มือใหม่หัดขับ ต้องไม่ผยอง
เศรษฐา ทวีสิน นายกฯที่ยอมรับว่าเป็นมือใหม่หัดขับ ดูเหมือนว่าการขึ้นมานั่งในตำแหน่งบุคคลสาธารณะเบอร์ 1 ของประเทศในปัจจุบัน
จะชัดเจนแล้วว่า กำลังโดนบททดสอบทางการเมืองหนักมากขึ้นเรื่อยๆ
เช่าเหมาลำไปประชุม UN ที่นิวยอร์ก ก็เจอดราม่าหลายคำถาม ทั้งเรื่องแพง และเรื่องพาครอบครัวไปด้วย
หรือจู่ๆ ทีมงานดันทำนอกเหนือคำสั่ง ไปงัดเอาเรื่องการห้ามข้าราชการให้ข่าวกับสื่อ มาทำให้ถึงกับมึน แถมเสียคะแนนในสายตาสื่อไปอีกดอก
แต่หนักหนาสาหัสต้องรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน คือประเด็นแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท อาจจะถึงขั้นต้องปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ
เศรษฐามือใหม่หัดขับ ยืนยันไม่เคยอยู่ในความคิดเลยสักนิดที่จะปลดผู้ว่าแบงก์ชาติ
ล่าสุดเอาอีกแล้ว ไปให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์ก กลายเป็นข่าวดังข่าวใหญ่ ทำนองว่า เมื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พ้นโทษจะตั้งเป็นที่ปรึกษา
เท่านั้นแหละกระหึ่ม มีทั้งในคนในพรรคเพื่อไทย ในรัฐบาลออกมาเชียร์กันใหญ่ ในขณะที่เสียงค้าน เสียงไม่เห็นด้วยก็ดังสนั่นไม่แพ้กัน
อะไรจะมีประเด็นไม่หยุดไม่หย่อนขนาดนี้ ทั้งๆที่เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ได้ไม่เท่าไหร่
เอาคำสัมภาษณ์มาดูแบบเป็นกลาง ก็พบว่าน่าจะเป็นเรื่องของการตีความจากคำพูดที่ทำให้เข้าใจผิดได้ เพราะประโยคคือ
“ผมเชื่อว่าเขาจะสร้างประโยชน์เพิ่มให้กับรัฐบาลและคนไทย คุณทักษิณยังคงเป็นนายกฯที่ได้รับความนิยมสูงสุด ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ดีอย่างเห็นได้ชัดว่า ถ้าหากท่านเป็นอิสระแล้วผมไม่ไปขอความเห็นจากท่านหรืออดีตนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็คงไม่ฉลาดนัก”
ถ้ามองตามเนื้อผ้าก็คือ จะไปขอปรึกษา ขอความคิดเห็น ไม่ได้มีประโยคที่บอกว่าจะตั้งเป็นที่ปรึกษา
ปัญหามาประจวบเหมาะกับคนในรัฐบาลเศรษฐา 1 มีการตั้งคนตั้งที่ปรึกษาแบบที่สังคมรับไม่ได้บ้าง เห็นว่าไม่เหมาะสมบ้าง ก็เลยมองไกล วิเคราะห์จากคำให้สัมภาษณ์ แล้วเชื่อว่า แบบนี้มีนัยยะที่จะ ตั้ง ทักษิณ เป็นที่ปรึกษา
ยิ่งพอมีคนในมาโหมเชียร์ว่าเห็นด้วย ก็เลยไปกันใหญ่
สุดท้าย เศรษฐา ทวีสิน ต้องชี้แจงอุตลุดอีกรอบ
มองเรื่องนี้ ขอพูดตรงๆว่า ความเป็นมือใหม่หัดขับ ทำให้การพูดการตอบคำถามกลายเป็นจุดอ่อน
ยิ่งในสถานการณ์ที่เพื่อไทยยังไม่สามารถสร้างความเชื่อถือได้ จากผลพวงการพูดอย่างทำอย่าง ไม่รักษาสัญญาประชาชน ของคนระดับแกนนำ
แถมบางคนยังโชว์ความไม่มีกึ๋น แทนที่จะยอมรับว่าพูดจริง กลับแก้ตัวน้ำขุ่นๆว่าไม่ได้พูด เจอขุดคลิปมาสวนก็หงายท้อง
แต่ที่สาหัสคือความน่าเชื่อถือของเพื่อไทย ที่พลอยสะเทือนไปด้วย
วันนี้ทั้ง เศรษฐา ทั้งคนในรัฐบาล และบรรดาคีย์แมนของพรรคเพื่อไทย ควรจะต้องยอมรับความจริงว่า ภาพลักษณ์ยังติดลบอยู่
การแก้ตัวแบบเอาสีข้างเข้าถู การไม่ระวังคำพูด ไม่ระวังการกระทำ รีบร้อนทำเพราะเชื่อมั่นในอำนาจที่อยู่ในมือเวลานี้ มีแต่จะทำให้ยิ่งแย่
ที่สำคัญการสื่อสารที่ผิดเพี้ยน ชนิดที่ต้องไปเรียนรู้อีกเยอะ วันนี้คือจุดอ่อนสำคัญอย่างยิ่งของมือใหม่หัดขับที่ชื่อ เศรษฐา ทวีสิน
เตือนกันด้วยความหวังดี แต่ถ้าผยองจนมองข้ามคำเตือน ก็รอดูแล้วกันว่า ถ้าไม่ลดดีกรีของความเชื่อมั่นในอำนาจแบบผิดๆ อนาคตอาจจะไม่เป็นเช่นที่หวังก็ได้
ภูวนารถ ณ สงขลา