24 ตุลาคม 2024

‘พริษฐ์’ ยืนยัน ส.ส.ร.ควรต้องมาจากเลือกตั้งทั้งหมด มั่นใจตอบโจทย์ข้อกังวลได้

0

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณา ศึกษาการจัดทำข้อเสนอระบบเลือกตั้งและแนวทางการทำงานของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุมวาระการเชิญตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆ เข้ามาให้ความเห็นถึงความสำคัญที่ ส.ส.ร.ควรมาจากการเลือกตั้ง ว่า วันนี้เป็นการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการจัดทำข้อเสนอเรื่องระบบ ส.ส.ร.ภายใต้คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง สื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำงานมาประมาณ 1 เดือน โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจัดทำข้อเสนอ ว่าหาก ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด จะสามารถมีระบบเลือกตั้งแบบไหนได้บ้าง ซึ่งจากการทำงานพบว่า กลุ่มคนเห็นต่างที่ไม่อยากให้ ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้ง มีข้อกังวล 2 ส่วน

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ส่วนแรกคือหากเลือกตั้งทั้งหมดจะมีพื้นที่ให้นักวิชาการ นักรัฐศาสตร์เข้ามาได้อย่างไร และส่วนที่ 2 คือจะมีหลักประกันความหลากหลายของกลุ่มคนในสังคมได้อย่างไร ซึ่งอนุกรรมาธิการพยายามคลาย 2 ข้อกังวลนี้ เพราะมีความเชื่อว่าหาก ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ก็จะมีความชอบธรรมทางประชาธิปไตย

“วันนี้เป็นโอกาสที่เรานำข้อเสนอเบื้องต้น หรือรายงานเบื้องต้นจากหลายภาคส่วน คนที่มาให้ความเห็นในวันนี้มีตั้งแต่นักวิชาการ คนที่เคยยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2539-2540 รวมถึงคณะกรรมการศึกษาจากรัฐบาล ซึ่งทำให้อนุกรรมาธิการมีความเห็นครบถ้วนและรอบด้านมากขึ้น ซึ่งเราอาจจะจินตนาการได้ว่า ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งอาจจะมี 3 ประเภท ตนเรียกว่า X Y และ Z โดย X เป็น ส.ส.ร.ที่เป็นตัวแทนพื้นที่ ส่วน Y เป็น ส.ส.ร.ที่เป็นสัดส่วนนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งอาจจะมาจากเลือกตั้งโดยตรง หรือให้ ส.ส.ร.ที่ถูกเลือกมา คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญอีกรอบ และ Z เป็น ส.ส.ร.ที่เป็นตัวแทนกลุ่มความหลากหลายทางสังคม”

นายพริษฐ์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมความเห็นและการประเมินข้อดีข้อเสีย บนเงื่อนไขว่าทุกประเภทที่กล่าวมาได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ซึ่งหากครบถ้วนแล้วจะนำไปเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและยื่นให้คณะกรรมการศึกษาของรัฐบาลพิจารณาต่อ โดยอยู่บนพื้นฐานความหวังว่าทุกคนจะคลายข้อกังวล และเห็นตรงกันได้ว่า ส.ส.ร.ควรมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด

ส่วนการประเมินว่าฝั่งรัฐบาลจะเห็นด้วยมากน้อยแค่ไหน นายพริษฐ์ กล่าวว่า คงต้องรอดูว่าหลังจากที่เรายื่นไปแล้วมีท่าทีอย่างไร สิ่งที่เราทำคือเพื่อคลายข้อกังวล

“หากผมถอดหมวกประธานคณะกรรมาธิการการเมืองฯ ออก แล้วเป็น ส.ส.ก้าวไกล ผมอยากให้เสนอคำถามการจัดทำประชามติให้เป็น 1 คำถามหลัก 2 คำถามพ่วง ที่ทำหน้าที่แตกต่างกัน 1 คำถามหลัก เป็นคำถามที่เปิดกว้างที่สุด เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าควรจะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันว่า ส.ส.ร.มีอำนาจและที่มาอย่างไร สามารถเห็นตรงกันได้ในคำถามหลัก เราจึงเสนอคำถามหลักเป็นคำถามที่กว้างว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยใน 2 คำถามพ่วง เป็นคำถามที่เราแก้ไขปัญหาความเห็นที่ยังแตกต่างกันอยู่ในรายละเอียด ได้แก่ ส.ส.ร.ควรมาจากการแต่งตั้งทั้งหมดหรือไม่ และเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องการล็อกหมวด 1-2 ไว้” นายพริษฐ์กล่าว

กรณีคำถามพ่วงจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนหรือไม่ นายพริษฐ์กล่าวว่า ก็เป็นข้อกังวลที่เรายังศึกษาอยู่ แต่คิดว่าหากเป็น 1 คำถามหลัก 2 คำถามพ่วง แล้วเราสร้างบรรยากาศในการรณรงค์ในช่วงประชามติที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างกว้างขวางที่สุด จะสามารถทำให้ประชาชนมีข้อมูลครบถ้วน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *