อนิจจา ‘ชลน่าน’ เมาหมัด
ต้องยอมรับว่า การรับบทเป็นผู้ประสานงานในครั้งนี้ของ ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นอะไรที่หนักหนาสาหัสจริงๆ
เพราะในขณะที่ต้องเป็นความหวังของฝั่งประชาธิปไตย กับการเข้ามาทำหน้าที่แทนพรรคก้าวไกลที่โดนเกมของขั้วเผด็จการอนุรักษ์นิยมปัดแข้งปัดขาจนเดินต่อไม่ได้
เพราะเขาปิดหู ปิดใจ ปิดกั้นทุกอย่าง เพื่อที่จะไม่เอาก้าวไกล
การทำหน้าที่ของ ชลน่าน ศรีแก้ว ภายใต้การจับมือกันของ 8 พรรคฝั่งประชาธิปไตยจึงหนักหนาสาหัสยิ่งนัก
ก็เห็นอยู่ก่อนหน้า เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ถูกทัวร์ลงทันทีเมื่อเอื้อนเอ่ยวาจาที่สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ได้สนใจการมัดรวมฝั่งประชาธิปไตยที่เหนียวแน่นอย่างที่ทุกคนหวัง
ทันทีที่ก้าวไกลไปไม่ได้ ในมุมของ เสรีพิศุทธ์ ก็คือ ก้าวไกลควรจะต้องปิดฉากไปได้แล้ว มาฝืนอยู่ถ่วงเพื่อนทำไม
ถึงขนาดเอ่ยปาก ถ้าเรือล่มคนหนุ่มจะต้องเป็นผู้เสียสละ เพื่อให้คนแก่ได้รอด
กรณีเรือล่มเข้าใจได้ แต่สำหรับกรณีประชาธิปไตย เป็นการเปรียบเทียบ ที่พิกลพิการงอกง่อยมาก
เพราะทุกคนที่ฟัง ตีความเหมือนกันว่า เสรีพิศุทธ์ต้องการให้ฝากประชาธิปไตยไว้ในมือคนสูงวัยใช่หรือไม่?
ซึ่งเท่ากับว่า ไม่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง เพราะยังยึดติดว่าประชาธิปไตยควรเป็นของผู้สูงวัย
ไม่แปลกที่ทัวร์จะลง ด้วยข้อสงสัยว่าอยากได้ตำแหน่งจนลืมนึกถึงประชาธิปไตยที่ควรพัฒนาไปข้างหน้า
ยังดีที่ เสรีพิศุทธ์ มีบุคลิกที่ไม่ต่างกับพวกสว. คือไม่แคร์ไม่สนว่าใครจะมองอย่างไร เชื่อมั่นในตัวเอง แถมด่ากลับประชาชนที่เห็นต่างกับวิธีคิดของตน
รอบนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ของ ชลน่าน ศรีแก้ว ว่าจะมีภูมิต้านทานเสียงสะท้อนในเชิงลบได้ขนาดไหน
แต่ที่บ้งสุดๆ และไม่คิดว่า คนอย่าง ชลน่าน ศรีแก้ว จะมีตรรกะวิธีคิดแบบนี้ก็คือ เพราะ 10 พรรคอนุรักษ์นิยมจับกันแน่น จึงมี 188 เสียง ต้องถือเป็นอันดับ 1
ส่วนก้าวไกลที่มี 151 เสียงเป็นแค่อันดับ 2 และเพื่อไทยที่มี 141 เสียงถือเป็นอันดับ 3
การเอาเสียงหลายพรรคมารวมกัน มาเทียบกับคะแนนเสียงของพรรคเดี่ยวๆ ฟังแล้วถึงกับมึน เป็นไปได้ขนาดนี้เลยหรือ
ชลน่าน ศรีแก้ว โดนกดดันจากสถานการณ์ หรือจากใคร? สติสตังถึงสับสนไปหมด หรือยังไง
แต่ดันมีคนตั้งข้อสังเกตจากประโยคนี้ ถ้าบอกว่า 10 พรรคจับมือกันแน่นทำให้มีเสียงเป็นอันดับ 1
แสดงว่า 8 พรรคจับมือกันไม่แน่นใช่หรือไม่? 312 เสียงจึงไม่ได้เป็นอันดับ 1 ในสายตาของ ชลน่าน ศรีแก้ว
หรือใกล้ตัวเข้าไปอีก เพื่อไทยกับก้าวไกลไม่ได้จับมือกันแน่นใช่ไหม? เพราะถ้าจับมือกันแน่น แค่ 2 พรรคนี้จับมือกันแน่นอย่างจริงใจเสียงก็เหนือกว่า 10 พรรคฝั่งอนุรักษ์นิยมแล้ว
งานเข้าสิทีนี้ เพราะคำถามไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่เลยไปถึงว่า แล้วใครกันที่เป็นฝ่ายจับมือไม่แน่นเหมือนกับขั้วรัฐบาลเก่า
ใครเป็นคนแทงหลัง หรือมีเรื่องแฝงเร้น จนกลายเป็นจับมือกันไม่จริง
บนความระแวง หนีไม่พ้นพุ่งเป้าไปที่ เพื่อไทย รับไปเต็มๆ มากกว่าเสรีรวมไทย ทั้งๆที่ เสรีพิศุทธ์ พูดแบะท่าบอกเจตนาขึ้นมาก่อน
ถึงได้บอกไงรับบทหนักเที่ยวนี้ ชลน่าน ศรีแก้ว สติสตังหลุดจนพูดผิดพูดพลาดเยอะมาก
แบบนี้ไม่เรียกว่าเมาหมัดได้อย่างไร
อัคคี กัมปนาท