24 ตุลาคม 2024

กฎหมายนิรโทษกรรม ฉบับพรรคก้าวไกล การก้าวข้ามความขัดแย้งที่ท้าทาย

0

พรรคก้าวไกลยื่นกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภา ก้าวแรกสร้างความยุติธรรม หาฉันทามติใหม่ของสังคม

ความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อมาถึงปัจจุบัน นับตั้งแต่การชุมนุมครั้งแรกของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 ภายหลังลุกลามบานปลายจนเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 และรัฐประหารซ้ำอีกครั้งในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากเข้าไปมีส่วนร่วมในรูปแบบต่างๆ หลายพันคนถูกดำเนินคดี ตั้งแต่คดีเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงข้อกล่าวหาร้ายแรงเป็นคดีความมั่นคง การดำเนินคดียังไม่ยุติจนถึงปัจจุบัน

พรรคก้าวไกลเห็นว่า สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เป็นการยากที่สังคมไทยจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติสุข เพราะประชาชนจำนวนมากที่ถูกดำเนินคดีจากการมีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน ต่างมีความเห็นว่ารัฐไม่เคารพความเห็นต่างทางการเมือง ไม่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง

ดังนั้น เพื่อให้สังคมไทยได้กลับมาเริ่มต้นใหม่ จำเป็นต้องยุติการใช้นิติสงครามต่อพี่น้องประชาชน ให้ประชาชนที่ได้แสดงออกทางการเมืองโดยมีเหตุจูงใจจากความขัดแย้งทางการเมืองในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ได้หลุดพ้นจากการถูกดำเนินคดี

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ :

(1) กำหนดให้บรรดาการกระทำใดๆ ของบุคคลผู้เข้าร่วมเดินขบวนและชุมนุมประท้วงทางการเมือง ตลอดจนการกระทำทางกายภาพหรือการแสดงความคิดเห็นใด ๆ ที่เป็นความผิดตามกฏหมายในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2549 จนถึงวันที่ พ.ร.บ.นี้ มีผลบังคับใช้ หากการกระทำดังกล่าวมีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้เท่าที่ไม่ขัดต่อพันธกรณีตามกฏหมายระหว่างประเทศ

(2) การนิรโทษกรรมจะไม่ครอบคลุมถึงการกระทำของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุม หากเป็นการกระทำที่เกินสมควรกว่าเหตุ ตลอดจนจะไม่นิรโทษกรรมการกระทำความผิดต่อชีวิตตามประมวลกฎหมายอาญา และจะไม่นิรโทษกรรมการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 113

(3) กลไกในการนิรโทษกรรม จะกำหนดให้มี ‘คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการกระทำความผิดเพื่อการนิรโทษกรรม’ โดยในร่างของพรรคก้าวไกลเสนอให้มี 9 คน ซึ่งประธานรัฐสภาจะเป็นผู้แต่งตั้ง ประกอบด้วย
– ประธานสภาผู้แทนราษฎร 1 คน
– ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร 1 คน
– บุคคลที่ได้รับเลือกจากคณะรัฐมนตรี 1 คน
– บุคคลที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเลือกอีก 2 คน

นอกจากนี้ เพื่อให้มีความรอบคอบ จะมีองค์ประกอบ
– มาจากผู้พิพากษาหรืออดีตผู้พิพากษาในศาลยุติธรรม 1 คน ซึ่งมาจากการเสนอของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
– มาจากตุลาการหรืออดีตตุลาการศาลปกครอง 1 คน
– มาจากพนักงานอัยการหรืออดีตพนักงานอัยการ 1 คน ซึ่งมาจากการเสนอของศาลปกครองและอัยการเอง
– คนสุดท้าย คือเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร

(4) ผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย หรือจะเดือดร้อนหรือเสียหายโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง อันเนื่องมาจากระเบียบ ประกาศ คำสั่ง คำวินิจฉัย หรือมติ หรือการกระทำของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดฯ ตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ มีสิทธิ์ฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้

พรรคก้าวไกลเชื่อว่าการนิรโทษกรรมนี้ สามารถเป็นไปได้หากพรรคการเมืองต่าง ๆ มีเจตจำนงร่วมกันในการผลักดัน ซึ่งหากพิจารณาให้ดี จะพบว่าพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่ผ่านมา ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้หรือปฏิเสธการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองแต่อย่างใด

หลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะใช้โอกาสพูดคุยกับพรรคการเมืองทุกฝ่าย รวมถึงพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มทุกสีที่เคยมีความขัดแย้งกันในอดีต โดยเรามุ่งหวังให้การเสนอร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญในการคืนชีวิตใหม่ให้พี่น้องประชาชนที่ถูกกระทำโดยนิติสงคราม หรือเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง หรือแสดงออกทางการเมืองแล้วถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ซึ่งจำนวนมากรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของตนเองในการแสดงออกทางการเมืองโดยสันติ ได้รับการกระทบกระเทือนหรือโดนละเมิด

การนิรโทษกรรมจะเป็นหนทางถอนฟืนออกจากกองไฟ เป็นก้าวแรกในการเริ่มต้นสร้างความยุติธรรมและความปรองดองที่ยั่งยืนในสังคม เพื่อให้ประชาชนทุกฝ่ายได้ใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยโดยสันติ แสวงหาฉันทามติครั้งใหม่ของสังคมไทย ที่พวกเรายอมรับที่จะอยู่ร่วมกันให้ได้ในอนาคต

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *