า ยังไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ที่ ส.ว.จะต้องโหวตตาม คนที่เห็นด้วยมีแค่ 5 คนเท่านั้น

จึงทำให้มีความเชื่อเกิดขึ้นว่า ส.ว.จะไม่โหวตเลือก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี

ผลที่เกิดขึ้นตามมา จึงกลายเป็นความปั่นป่วนทางการเมือง ยังมีความพยายามที่จะพลิกเกมจากผู้ที่พ่ายแพ้อย่างยับเยิน ให้กลายมาเป็นายกฯให้ได้อีก โดยไม่แคร์ผลการเลือกตั้ง

พรรคเพื่อไทย กลายเป็นเป้าใหญ่ ว่ามีแผนที่จะให้คนที่ควรจบสิ้นชีวิตทางการเมืองได้แล้ว ควรปล่อยวางอำนาจทางการเมืองได้แล้ว อาจจะได้กลับมามีอำนาจอีก

กลายเป็นพรรคเพื่อไทยถูกกดดันหนักที่สุดในเวลานี้ ในฐานะตัวพลิกเกม

ปัญหาก็คือ คนที่กำลังสร้างความวุ่นวายอยู่ในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น ส.ว. ส.ส. พรรคการเมือง หรือผู้อยู่เบื้องหลังเกมการเมือง และโดยเฉพาะกลุ่มไอโอ บรรดาคนเหล่านี้ ไม่เคยสนใจเลยหรือว่า เกิดผลอะไรบ้างกับความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย

อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ไว้เป็นการเตือนสติใครก็ตามที่กำลังป่วนไม่เลิกรา โดยระบุว่า จากใจประชาชนคนหนึ่ง

นาทีนี้ ! อนาคตของประเทศ และชะตากรรมของประชาชน กำลังอยู่ในมือของพวกท่าน…

1) 500 ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตยได้โปรด มองอนาคตของประเทศ มากกว่า ประโยชน์ส่วนตัว

ผมมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่คงอยากเห็น

1.1 กลุ่ม 312 ท่าน
ควรยึดมติพรรค ตามกรอบ MOU 8 พรรค และไม่ทำให้ กว่า 25 ล้านเสียง ของประชาชน(จาก 14 พค.66 ) ต้องสูญเปล่า !

1.2 กลุ่ม 188 ท่าน
ที่ได้โปรดมองอนาคตความเป็นประชาธิปไตย ด้วยการไม่ฝืนตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ช่วยสร้างความเข้มแข็งให้พรรคการเมืองของท่านอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดี ของประเทศในระยะยาว

2) 250 ส.ว. ผู้ทรงเกียรติ
ได้โปรดใช้วิจารณญาณและเป็นตัวของตัวเองในการโหวตเลือกผู้นำประเทศ ( ที่มีตัวเลือกมากกว่า 1 ท่าน) ด้วยวุฒิภาวะและมองประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นสำคัญ

ท้ายนี้ ผมขอส่งแรงใจ และความปรารถนาดี ในนามประชาชนคนหนึ่ง สู่ 750 ท่านผู้ทรงเกียรติ และเป็นผู้ที่จะกำหนดอนาคตของประเทศจากนี้ไป และขอภาวนาว่า ประเทศไทยของเราจะมีอนาคตที่ดีขึ้น

ด้วยการได้ผู้นำประเทศ และจัดตั้งรัฐบาล ด้วยทีมงานที่มีความรู้ มีความสามารถ มีคุณธรรม และมีความทุ่มเท แก้ไขปัญหา เพื่อให้เราได้ผ่านพ้นจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ และประชาชนจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีความหวังที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ประเทศไทยของเราจะได้ไม่กลับมาวนเวียนในวงจรเดิมๆ ที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สร้างความเกลียดชังกันและกัน ผูกขาดความรักชาติ ไม่ดึงฟ้าต่ำ ตลอดจนสร้างปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมแบบในอดีตที่ผ่านมา… ขอบคุณครับ

อิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต โพสต์ไว้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2566

ลิ๊งก์ที่มา : https://web.facebook.com/isares.rattanadilok/posts/pfbid0WNkFVXShGVv1ZGMoJ8ARuu3dJnW25og4MT1EZk3QZXtULHbbhWo91xV2q6Q1qUTsl

ก็หวังว่าเสียงสะท้อนในฐานะประชาชนของคนชื่อ อิศเรศ จะได้รับความสำคัญ จะไปกระตุกต่อมหิริ โอตัปปะ ของคนบางคนบางกลุ่มได้

เผื่อว่าจะมีใครที่อิ่มเอมกับผลประโยชน์ และรายได้จากเงินภาษีของประชาชน จะได้สำนึกกันบ้าง

อัคคี กัมปนาท

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *