เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก
บังเอิญเกินไปไหม?
จู่ๆ ‘ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ ก็ประกาศวางมือทางการเมืองแบบกะทันหัน?
แล้ววันรุ่งขึ้น กกต.ก็ให้บังเอิญฟิตจัด เร่งพิจารณาเรื่องวินิจฉัยกรณี ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น itv จะถือว่าเป็นเหตุให้พ้นสภาพการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือไม่?
รีบร้อนฉุกละหุกถึงขนาดที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจง!
แถมวันรุ่งขึ้นรีบยื่นศาลรัฐธรรมนูญอย่างเร่งด่วน ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญก็รีบรับเรื่องอย่างรวดเร็ว?
คำว่า ‘นิติสงคราม’ ดังกระหึ่มขึ้นมาทันที
องค์กรอิสระไปกินยาขยันอะไรเข้า ถึงได้เร่งทำเรื่องต่างๆก่อนหน้าวันโหวตเลือกพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีเพียงแค่วันเดียว
อะไรจะบังเอิญปานนั้น!!!
บังเอิญจริงหรือไม่ที่ ‘ประยุทธ์วางมือทางการเมือง’ ในจังหวะที่สอดรับกับการทำหน้าที่เล่นงานพิธา พอดิบพอดี
วลีที่ว่า ‘เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก’ นั้น น่าคิดยิ่งนัก
คิดแล้วก็เกิดคำถามตามมาจากบรรดาข้อพิรุธต่างๆ จากความรีบร้อนฉุกละหุก ราวรับใช้ใครสักคน
แบบนี้เป็นไปได้หรือไม่หากจะเกิดประโยคแก้ตัวที่ว่า “ฉันไม่รู้ ฉันไม่เกี่ยวนะจ๊ะ”
หากไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็น ‘ยุทธวิธี’ ที่ถูกคิดขึ้นมา
ใครก็ตามที่คิดเรื่องแบบนี้มาให้ กกต.ทำ สังคมและประชาชนบอกว่า ไร้สิ้นซึ่งศักดิ์ศรี ไม่มีความเป็นลูกผู้ชายอยู่ในกมลสันดานเลยใช่หรือไม่?
ใครอยากจะรับข้อสงสัยของประชาชนก็รับไป แต่คนที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไรลงไปย่อมต้องมีอย่างแน่นอน
ขยันจุดไฟเผาใจประชาชนแบบนี้ คิดหรือว่าอำนาจจะยืนยงอย่างที่ต้องการ
อัคคี กัมปนาท