24 ตุลาคม 2024

‘พร้อมพงศ์’ แจ้งความ ‘สมชัย’ คดีสมัคร ส.ส. ทั้งที่มีลักษณะต้องห้าม

0

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง กรณีที่เห็นว่านายสมชัย ได้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ปี 2566 และสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต จังหวัดสมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 2 เมื่อปี 2562 ทั้งที่อาจมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อครั้งที่นายสมชัยดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง ปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายสมชัย ได้ถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 4/2561 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2561 ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง โดยอ้างเหตุผลที่นายสมชัย ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการและกำหนดการเลือกตั้งที่ไม่สมควรเกิดความสับสนที่จะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของ กกต. และการจัดการเลือกตั้ง และนายสมชัยยังได้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาธิการ กกต. โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่กรรมการการเลือกตั้ง ผลของคำสั่งดังกล่าวจึงอาจถือได้ว่า นายสมชัย ได้ถูกคำสั่งให้พ้นจากราชการ เพราะประพฤติมิชอบในวงราชการ อันเข้าลักษณะเป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 (8) ประกอบมาตรา 42 (10) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561

หากมีการสอบสวนแล้ว พบว่ามีลักษณะต้องห้ามดังกล่าวจริงก็ถือว่านายสมชัย กระทำการอันฝ่าฝืนมาตรา 151 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 20 ปี

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้ไปยื่นหนังสือต่อประธาน กกต. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้วเช่นกัน หาก กกต. ตรวจแล้วพบว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายจริง กกต.จะได้ทำการสืบสวนและไต่สวนต่อไป เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวปรากฏต่อ กกต. ที่จะตรวจสอบกรณีดังกล่าวได้ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560

ทั้งนี้ ตนเป็นเพียงผู้แจ้งข้อมูลให้ตรวจสอบเท่านั้น เมื่อนายสมชัย ตรวจสอบคนอื่นได้ นายสมชัยก็ต้องพร้อมที่จะต้องถูกตรวจสอบได้เช่นกัน ต้องให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *