ปมป่วนขบวนเสด็จ ‘ตะวัน’นอนคุก ‘ศาล’ไม่ให้ประกันตัว ‘สภา’วิวาทะเดือด

เกิดอะไรขึ้นกรณีขบวนเสด็จฯ โดยเมื่อวานนี้ 14 ก.พ.2567 ที่รัฐสภา ได้มีการพิจรณาญัตติด่วนเรื่องการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จ เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ได้อภิปรายว่าจากการดูคลิปที่ น.ส.ตะวันบีบแตรไล่ขบวนเสด็จ ตนเห็นแล้วโกรธมาก สร้างความสะเทือนใจให้แก่ประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เห็นดำเนินการอะไรในขณะพบการกระทำความผิด

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมเสนอญัตติด้วยอภิปรายว่าจุดยืนของพรรคให้ความสำคัญกับระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข จุดยืนจะธำรงไว้ซึ่งการถวายความปลอดภัยแก่องค์พระประมุขและพระบรมวงศานุวงศ์ ไม่เห็นด้วยที่จะมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา112

ด้านนายรังสิมันต์ โรม ได้อภิปรายพาดพิงว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ไปถ่ายรูปกับ กลุ่มสปปส.และกลุ่มอาชีวะราชภักดีที่ขู่ว่าจะจัดการกับตะวัน น้องหยกและสายน้ำ เป็นการใช้ความรุนแรง จากนั้นนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ได้ลุกขึ้นประท้วงและอภิปรายด้วยอารมณ์รุนแรง และแฉว่ามีขบวนการให้การสนับสนุนด้านการเงินกับกลุ่มป่วน ทำให้อุณหภูมิในการอภิปรายร้อนฉ่าทันทีจนต้องมีการเคลียร์ใจกันกับพรรคก้าวไกล ท้ายที่สุดสภามีมติให้นำเรื่องส่งให้รัฐบาลพิจารณาหาแนวทางเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงมาตรฐานการถวายความปลอดภัยให้เข้มงวดมากขึ้น

ด้านศาลอาญาได้พิจารณาไต่สวนในกรณีของตะวันและณัฐนนท์ ศาลพิจรณาถึงการฝากขัง แล้วไม่อนุญาตให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่าคดีที่ถูกฟ้องตามมาตรา 116 มีโทษร้ายแรง หากให้ประกันตัวเกรงว่าจะไปกระทำผิดอีก จึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำคลองเปรมและทัณฑสถานหญิงกลาง

ทางด้านกระทรวงกลาโหม มีการประชุมสภากลาโหมสัญจรครั้งที่ 2/2567 ณ บก.ทบ.โดย นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ซึ่งได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมมีการกล่าวถึงเรื่องการบีบแตรขบวนเสด็จ ว่าทางทหารได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ให้ฝ่ายความมั่นคงจับตาอยู่ จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

พล.ร.ต.ธนิตพงศ์ ศิริเศวตศักดิ์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทางทหารจะปฏิบัติตาม พ.ร.บถวายความปลอดภัย2557 และพ.ร.บ.2560ถวายพระเกียรติในการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปตามพระประสงค์ที่จะไม่ให้มีการปิดการจราจร ซึ่งพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัวมีความห่วงใยประชาชนจะได้รับผลกระทบรวมไปถึงขบวนของพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ด้วย ทรงมีพระราโชบายมอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดแนวทางปฏิบัติ และจัดช่องเสด็จ และอำนวยความสะดวกในการเสด็จพระราชดำเนินดังกล่าว