กกต.‘บูชายัญตัวเอง’ เพื่อใคร

เชื่อว่าคงไม่มีใครคาดคิดว่า กกต. จะหาญกล้าบูชายัญตัวเอง? ขนาดนี้

การยื่นเรื่องให้วินิจฉัยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พ้นสภาพการเป็น ส.ส.หรือไม่ ในฐานะที่มีชื่อว่าเป็นผู้ถือหุ้น itv

จริงๆแล้วเมื่อมีความเห็นแตกต่าง ย่อมยื่นได้ไม่มีใครว่า แต่ควรเป็นการยื่นอย่างตรงไปตรงมา

ไม่ใช่ยื่นในลักษณะที่ก่อให้เกิดคำถามว่า ไปรับใบสั่งของใครมาหรือไม่?

ตลอดเวลาที่ผ่านมากินเงินเดือนจากภาษีประชาชนกันตั้งมากมาย ไม่เห็นกะตือรือล้นทำเพื่อประชาชน ดันมาขยันอะไรเอาในวินาทีสุดท้าย

พฤติกรรมแบบนี้โปร่งใสหรือไม่? กลายเป็นข้อกังขาของสังคมไปแล้ว

ยิ่งเมื่อบวกกับอาการดิ้นพล่านก่อนหน้าของกลุ่มสวะบางกลุ่ม ที่พยายามจะเล่นงานส.ว.ที่จะโหวตให้พิธาตามมติเสียงข้างมากของประชาชน

ขู่โน่นนี่นั่นสารพัด แถมจาบจ้วงถึงขั้น อ้างว่าอาจจะมีการถอดยศ ริบเครื่องราชคืน

แบบนี้เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่? โหนสถาบันหรือไม่? ใครเป็นคนที่กล้าข่มขู่ขนาดนี้

กระทั่งสุดท้ายไลน์หลุด จึงได้เห็นว่ามีการพล่านถึงขนาด จะแจกกล้วยให้กับส.ว. จูงใจให้เลิกโหวตให้พิธา

นี่มันอะไรกัน?

ใช่หรือไม่? ที่เมื่อวิธีการสกปรกต่างๆทำท่าว่าไม่สามารถจะหยุดประชาธิปไตยไม่ให้กลับคืนมาได้ จึงได้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่สนใจว่าจะทำให้องค์กรอิสระเสื่อมเสียสักเพียงใดหรือไม่

มีอะไรแทรกแซง มีอะไรกดดัน หรือว่ามีอะไรแบล็คเมล์ จนทำให้กกต.ต้องเสี่ยงกับการบูชายัญตัวเองแบบนี้

เป็นเรื่องที่สงสัยได้ใช่หรือไม่ ในเมื่อได้เคยมีการข่มขู่ แบล็คเมล์ กดดัน และทุ่มเงินกับส.ว.มาก่อนแล้ว ทำไมจะทำแบบเดียวกัน วิธีการเดียวกันอีกไม่ได้ จริงไหม?

คณะกรรมการกกต.ยอมพลีกาย ยอมตกเป็นเป้าถล่มของสังคมขนาดนี้ ไม่รู้จริงๆว่าไปโดนตัวไหนเข้าหรือไม่?

กินเงินภาษีเป็นค่าน้ำค่าข้าวเลี้ยงดูครอบครัวจนอิ่มหมีพีมัน ควรต้องทำหน้าที่เพื่อประเทศและประชาชนไม่ใช่หรือ

ไม่ควรมีคนในองค์กรอิสระคนใด ที่ทำหน้าที่เพื่อแทนคุณคนแต่งตั้ง

เมื่อองค์กรอิสระไม่เป็นอิสระ น่าสงสารประเทศไทยเป็นยิ่งนัก

หนามกุหลาบ