24 ตุลาคม 2024

รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาสภาอาชีพเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้น้ำจ.เชียงใหม่

0

ลั่นทุกปัญหาของเกษตรกร อยู่บนบ่าที่ตนต้องรับผิดชอบ “พี่น้องเดือดร้อนตรงไหน จะไปหาที่นั่น”

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 8 กันยายน ที่อุทยานแห่งชาติแม่วาง ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะกลุ่มสภาอาชีพเกษตรกร (สอก.) จำนวนกว่า 400 ราย และรับฟังปัญหาของเกษตรกรกลุ่มผู้ใช้น้ำอำเภอดอยหล่อ และกลุ่มผู้ใช้น้ำโครงการอ่างเก็บน้ำแม่วาง โดยมีนายสุรเดช สมิเปรม รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วมพบปะรับฟังปัญหาด้วย โอกาสนี้ กลุ่มเกษตรกรได้ยื่นหนังสือเพื่อติดตามความก้าวหน้าของโครงการอ่างเก็บน้ำแม่ปอน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ด้วย

ขณะเดียวกัน ยังมีคณะสส.ของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)นำโดยนายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ กรรมการบริหารพรรค นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา นายปกรณ์ จีนาคํา สส.แม่ฮ่องสอน และนายยุทธนา โพธสุธน รอต้อนรับด้วย

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นฤกษ์ดีที่ได้มาเหยียบแผ่นดินเมืองเหนือเป็นครั้งแรก ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งต้องขอโทษพี่น้องทุกคนที่รอคอยตั้งแต่เวลา 13.00 น. เพราะช่วงเวลาตั้งแต่ 05.00 น. ตนได้เดินทางพร้อมกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะ ไปตรวจสภาพภัยแล้งและอุทกภัยที่จังหวัดขอนแก่น และในจังหวัดกาฬสินธุ์ที่มีเหตุอุทกภัยน้ำท่วมใน 5 อำเภอ ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการให้ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องในหลายหลายอำเภอ โดยเฉพาะอำเภอห้วยผึ้ง ซึ่งมีผู้ประสบอุทกภัยและเสียชีวิต 1 ราย ทั้งนี้ ตั้งใจว่าจะเดินทางมาพบชาว จ.เชียงใหม่โดยเฉพาะชาวดอยหล่อ ซึ่งกำหนดการหลายจุดต้องยกเลิกเพราะไม่อยากให้ประชาชนต้องรอนานเกินไป

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า วันนี้ยังได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสั่งการถึงอธิบดีทุกกรม ว่าตนจะมาเมืองเชียงใหม่เพื่อรับทราบปัญหา ก่อนที่ในวันที่ 11 และ12 ก.ย.นี้ นายกฯ จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ก็จะสามารถบริหารบ้านเมืองได้ทันทีด้วยข้อมูลต่างๆ ที่มี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ชาวเมืองเหนือทั้ง 8 จังหวัดได้ประสบปัญหา และไม่มีผู้บริหาร ไม่มีรัฐมนตรีว่าการเป็นของคนเมืองเหนือเลย แต่สำหรับปี 2566 ฟ้าเปลี่ยนสี มีโอกาสที่คนเมืองเหนือทั้ง 8 จังหวัดได้ตั้งรัฐบาลที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และตนก็เป็นส่วนหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็เป็นรัฐบาลของประชาชน ของคนไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่งวันนี้ยังได้ นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.หนุ่มที่อยู่ในพื้นที่ คอยดูแลประชาชน และมีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงตัวแทนภาคเอกชนด้วย

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังกล่าวถึงชาวสวนลำไย ว่า ไม่ต้องน้อยใจ อาทิตย์หน้าหลังจากที่แถลงนโยบายแล้ว ตนจะสั่งการแก้ไขเรื่องที่ติดขัดคั่งค้าง และจะแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้ดีที่สุดตามที่เคยรับปากพี่น้องเอาไว้

“ถึงเวลาแล้วที่ความศิวิไลซ์จะเข้ามาสู่แผ่นดินสยาม โดยเฉพาะเมืองล้านนา เพราะเรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข เรามีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งทั้ง 3 คนได้คุยกันแล้ว ว่าจะช่วยกันพัฒนาเมืองเหนือให้มีความเจริญ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ภายหลังจากการทักทายชาวเกษตรกรภาคเหนือแล้ว ร.อ.ธรรมนัส ได้รับช่อดอกไม้ กระเช้าของขวัญ ลําไย และหนังสือร้องเรียน ที่ประชาชนและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่นํามามอบให้ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มทหารผ่านศึก นําพระเครื่องอัดใส่กรอบรูป นำมามอบให้กับ ร.อ.ธรรมนัส ด้วย

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายแก้ปัญหาภัยแล้งมีการวางแผนอย่างไรบ้าง ว่า เมื่อตอนปี 2563 ตนได้มอบหมายให้เป็นประธานกรรมการวิสามัญการแก้ปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยใน 22 ลุ่มน้ำ ดังนั้นได้ศึกษาภาพใหญ่มาแล้วว่าจะต้องแก้ปํญหาอย่างเป็นระบบอย่างไร ไม่ใช่แค่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งแต่ต้องสอดคล้องกันทั้หมด ซึ่งตนจะศึกษาและมอบนโยบายให้กับกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการแก้ปัญหาภายหลังที่นายกฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จะรีบวางแผนและบูรณาการอย่างยั่งยืน

ส่วนว่ามีเรื่องใดบ้างที่จะต้องเร่งแก้ไข ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องใหญ่ที่สุดคือเรื่องน้ำ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเกษตรกร เพราะแม้จะมีที่ดินแต่หากไม่มีน้ำทุกอย่างก็จบ จากนั้นจึงจะแก้ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน

กรณีปัญหาราคาผลผลิตในภาคเหนือมีความไม่แน่นอน จะวางนโยบายอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากที่ผ่านมากลไกรัฐไม่ได้แทรกแซงราคา ปล่อยให้พ่อค้าคนกลางและล้งต่างชาติมาเอาเปรียบเกษตรกร ดังนั้นต้องควบคุมช่องว่างตรงนี้ให้ได้ ถือเป็นวาระสำคัญเหมือนกัน

สำหรับนโยบายการพักหนี้เกษตรกรจะเริ่มเมื่อใด ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นายกฯถือว่าเรื่องนี้เป็นว่าระสำคัญ ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกฯให้วาระนี้เป็นเรื่องด่วน เป็นภาพใหญ่ระดับประเทศ ดังนั้นต้องรอฟังจากนายกฯในฐานะที่กำกับกระทรวงการคลัง

“วันนี้ผมใช้เวลาทั้งวันอยู่ 3 จังหวัด คือขอนแก่น ที่ต้องบริหารจัดการเรื่องภัยแล้ง จ.กาฬสินธุ์ มีเหตุน้ำท่วม พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในขณะเดียวกับผมก็นัดพบกับพี่น้องเกษตรกร จ.เชียงใหม่ สิ่งที่ผมอยากจะฝากถึงพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับชีวิตพี่น้องคนไทยส่วนใหญ่ เราอยู่ภาคการผลิต อาหารเรากินทุกวัน เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่อยู่บนบ่าที่ผมต้องรับผิดชอบในการแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ต้นทุนการผลิต ตลาด ล้วนเป็นเรื่องสำคัญ เราจะทำมิติใหม่ของการเมือง เราจะทำให้ดีที่สุด พี่น้องเดือดร้อนตรงไหนเราจะไปหาที่นั่น”

เวลา 17.45 น. รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงานการปรับปรุงระบบผันน้ำฝายแม่ตื่น ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ ก่อนจะลงพื้นที่ติดตามรับฟังผลการดำเนินงานขุดลอกอ่างเก็บน้ำโป่งจ้อ และพบปะกลุ่มผู้ใช้น้ำอ่างเก็บน้ำบ้านโป่งจ้อ เพื่อรับทราบปัญหาความต้องการ ณ อ่างเก็บน้ำห้วยโป่งจ้อ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หมู่บ้านโป่งจ้อ ต.สันติสุข อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่

ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังได้กำชับกรมชลประทาน เร่งดำเนินโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด เพื่อให้สามารถใช้เก็บกักน้ำ เป็นแหล่งน้ำต้นทุน สำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตร ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง และยังช่วยหน่วงชะลอน้ำในช่วงอุทกภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *