คิดไม่ฉลาด ยังดันทุรังแบก

เริ่มแล้วสำหรับเทศกาลวันหยุดฉลองปีใหม่ เป็นวันแรก ในวันที่ 29 ธันวาคม ท่ามกลางเสียงสะท้อนที่หงุดหงิด

คิดไม่ฉลาด แถมพวกนางแบกก็แบกแบบแถสุดชีวิต คือคำวิจารณ์ในการกำหนดวันหยุดช่วงปีใหม่ ที่เปลี่ยนวันหยุดวันที่ 2 มกราคม ให้มาหยุดวันที่ 29 ธันวาคมแทน

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ในค่ำคืนวันที่ 1 มกราคม 2567 เมื่อคนที่เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด กินข้าวฉลองปีใหม่ กับพ่อแม่ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา ญาติพี่น้อง เสร็จสรรพต้องรีบกลับทันที เพื่อมาทำงานในวันที่ 2 มกราคม ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้เป็นวันเปิดงาน

เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลแรกจริงๆ แต่เป็นนวัตกรรมทางความคิดหรือไม่ วัดได้จากกระแสคนด่าว่า คงไม่ใช่แน่ๆ

แถมยังย้อนแย้งกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ขยับให้ปิดผับบาร์ได้ถึงตี 4 และคืนวันปีใหม่ ให้เปิดได้ถึง 6 โมงเช้า

แต่คนจะไม่มีสิทธิ์กินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้จนถึงตี 4 หรือ 6 โมงเช้า ก็เพราะการขยับวันหยุด ให้วันที่ 2 เป็นวันเปิดงานนี่แหละ

ไม่ได้ซ้ำเติม แต่อยากให้ยอมรับกันบ้าง ว่าพลาดก็คือพลาด

ถ้าเป็น CEO บริษัท จะโชว์ขยันสั่งให้บริษัทที่ตนเองเป็นผู้บริหาร เริ่มเปิดทำงานวันที่ 2 มกราคม อย่างมากก็มีแค่คนในบริษัทนั่นแหละที่บ่น ส่วนคนรอบข้างหรือเพื่อนฝูงที่อยู่คนละบริษัท ก็อาจจะบอกว่าตลก คิดได้ไง

แต่เพราะนี่เป็นการเปลี่ยนแปลงโดยรัฐบาล ซึ่งมีผลกับทุกบริษัท ทุกหน่วยงาน ทั้งประเทศ จึงโดนด่าระงม

ที่แย่ยิ่งกว่า คือบรรดานางแบกที่หลับหูหลับตาแบกไปหมดทุกเรื่อง โดยไม่สนใจตรรกะหรือเหตุผลใดๆ แถกันน้ำขุ่นๆว่า หยุด 30 ถึงวันที่ 2 ก็ได้ 4 วันเท่ากับหยุด 29 ถึงวันที่ 1 ไม่เห็นจะแตกต่างกันตรงไหน

ที่คนเขาด่า เขาไม่ได้อยากได้วันหยุดเพิ่ม เขาไม่ได้ด่า เพราะได้หยุดแค่ 4 วัน แต่ก็ด่าเพราะวันที่ 1 ควรเป็นคืนของการเฉลิมฉลองที่มีความสุข ดันกลับกลายเป็นคืนที่คนกลับบ้านต่างจังหวัด ต้องรีบกลับมาทำงาน แล้วต่างจังหวัดกลับมาทำงานกรุงเทพฯในเช้าวันที่ 2 มกรานั้น ระบบขนส่งบ้านเรา สำหรับคนต่างจังหวัดมันดีนักหรือ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าสภาพเป็นอย่างไร

เอ๊ะหรือว่าคนที่คิด กับบรรดานางแบก ล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คนต่างจังหวัด หรือไม่ก็เป็นพวกที่ไม่มีเครือญาติหลงเหลืออยู่แล้วหรือเปล่านะ

ย้ำอีกครั้ง อะไรที่พลาด ก็หัดยอมรับบ้างเถอะว่าพลาด จะดันทุรังแถกันจนสีข้างถลอกไปเพื่อ?

ก็หวังว่าครั้งหน้า จะไม่ขยันแบบโง่ๆ อีกหรอกนะ

หนามกุหลาบ