24 ตุลาคม 2024

‘นิกร’ เผย กม.ประชามติเจอเดดล็อก ต้องได้เสียงข้างมาก 2 ชั้น แนะต้องตัดทิ้ง

0

นายนิกร จํานง โฆษกคณะกรรมการเพื่อพิจารณา ศึกษา แนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 13 เรื่องเกณฑ์การทำประชามติ มีเนื้อหาสาระอย่างไร ว่า ในคณะอนุกรรมการได้หารือกันว่าการทำประชามติมีปัญหาที่จะทำให้ผ่านไม่ได้ เพราะต้องมีเสียงข้างมาก 2 ระดับ คือ 1.ต้องมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทําประชามติเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด คือประมาณ 26 ล้านคน

และ 2.ใน 26 ล้านคนนี้ จะต้องเห็นด้วยว่าควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 13 ล้านกว่าคน ซึ่งคิดว่าทําได้ยากมาก เพราะเรื่องรัฐธรรมนูญเป็นเหมือนเรื่องไกลตัว น่าจะทำประชาสัมพันธ์กันไม่ทัน อีกทั้งความเห็นต่างก็ไม่เยอะ คนที่ไม่เห็นด้วยมีไม่มากนัก แรงส่งที่จะทําให้มีคนออกมาใช้สิทธิ์น่าจะน้อย จึงเห็นว่าอาจมีปัญหา และถ้าหากประชามติไม่ผ่านขึ้นมา ก็จะกลายเป็นว่าคนไทยไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่จริงไม่ใช่แบบนั้น ดังนั้นจะต้องมีการหารือกันในคณะกรรมการ ซึ่งตนจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 24 พฤษจิกายนนี้

นายนิกร กล่าวว่า จุดนี้จึงถือเป็นปัญหาใหญ่ ไม่ใช่แค่เรื่องการเห็นด้วยหรือไม่ แต่กฎหมายประชามติมีปัญหา ไม่ใช่เฉพาะรัฐธรรมนูญ เพราะกฎหมายประชามติในลักษณะนี้ไม่เคยมี เพิ่งจะมีในรัฐธรรมนูญนี้เป็นฉบับแรก จึงคิดว่าเป็นกฎหมายที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง สมควรมีการแก้ไข เพราะจะได้ใช้ในอนาคตได้ด้วย เพราะการทำประชามติเป็นประชาธิปไตยทางตรงของประชาชน เพราะฉะนั้นควรทำกฎหมายตรงนี้ให้ดี

“ส่วนตัวมองว่า เสียงข้างมากชั้นที่ 2 ไม่ควรมีเป็นอย่างยิ่ง ควรจะใช้เสียงข้างมากอย่างเดียว เพราะเมื่อมีการออกมาใช้สิทธิ์ทำประชามติ บางคนอาจจะงดออกเสียงก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เมื่อรวมเสียงกันแล้วเสียงที่เห็นชอบจะไม่ได้เกินกึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นของพรรคก้าวไกล ที่มองว่า ควรเป็น 25% ของผู้มีสิทธ์ ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วก็คล้ายกับที่ผมเสนอ เพียงแต่เขามีวิธีอธิบายอีกแบบ แต่ก็จะมีปัญหาว่าประชาชนเข้าใจยาก และจะทำให้กฎหมายผ่านยาก ดังนั้นต้องคุยกันว่าเรื่องนี้จะแก้ยังไง แต่ถ้าแก้ โดยการตัดชั้นที่ 2 ทิ้ง ให้เป็นแบบเสียงข้างมากปกติ ก็แก้แค่มาตรา 13 อย่างเดียว จะทําให้แก้ได้เร็วขึ้น แต่เนื่องจากเป็นกฎหมายปฏิรูป ต้องผ่านความเห็นของทั้ง 2 สภา ดังนั้นต้องทำความเข้าใจกับ ส.ว.ให้ดี เพราะเขาไม่เห็นด้วยกันอยู่”

ส่วนมั่นใจว่าจะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่อยู่ที่หลักการและเหตุผล ซึ่งถ้าพรรคการเมืองเป็นผู้ยื่นจะมีปัญหา เพราะเป็นกฎหมายปฏิรูป ไม่ใช่กฎหมายธรรมดา มีกลไกเยอะ แต่ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยและยื่นเป็นร่างของรัฐบาลก็จะง่ายขึ้น

กรณีที่อาจจะถูกมองว่าเป็นการยื้อเวลาของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายนิกร กล่าวว่า ไม่ได้ยื้อ แต่เป็นการเห็นกำแพงที่ผ่านยากอยู่ข้างหน้า ยิ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญตามนโยบายเสียด้วยซํ้า และฝ่ายค้านเองก็ต้องร่วมกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *