24 ตุลาคม 2024

พายุสุริยะ : ‘ลุง’ ลุ้นเฮือกสุดท้าย

0

เบื้องหน้า คือการขับเคลื่อนของกลุ่มสว. ที่นำโดย “เสรี สุวรรณภานนท์” “จเด็จ อินสว่าง” ภายใต้ชุดคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา

ที่กำลังไล่ล่ารายชื่อสว. เพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ที่ต้องรวบรวมรายชื่อสว.ให้ได้จำนวน 1 ใน 3 หรือ 84 เสียงขึ้นไป ซึ่งก็ใกล้เคียงเข้าไปทุกที ประเด็นหลักที่จะอภิปรายกัน หนีไม่พ้นเรื่องนโยบายของรัฐบาล รวมถึงเรื่องราววุ่นๆ ของ “เทวดาชั้น 14”

ถ้าดูตามหน้าเสื่อ ก็เหมือนเป็นการทำหน้าที่ทิ้งทวนเป็นครั้งสุดท้ายของสว.ชุดนี้ ที่กำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งครบ 5 ปี ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 นี้

หากจะมองเป็นสิทธิในการทำหน้าที่ของ สว. ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ก็ย่อมได้ แต่ถ้าจะถามถึงความชอบธรรม ก็ต้องบอกว่ามี Hidden Agenda ซ่อนเกมอำนาจอยู่แน่นอน

อย่าลืมว่ารัฐบาลชุดนี้เพิ่งเข้ามาบริหารประเทศได้ไม่เต็ม 4 เดือนดี แต่สว.ที่ใกล้จะกลายเป็นลิเกลาโรงเข้าไปทุกที กลับจะมากระเหี้ยนกระหือรือเอาตอนนี้ ทั้งที่ช่วง 4 ปีกว่าที่ผ่านมา สว.ชุดนี้ไม่เคยคิดที่จะเปิดอภิปรายเพื่อที่จะเสนอความเห็น หรือให้ข้อเสนอแนะแก่ “รัฐบาลลุงตู่” เลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่มีข้อผิดพลาดจากการบริหารราชการแผ่นดินมากมาย

นั่นก็เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ที่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาเป็น สว. มันก็เลยทำกันได้แค่ ตั้งกระทู้อวยกันไส้แตก เราจึงไม่เคยเห็นบทบาทของสว.ชุดนี้ ตรวจสอบรัฐบาลชุดที่ผ่านมา

ที่สำคัญคือบทบัญญัติท้ายรัฐธรรมนูญ กำหนดให้สว.ต้องคอยติดตามกำกับดูแลเรื่องการปฏิรูป ในช่วงการเมืองเปลี่ยนผ่าน แต่ช่วงเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา การปฏิรูปประเทศไทย ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

และเบื้องหลังของการเปิดเกมชิงอำนาจในครั้งนี้ มองจากหน้าตาเหล่า สว.ที่ออกมาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันขับเคลื่อนแล้ว ล้วนอยู่ในปีกของ “ลุงป้อม”ประวิตร วงษ์สุวรรณ เกิน 90% ที่เหลือก็เป็นอดีตก๊วน 40 สว.เดิม ศัตรูตลอดกาลของ “นายใหญ่” ซึ่งกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ยกมือโหวตให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ

แล้วทำไม “บิ๊กป้อม”ประวิตร ถึงต้องการเขย่าขย่มรัฐบาลชุดนี้ ทั้งที่ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลกัน แถมน้องชายสุดเลิฟอย่าง “บิ๊กป๊อด”พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก็ยังนั่งเป็นรองนายกฯ ควบรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ด้วย

เรื่องอำนาจและผลประโยชน์นั้นไม่มีใครยอมใคร มันมีร่องรอยมาตั้งแต่ อาการ“บิ๊กป้อม”ที่กลับมาคึกคักดึ๋งดั๋งอีกครั้ง หลังจากเงียบหายไปนานหลังการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จ มีการโหวตเลือก “เศรษฐา”เป็นนายกฯ ตอนแรกก็ทำท่าจะปล่อยมือให้ “บิ๊กป๊อด”น้องรัก สืบทอดอำนาจพรรคพลังประชารัฐต่อ แต่ทำไปทำมาด้วยความที่บุคลิกและจริต ไม่สามารถเข้ากับคนการเมืองในพรรคได้ สุดท้ายก็เลยต้องกลับมากุมบังเหียนเองอีกครั้ง

ประจวบกับการจุดประเด็นต่อต้าน “นักโทษเทวดา” ที่ประเมินกันในกลุ่มว่าเริ่มจุดติด จากความหวังที่เลือนรางลงไปทุกที ก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง และเริ่มมีการวางเกมขับเคลื่อนเป็นขั้นตอน และการอาศัยสว. เปิดเกมเขย่าในสภา ด้วยปัญหาที่ยังร้อนๆ กรุ่นๆ น่าจะเกิดแรงกระเพื่อมที่หวังจะให้ฝ่ายค้านอย่างก้าวไกล นำไปขยายผลต่อ

เร่งอัดแก๊สกะจะให้กล้วยสุกงอมเต็มที่ ก็เพื่อหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในขั้วรัฐบาล อย่าลืมว่าสว.ชุดนี้ยังมีวาระจนถึงวันที่ 11 พ.ค. แม้เวลาจะน้อยเต็มที แต่กระดานอำนาจก็สามารถพลิกได้ทุกเมื่อ อำนาจในการโหวตนายกฯยังมีอยู่ในมือ

ที่มองว่าเป็นหอกข้างแคร่ คงไม่ใช่ก้าวไกลฝ่ายค้าน เพราะนั่นเป็นพรรคคู่แข่งที่เขาเปิดหน้าเปิดตัว รอที่จะห้ำหั่นกันในศึกเลือกตั้งรอบหน้าชัดเจนแล้ว

แต่หอกข้างแคร่ตัวจริงที่เพื่อไทยจะมองข้ามไม่ได้ ก็คือพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันนี่แหละ พลาดขึ้นมาเมื่อไหร่ “ลุง”เป็นได้เสียบทันที..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *