24 ตุลาคม 2024

ปลด ‘เจ๋ง ดอกจิก’ พ้นที่ปรึกษาประธานกมธ.กิจการศาลฯแล้ว ส่วน ‘พิมณัฎฐา’ ชิงลาออก

0

เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 มีการประชุม ส.ส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคด้วย โดยมีรายงานว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค เดินทางเข้าร่วมประชุมโดยหลบไปขึ้นทางประตูด้านหลัง พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ส่วนนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” และ น.ส.พิมณัฎฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้มาประชุมแต่อย่างใด ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพบรรยากาศ

นายสัญญา นิลสุพรรณ ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ได้ลงนามในหนังสือให้นายยศวริศ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการฯ แล้วตั้งแต่วันนี้ ตามที่พรรครวมไทยสร้างชาติส่งสัญญาณ หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาร่วมกับนายศรีสุวรรณ จรรยา เกี่ยวข้องกับการข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท ส่วน น.ส.พิมณัฎฐา ไม่ได้เป็นที่ปรึกษาประธานฯแต่อย่างใด

ต่อมา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังประชุม ว่า ที่ประชุมได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง น.ส.พิมณัฎฐา แต่ น.ส.พิมณัฎฐาได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแล้วในวันนี้ (30 ม.ค.) กรรมการจึงไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ พร้อมกันนี้พรรคยังสั่งการให้ตรวจสอบคณะทำงานของคณะรัฐมนตรีและประธานกรรมาธิการ โดยภายในการประชุมพรรคครั้งหน้าให้ส่งรายชื่อให้เลขาธิการพรรค ตรวจสอบคุณสมบัติว่าไปกระทำการอันใดที่สร้างความเสียหายให้กับพรรคหรือไม่ ยืนยันว่าพรรคจะไม่มีการปกป้อง เบื้องต้นยังไม่พบ สมาชิกบุคคลอื่นนอกเหนือจาก 2 คนที่มีความเชื่อมโยงกับข้อกล่าวหาข่มขู่เรียกเงินอธิบดีกรมการข้าว 3 ล้านบาท หากมีเพิ่มเติม ผู้บริหารพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ปกป้องคนผิด

“ไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง แต่มองเป็นเรื่องความบังเอิญที่จับตัว เจ๋ง ดอกจิก ที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่อยากให้มองเป็นเรื่องการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่มองเป็นความผิดทางอาญาส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย หากวันดังกล่าว เจ๋ง ดอกจิก อยู่ที่รัฐสภาก็ต้องไปจับที่รัฐสภา“

นายอัครเดช กล่าวว่า ส่วนที่สังคมสงสัยว่าให้ เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่งคณะทำงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 แต่ยังปรากฏภาพ เจ๋ง ดอกจิก เข้าร่วมประชุมคณะทำงานตรวจราชการคณะ 11 ซึ่ง นายพีระพันธุ์ ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่าต้องการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนให้คนอื่นเข้ามาทำงาน จึงให้เจ๋ง ดอกจิก พ้นจากตำแหน่ง สำหรับเรื่องเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคดีปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เพราะมีผลต่อรูปคดี

นายอัครเดช กล่าวด้วยว่า ได้สอบถามเลขาธิการพรรคแล้ว แต่ยังไม่ได้ชี้แจงเรื่องนี้ คงจะมีการสอบถามอีกครั้งว่าใครเป็นคนพาเจ๋ง ดอกจิก เข้ามาในพรรค แต่เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า เจ๋ง ดอกจิก เคยเป็นแกนนำเสื้อแดงและกลับใจในนามกลุ่มคนไทยรักชาติ และส่วนตัวไม่ได้รู้จักเจ๋ง ดอกจิก ไปเจอกันที่สภา และไม่ทราบว่าใครชวนมาเข้าพรรค

ส่วนว่ามีการร้องเรียนบุคคลทั้งสองเข้ามาที่พรรคก่อนหน้านี้บ้างหรือไม่ นายอัครเดชกล่าวว่า ไม่มีเลย และพรรคไม่ได้ระแคะระคาย ถ้ามีก็คงดำเนินการ หัวหน้าพรรคคงไม่ปล่อยไว้แน่นอน เพราะตอนนี้พอทราบเรื่องก็ได้ยกเลิกคำสั่งทันที ฉะนั้นยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล ซึ่งพรรคมี 6 หมื่นกว่าคน ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี เป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองที่เป็นแบบนี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือความรับผิดชอบของพรรคการเมืองและผู้บริหารพรรค เมื่อทราบเรื่องก็พ้นจากตำแหน่งทันที เพื่อให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ตัวเอง ไม่มีที่จะมายื้อ แสดงให้เห็นความจริงใจในการไม่ปกป้องคนผิดและสนับสนุนให้ตำรวจดำเนินการ ตามกฎหมายอย่างเต็มที่ และเท่าที่ดูเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเลย

ทั้งนี้ นายอัครเดช ได้นำเอกสารมาแสดงให้สื่อมวลชนดู ประกอบด้วย เอกสารที่นายสัญญา ได้ลงนามในหนังสือให้นายยศวริศ พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการ ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2567 และใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ของ น.ส.พิมณัฎฐา ที่ขอลาออกในวันนี้เช่นกัน

ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า ได้มีการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว โดยในสัปดาห์หน้า ส.ส.และรัฐมนตรีจะส่งรายชื่อบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานมาให้ตรวจสอบ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยส่ง ถ้าตรงไหนมีการตั้งข้อสังเกตก็จะเร่งตรวจสอบให้เร็วที่สุด

ส่วนบุคคลที่ชักนำนายเจ๋ง ดอกจิก ให้เข้ามาร่วมงาน นายเอกนัฏ กล่าวเลี่ยงว่า ขอไม่ไปตรงจุดนั้น ปัญหาอยู่ตรงไหน ก็จะไปแก้ตรงนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *