24 ตุลาคม 2024

‘ชวน’ ลั่น จะอยู่กับปชป.ตลอดไป ฝากคณะกรรมการช่วยดูแล อย่าให้ใครเอาพรรคไปหากิน

0

นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกพรรคลาออกหลังได้กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ว่า ยังไม่รู้ว่ามีคนลาออกกี่คน ยอมรับว่าเสียดายบุคคลเหล่านั้น ไม่ทราบว่านายสาธิต ปิตุเตชะ จะลาออก ทราบเพียงที่เขาบอกว่าจะไม่มาประชุมเท่านั้น จึงได้ถามว่าเป็นเพราะเหตุใด และได้รับคำตอบกลับมาว่าเขาล็อกไว้หมดแล้ว มาก็ไม่มีประโยชน์ จึงขอร้องให้มาประชุม เขาจึงยอมมา แต่มาแล้วลาออกก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เสียดายคนที่เป็นกำลังสำคัญ ผู้ที่ไม่เกี่ยวกับ ส.ส.หลายคนก็แจ้งลาออก คนที่เคยสนับสนุนพรรคก็ส่งไลน์มาขอลาออก ตนก็เข้าใจและเห็นใจคนที่ห่วงใย

การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้มีการล็อบบี้เอาไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คงเป็นอย่างนั้น ความจริงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นผู้ใหญ่ พูดตรงไปตรงมาในที่ประชุมว่า การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้แล้วแต่เลขาฯพรรคสั่งมา เพราะเลขาฯดูแลมา 4 ปี ฉะนั้นแล้วแต่ท่านสั่ง หลายคนก็พูดแบบนี้ ไม่เฉพาะผู้ที่ถูกเสนอชื่อจะเป็นนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แม้จะเป็นคนอื่นหากถ้าเลขาฯเป็นคนสนับสนุน คนนั้นก็ชนะ และเมื่อนายเฉลิมชัยยอมผิดคำพูดมาเป็นหัวหน้าพรรคเอง จึงได้พูดว่าอย่าให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคอะไหล่ ความคิดที่ดิ้นรนอยากเป็นรัฐบาล ไปร่วมกับเขาไม่ควรเกิดขึ้น

“ที่เป็นห่วงคือ อุดมการณ์ของพรรค ที่ประกาศมา 78 ปี คือเรื่องการเมืองบริสุทธิ์ และความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสิ่งที่ย้ำตลอดมาว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการยอมรับเป็นสถาบันการเมืองไม่ใช่เพราะอยู่มานาน หากอยู่นานแล้วโคตรโกง โกงทั้งโคตร หัวหน้าพรรคติดคุก ก็ไม่มีใครยอมรับเป็นสถาบันการเมือง แต่คนรุ่นก่อน หัวหน้าพรรคทุกคนทำหน้าที่ด้วยความซื่อตรง สุจริต จึงทำให้พรรคได้รับการยอมรับจากประชาชน ดังนั้น ต้องรักษาสิ่งนี้ไว้ ซึ่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ก็ยืนยันเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตในที่ประชุม จึงขอฝากกรรมการบริหารพรรคที่พะวงเรื่องพวกนี้ให้ช่วยกันดูแล เพราะช่วงที่ผ่านมามีข่าวลือเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์เข้าไปดูแลในรัฐบาลมีอยู่ไม่น้อย”

ส่วนกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่สามารถทำงานกับสมาชิกพรรคที่เป็นคนรุ่นเก่าได้หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ที่จริงไม่มีรุ่น กรรมการบริหารคือบุคคลสำคัญที่จะนำพรรคไปสู่ความสำเร็จหรือล้มเหลว ต้องยอมรับว่าเที่ยวที่แล้วการนำของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรค เราต้องรับผิดชอบด้วยกัน เนื่องจากการที่ได้เป็นเพราะ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตน ช่วยสนับสนุนสู้กับคนอื่นที่เป็นคนเก่ง ทั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และนายกรณ์ จาติกวณิช ที่เป็นคนเก่ง เมื่อนายจุรินทร์ชนะและเสนอนายเฉลิมชัยเป็นเลขาฯพรรค เราก็เลือก แต่เวลา 4 ปีที่ผ่านมาคนเหล่านี้ได้นำพรรคไปสู่จุดหนึ่ง จนทุกคนเป็นห่วงว่าต่อจากนี้จะตกต่ำมากกว่านี้หรือไม่ ถามว่ามีหรือที่จะต่ำกว่านี้ เพราะครั้งนี้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อแค่ 3 คน ในอนาคตจะดีหรือชั่วอย่างไรไม่ควรจะต่ำกว่า 3 คน ผลครั้งนี้ก็มาจากกรรมการบริหารชุดที่แล้ว จึงหวังว่าในอนาคตต้องฝากว่าขอให้ยึดอุดมการณ์พรรคเอาไว้ ถึงแม้จะไว้วางใจได้ไม่เต็มที่ก็ตาม ขอฝากกรรมการบริหารพรรคบางคนที่ยังรักและหวงพรรคอยู่ ให้ช่วยกันดูแล อย่าให้เขาเอาพรรคไปหากิน

จากนี้ไปคิดจะวางบทบาทในพรรคอย่างไร นายชวน กล่าวว่า จะพยายามช่วยประคับประคอง สนับสนุนสิ่งดีให้พรรค การที่ตัดสินใจสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพราะคิดว่าสถานการณ์นี้เป็นช่วงเวลาที่จำเป็น ที่จะต้องเป็นคนที่สังคมยอมรับพอสมควร และหัวหน้าพรรคในประเทศไทยที่มีนายอภิสิทธิ์ไม่ด้อยไปกว่าใคร ถ้าขี้โม้ก็จะบอกว่าเหนือกว่าคนอื่น ย้ำว่าไม่ด้อยกว่าใคร แล้วยังมีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถที่จะนำพาพรรคในช่วงเวลาแบบนี้ให้พัฒนาดีขึ้นกว่าเดิม และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้ เพราะที่คนห่วงใยพรรคประชาธิปัตย์เพราะถือว่ามีอยู่พรรคเดียวที่ยังพึ่งพาได้ในเรื่องความคิด ความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอยู่ แต่ปรากฏผลออกมาคิดว่าแค่ไม่รับตำแหน่ง ไม่คิดว่าจะลาออก เมื่อเป็นเช่นนี้ขอให้กำลังใจว่าอย่าเพิ่งวางมือ เพราะยังมีเวลาอยู่

“เช่นเดียวกับ คุณวทันยา บุนนาค ที่เสียดายและชื่นชมในความพยายาม แต่เมื่อเห็นโพยที่ล็อกเอาไว้ว่าอย่าไปรับการลงมติ 3 ใน 4 เพื่อยกเว้นข้อบังคับ (6) ที่เป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 5 ปี ให้สามารถสมัครชิงตำแหน่งได้ถ้าสมาชิก 3 ใน 4 ให้การยอมรับ เมื่อเป็นการสกัดจึงต้องขอร้องสมาชิกในที่ประชุมให้เปิดโอกาสได้มีโอกาสแข่งขัน ที่จริงผลก็ไม่ได้เปลี่ยน แต่ควรเปิดโอกาสให้ได้แข่งขัน ซึ่งได้คะแนนเพิ่ม ขาดไปเพียง 60 กว่าเสียง จึงมีความรู้สึกว่าทำไมไปกลัว หัวหน้าพรรคควรได้มาด้วยการแข่งขัน ไม่ใช่ได้มาตามโพย ผมพยายามเสนอแนะในทางที่ดี แต่เขาไม่เอาแนวทางที่เราเสนอด้วยความปรารถนาดี ซึ่งหัวหน้าพรรคตั้งแต่คุณควง อภัยวงศ์ ล้วนมาด้วยระบบแข่งขัน”

นายชวน กล่าวด้วยว่า ตนเองก็ยังต้องแข่งขันกับนายมารุต บุนนาค ซึ่งสมาชิกจะพิจารณาว่าใครจะนำพรรคไปได้ดี ที่ตนได้เป็นหัวหน้าพรรคเพราะสมาชิกเห็นว่าจะสามารถนำพรรคไปได้ และต่อมาตนได้เชิญนายมารุตมาเป็นหัวหน้าพรรค จนมาเป็นประธานสภา จึงอยากบอกว่าการแข่งขันไม่ได้แตกแยกเสมอไป แต่ยุคที่มีการแข่งขันแล้วคนลาออกไปมากคือยุคของนายจุรินทร์ แม้จะพยายามห้าม ก็ห้ามไม่อยู่ แต่ไม่ว่าคนเหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหนก็ตามต้องขอชื่นชมคนที่ทำงาน ยกตัวอย่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ที่สามารถจับการโกงข้าวได้ ดังนั้น คนดีๆ เราอยากเอาไว้ และอยากเห็นคนใหม่ที่จะเข้ามา อยากเห็น น.ส.วทันยา อยู่ต่อไป เพราะอายุยังน้อย ยังมีอนาคต

นายชวน กล่าวว่า ตลอดมาตนป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้มีสถานะมากไปกว่านี้ มีสิทธิในฐานะสมาชิกคนหนึ่งที่จะให้ความเห็นในทางเป็นประโยชน์ เมื่อเห็นมีการฝืนมติพรรคทั้งที่เวลา 77 ปี ของพรรคไม่เคยมีมาก่อน ที่สมาชิกจะไปฝืนมติพรรคกลางสภา ไปรับรองนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่คนเสนอไม่ให้รับคือตัวเขาเอง คือ พล.ต.ต.สุรินทร์ ที่เสนอในที่ประชุมพรรคว่าไม่ควรรับนายเศรษฐา เพราะว่าไม่ได้ร่วมรัฐบาล แต่คนเหล่านี้กลับคำตัวเอง กรรมการบริหารชุดต่อไปจึงต้องพิจารณาด้วย

“ผมไม่ไปไหนหรอกครับ ยังไงผมก็ต้องอยู่ เพราะเป็นหนี้บุญคุณพรรค ผมเป็นชาวบ้านคนหนึ่ง สามารถเป็นอะไรก็ได้ เพราะมีโอกาสได้อยู่พรรค ถ้าไม่อยู่ที่พรรคก็ยาก พรรคนี้ให้โอกาส โดยไม่สนใจว่าฐานะ ตระกูลมาอย่างไร ถ้าแสดงตัวว่าคนนี้ดีพอเป็นหัวหน้าพรรคได้ เขาก็เลือก นี่คือสิ่งที่ผ่านมา ดังนั้น บุญคุณอันนี้ใช้ไม่หมด ผมต้องตอบแทนบุญคุณในช่วงปลายชีวิตการเมือง”นายชวนยืนยันชัดเจน ว่าจะยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *