‘ภูมิธรรม’ ลั่น ทุกคนมีสิทธิยกมือให้เพื่อไทย แต่ไม่ได้แปลว่าจะได้เป็นรัฐบาลกันทั้งหมด ต้องดูเงื่อนไขก่อน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ประเทศเผชิญวิกฤตใหญ่ 3 ข้อ ทุกฝ่ายควรสลายขั้วสลายความขัดแย้ง เปิดทางประเทศมีนายกรัฐมนตรีและมีรัฐบาลชุดใหม่ เพื่อมาเร่งแก้ไขวิกฤตประเทศ แก้ปัญหาประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันโหวต โดยใช้เอกสิทธิ์ของตนเอง โดยไตร่ตรองให้เห็นว่าเหมาะสมที่สุด โดยการใช้วาระประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อแก้ไขวิกฤตพี่น้องประชาชนไม่สามารถปล่อยให้ล่าช้าได้

“วันนี้ประเทศไทยผจญวิกฤตสำคัญ 3 ประการ คือ วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตเศรษฐกิจ และวิกฤตความเห็นต่างทางการเมือง การตั้งรัฐบาลครั้งนี้ จึงเป็นวาระพิเศษเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน”

นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นจะรีบตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและคณะรัฐมนตรีเพื่อผลักดันทุกนโยบายให้เป็นจริง ในวันแรกที่เริ่มประชุมคณะรัฐมนตรีมีนโยบายต่างๆ ต้องเริ่มดำเนินการทันที เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวันภายในปี 2570 นโยบายเงินเดือนปริญญา 25,000 บาท เป็นต้น ทุกนโยบายต้องใช้นโยบายแกนกลาง มีแผนการทำงานรองรับ และนโยบายอื่นที่มีประโยชน์หากเห็นพ้องก็นำมาเสนอประกอบต่อไป

ส่วนกระแสข่าวที่มีพรรคพลังประชารัฐจะมาร่วมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องขอบคุณ เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการความสมานฉันท์จากทุกพรรคการเมือง และขอย้ำว่า ทุกพรรคการเมืองนอกจากนี้สามารถสนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้ มิได้ผิดเจตนารมณ์ เพราะเราเป็นรัฐบาลพิเศษที่เอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง และการสนับสนุนเป็นเอกสิทธิ์ ฉะนั้นจึงยืนยันว่าจะไม่มีงูเห่าเพราะเราไม่มีกล้วยไปแจกมีแต่วาระประชาชนเป็นที่ตั้ง

“สำหรับพรรคก้าวไกลนั้นเราได้พูดกับพรรคก้าวไกลชัดเจนแล้วว่า ถ้าเราอยู่รวมกันคะแนนก็จะยังอยู่ที่ 312 เสียงเหมือนเดิม แต่ถ้าเป็นฝ่ายรัฐบาลทำงานแก้ไขวิกฤตชาติสำเร็จ พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน เราก็จะเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ช่วยกันทำงาน นโยบายอะไรที่ดีของฝ่ายค้านเสนอมา รัฐบาลก็จะร่วมสนับสนุนเต็มที่ ซึ่ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยก็ได้กล่าวในการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลในวันนั้นว่า ยังรู้สึกดีต่อกัน ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนเสนอข่าวว่าตนเองไปพูดขอโทษขอขมานั้น ยืนยันว่าตนไปพูดคุยจริงแต่ไม่ได้ไปคุยเพื่อขอขมา เพราะไม่ได้รู้สึกว่าผิดอะไร แต่ที่ตนพูดไปนั้นเพื่อรับผิดชอบว่า อะไรก็ตามที่ตนพูดแล้วมีความขุ่นข้องหมองใจก็ยินดีขอโทษ เพราะที่สุดแล้ว หากการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้สามารถทำได้สำเร็จในหมู่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็จะช่วยกันแก้วิกฤตชาติ”

กรณีพรรคพลังประชารัฐและพรรครวมไทยสร้างชาติ มีโอกาสร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิยกมือสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้เป็นรัฐบาลร่วมกันทั้งหมด ต้องดูเงื่อนไขทั้งนโยบายและตัวบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรีด้วย

“การทำหน้าที่ของเราครั้งนี้ แม้จะจ่ายต้นทุนสูง ถ้าได้ผลที่เราหวังก็คุ้มค่าสำหรับการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศและแก้ปัญหาให้ประชาชนเรา แต่ส่วนการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยนี้ จะผิดหรือจะถูกอย่างไรอยู่ในดุลพินิจของประชาชน ผลเป็นอย่างไร ผมและพรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะน้อมรับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเคารพ” รองหัวหน้าพรรคกล่าวย้ำ