‘บิ๊กเต่า’ มือปราบโกง.. สมราคา ‘ตำรวจอาชีพ’
“ศรีหนัก” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ บิ๊กเต่า รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(รองผบช.ก.)พูดหลังนำกำลังบุกรวบ นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียนระดับบิ๊กเนม ติดกับดักหลังอธิบดีกรมการข้าวแจ้งจับฐานตบทรัพย์
พอบ่งบอกได้ว่าคดีนี้นายศรีสุวรรณ คงพ้นบ่วงลำบาก
เพราะเจ้าของคำพูดนี้มีดีกรีจับพวกขี้โกงและพวกมีอิทธิพล ที่เป็นนักการเมือง บิ๊กราชการและบิ๊กตำรวจมาแล้ว จัดว่าเป็นตำรวจน้ำดีที่หาตัวจับอยากในยุคนี้
ถ้าย้อนดูในห้วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ช่วยกู้หน้าองค์กรตำรวจในยุคที่ผู้นำโตแบบบ่มแก๊ส แบบไม่เกรงกลัวอิทธิพลแต่อย่างใด
ไม่ว่าจะเป็นคดีวางแผนจับกุมอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คาสำนักงานยึดของกลางหลายล้านบาท จับกุมเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตราชเทวี และจับนายกเทศมนตรีบางแก้ว สมุทรปราการ เป็นต้น
นำกำลังตำรวจเข้าค้นบ้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. หลังพบข้อมูลว่าตำรวจคนสนิทพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มพนันออนไลน์ รวมถึงวางแผนจับกุมนายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ อุทัยธานี ลูกเขยนายชาดา ไทยเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมาดไทย และในปี 2560 วางแผนตรวจค้นรถนายชาดารวม 8 คันพบอาวุธปืนและกระสุนเพียบ
ช่วงนั่งตำแหน่งผบก.ปปป.ถูกมอบหมายนั่งรักษาการผู้การทางหลวง สางคดีตำรวจถูกยิงตายในบ้านกำนันนก และสางคดีสติ๊กเกอร์ส่วยรถบรรทุก
ด้วยความเป็นตำรวจน้ำดีประชาชนไว้วางใจ ถูกร้องขอให้เข้าไปเคลียร์ปัญหาความขัดแย้ง ในวัดหิรัญญาราม(วัดบางคลาน) จ.พิจิตร ที่ขัดแย้งมาอย่างยาวนาน เพราะมีส.ว.ชักใย
ย้อนดูประวัติพบว่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เป็นชาวสุพรรณบุรี จบโรงเรียนเตรียมทหารรุ่น 29 นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 45 เริ่มรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน เติบโตในสายงานสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด กระทั่งติดยศพล.ต.ต.ในตำแหน่ง ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(บก.ปปป.)ก่อนขยับเป็นรองผบช.ก.
พล.ต.ต.จรูญเกียรติบอกถึงสไตล์การทำงานว่า “ประชาชนไม่จำเป็นต้องร้องขอความยุติธรรม เพราะตำรวจต้องเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง..”
หากถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนในเวลานี้ เชื่อว่า “บิ๊กเต่า” เครดิตนำโด่งเหนือบรรดาบิ๊กตำรวจ ที่บริหารอาณาจักรโล่เงินอย่างแน่นอน
เพราะ “บิ๊กตำรวจ”ส่วนใหญ่โตแบบเรียนลัด ได้ตำแหน่งมาพร้อมกับคำเย้ยหยันจากสังคมและผู้ใต้บังคับบัญชา ว่าถนัดสร้างภาพ เดินสายทำบุญ เยี่ยมโรงพักห่างไกล ขึ้นโชว์ลูกคอเกือบทุกเวที ละเลยงานในหน้าที่จนอาชญากรรมเต็มบ้านเต็มเมือง
บางคนเหลือเวลาอยู่ในราชการไม่ถึง 250 วัน ลองหันมาทบทวนบทบาทตัวเองว่าเหมาะสมกับความเป็นตำรวจอาชีพหรือไม่ ถ้าหาไม่เจอลองไปศึกษาจาก “บิ๊กเต่า” ได้นะ!!!