ยอดขายรถยนต์เดือนกรกฎาลดลง 8.8% ปมสถาบันการเงินกังวลหนี้เสีย

วันที่ 25 สิงหาคม นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2566 มียอดขาย 58,419 คัน ลดลง 8.8% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่ลูกค้ายังตอบรับตลาดรถยนต์นั่งต่อเนื่อง ด้วยยอดขาย 25,511 คัน เติบโต 17.3% ขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ชะลอตัวต่อเนื่องด้วยยอดขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9% ส่วนรถกระบะขนาด 1 ตัน ชะลอตัวเช่นกัน ด้วยยอดขาย 24,982 คัน ลดลงถึง 26.6% จากการชะลอการสินใจซื้ออย่างต่อเนื่องของภาคธุรกิจ และภาคประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจขนส่ง มีปัจจัยลบที่สำคัญอย่างยิ่งคือความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่มีความกังวลต่อหนี้เสียอันเป็นผลต่อเนื่องที่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา

นายศุภกร กล่าวว่า สำหรับตลาดรถยนต์ในเดือนสิงหาคม มีความหวังจะฟื้นตัวขึ้น จากความชัดเจนการจัดตั้งรัฐบาล จะส่งผลดีต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจิตวิทยาการบริโภคในการใช้จ่ายเงิน ก่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ด้วยเช่นกัน มีปัจจัยเสริมสำคัญ ได้แก่ แคมเปญการตลาดในช่วงงาน บิ๊กมอเตอร์เซล (Bangkok International Grand Motor Sale) 2023 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม-3 กันยายนนี้ นอกจากช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์ภายในงาน ยังขยายข้อเสนอพิเศษไปยังโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบสำคัญ ได้แก่ ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ส่งผลต่อภาวะหนี้สินครัวเรือน ตลอดจนความเข้มงวดของสถาบันการเงินต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ส่วนปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2566
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 58,419 คัน ลดลง 8.8% อันดับ 1 โตโยต้า 20,421 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 35.0% อันดับ 2 อีซูซุ 11,735 คัน ลดลง 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 20.1% อันดับ 3 ฮอนด้า 7,551 คัน เพิ่มขึ้น 4.1% ส่วนแบ่งตลาด 12.9%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 22,511คัน เพิ่มขึ้น 17.3% อันดับ 1 โตโยต้า 8,048 คัน เพิ่มขึ้น 57.9% ส่วนแบ่งตลาด 35.8% อันดับ 2 ฮอนด้า 4,922 คัน เพิ่มขึ้น 6.2% ส่วนแบ่งตลาด 21.9% อันดับ 3 มิตซูบิชิ 1,086 คัน ลดลง 39.3% ส่วนแบ่งตลาด 4.8%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 35,908 คัน ลดลง 19.9% อันดับ 1 โตโยต้า 12,373 คัน ลดลง 18.5% ส่วนแบ่งตลาด 34.5% อันดับ 2 อีซูซุ 11,735 คัน ลดลง 27.9% ส่วนแบ่งตลาด 32.7% อันดับ 3 ฟอร์ด 2,754 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 7.7%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 24,982 คัน ลดลง 26.6% อันดับที่ 1 อีซูซุ 10,228 คัน ลดลง 31.0% ส่วนแบ่งตลาด 40.9% อันดับ 2 โตโยต้า 10,088 คัน ลดลง 20.3% ส่วนแบ่งตลาด 40.4% อันดับ 3 ฟอร์ด 2,754 คัน ลดลง 23.7% ส่วนแบ่งตลาด 11.0% ส่วนปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 4,673 คัน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 1,776 คัน – อีซูซุ มิวเอ็กซ์ 1,677 คัน – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 934 คัน – มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 213 คัน – นิสสัน เทอร์รา 73 คัน
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 20,309 คัน ลดลง 31.9% อันดับที่ 1 อีซูซุ 8,551 คัน ลดลง 35.5% ส่วนแบ่งตลาด 42.1% อันดับ 2 โตโยต้า 8,312 คัน ลดลง 26.7% ส่วนแบ่งตลาด 40.9% อันดับที่ 3 ฟอร์ด 1,820 คัน ลดลง 37.4% ส่วนแบ่งตลาด 9.0%

ในแง่สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2566
1.ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 464,550 คัน ลดลง 5.5% อันดับ 1 โตโยต้า 157,280 คัน ลดลง 3.1% ส่วนแบ่งตลาด 33.9% อันดับ 2 อีซูซุ 98,016 คัน ลดลง 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 21.1% อันดับที่ 3 ฮอนด้า 53,685 คัน เพิ่มขึ้น 13.2% ส่วนแบ่งตลาด 11.6%
2.ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 170,598 คัน เพิ่มขึ้น 10.0% อันดับ 1 โตโยต้า 59,089 คัน เพิ่มขึ้น 34.3% ส่วนแบ่งตลาด 34.6% อันดับ 2 ฮอนด้า 35,347 คัน เพิ่มขึ้น 3.3% ส่วนแบ่งตลาด 20.7% อันดับ 3 มิตซูบิชิ 10,664 คัน ลดลง 17.8% ส่วนแบ่งตลาด 6.3%
3.ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 293,952 คัน ลดลง 12.6% อันดับที่ 1 โตโยต้า 98,191 คัน ลดลง 17.0% ส่วนแบ่งตลาด 33.4% อันดับ 2 อีซูซุ 98,016 คัน ลดลง 22.3% ส่วนแบ่งตลาด 33.3% อันดับ 3 ฟอร์ด 22,871 คัน เพิ่มขึ้น 23.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.8%
4.ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV) ปริมาณการขาย 207,934 คัน ลดลง 20.6% อันดับ 1 อีซูซุ 88,861 คัน ลดลง 23.6% ส่วนแบ่งตลาด 42.7% อันดับ 2 โตโยต้า 80,632 คัน ลดลง 20.9% ส่วนแบ่งตลาด 38.8% อันดับ 3 ฟอร์ด 22,871 คัน เพิ่มขึ้น 23.6% ส่วนแบ่งตลาด 11.0% ส่วนปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง PPV (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 37,940 คัน โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 13,538 คัน – อีซูซุ มิวเอ็กซ์ 13,630 คัน – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 7,204 คัน – มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 2,806 คัน – นิสสัน เทอร์ร่า 762 คัน
5.ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 169,994 คัน ลดลง 25.5% อันดับ 1 อีซูซุ 75,231 คัน ลดลง 28.8% ส่วนแบ่งตลาด 44.3% อันดับ 2 โตโยต้า 67,094 คัน ลดลง 23.0% ส่วนแบ่งตลาด 39.5% อันดับ 3 ฟอร์ด 15,667 คัน เพิ่มขึ้น 0.7% ส่วนแบ่งตลาด 9.2%