ปลาได้น้ำ-พยัคฆ์เสียบปีก
ถึงได้ “เสพ” กินอาหารบริโภคที่โอชะ อร่อยลิ้นลงกระเพาะก็แค่“อิ่มท้อง”เท่านั้นเอง
“ทักษิณ ชินวัตร” เปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า “เสิร์ฟอาหาร”ด้วย“ก๋วยเตี๋ยวน้ำกุ้ง-ข้าวซอยเหนือ” หม่ำแก่นายกรัฐมนตรีรุ่นน้อง “เศรษฐา ทวีสิน”
มาในรถประจำตำแหน่งคันใหม่“เลกซัส-สีน้ำเลข” ป้ายทะเบียน “สร. ๓๐” ซึ่งเซียนหวยไม่น่าพลาดคงเอาไปแทงกันมั้ง
การมาเยือนถึงถิ่น “มังกรหลับ” ซอยจรัญสนิทวงศ์ ๖๙ ที่เงียบเหงาว้าเหว่ไม่คึกคักมานาน พลันที่“ทักษิณ”หวนคืนถ้ำ ปลุกชีวิตประชาชนในย่านนี้ให้มีชีวิต-ชีวา เด้งขึ้นปุบปับ
เศรษฐกิจทั้งซอย ที่“สโลว์ดาวน์”หยุดชะงักเฉื่อยแฉะอ้อยอิ่งก็ฟื้น ทำมา-ค้าขายเฟื่องฟู
หลังเข้าไปพูดคุยโอภาปราศรัยอย่างสนิทสนมเป็นกันเองอยู่เกือบ ๒ ชั่วโมง
“นายกฯเศรษฐา” ได้แย้มริมฝีปากเปิดเผยเนื้อความว่า.. “ไม่มีอะไรพูดกันมากขนาดนั้น เพราะท่านยังเจ็บที่แขนอย่างที่เห็น แต่เริ่มขยับได้บ้าง เชื่อว่าอาการคงดีขึ้น หวังไม่ได้อยู่มานานถึง ๑๗ ปี”
เป็นการตอบถ้อยความเรื่องราวที่“เหยี่ยวข่าว”พากันถามว่า “ทักษิณได้ให้คำแนะนำการทำงานหรือไม่”
ส่วนกรณีที่นักข่าวซักไซ้ไล่เลียงอย่างถี่ยิบว่า “ทักษิณมีความกังวลห่วงการทำงานหรือไม่”
รับการยืนยันจาก “นายกฯเศรษฐา” ทันทีว่า ไม่ได้ห่วงอะไร ไม่ได้บอกอะไร ไม่ได้มาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน
ฉะนั้นเมื่อเป็นฉะนี้.. “ทักษิณ” คงถอดเขี้ยวการเมืองไว้ชั่วคราว.. แต่อุดมการณ์ ปณิธานที่สูงสุดในการ“ยกฐานะรากหญ้า”ให้ลืมตาอ้าปาก คงมุ่งมั่นคิดทำต่อไป
นับว่า“นายกฯเศรษฐา”ไม่ค่อยเหนื่อยแรง อ่อนล้าในการตรากตรำเพื่อขอพบกับ“ทักษิณ”นัก
ไม่เหมือนกับ “เล่าปี่-กวนอู-เตียวหุย” ๓ พี่น้องแห่งสวนดอกท้อ ที่มุมานะสร้าง“จ๊กก๊ก”จนติด ๑ ใน ๓ แผ่นดิน
ต้องเทียวไล้เทียวขื่อไปพบกับ “ขงเบ้ง” ที่กระท่อมหญ้า ณ เขาโลโงกั้ง ที่แปลว่า “มังกรไสยาสน์”
จนครั้งที่ ๓ เมื่อเข้าหน้าหนาวแห่งเหมันตฤดูจึงมีโอกาสแล้วที่จะได้พบกัน
แต่ก็ไม่ได้ง่าย. เพราะ“ขงเบ้ง”อยากดูความจริงใจที่บริสุทธิ์และสุจริตใจ ว่า“เล่าปี่”มีความเพียรเพียงใด
ปรากฏว่า “เล่าปี่”ผ่านบทเรียนในการรอคอย ในการแกล้งหลับของ“ขงเบ้ง” จึงได้พบกัน
เมื่อสมมาดปรารถนาแล้ว “เล่าปี่”ได้พูดเต็มปากว่า ..“ตัวเองเป็นปลาเหมือนได้น้ำแล้ว”
ปลาเมื่ออยู่ในน้ำ ย่อมแหวกว่ายได้คับพื้นที่ ทั้งในน้ำคลอง-หนองบึงได้อย่างคล่องตัว
และเชื่อว่าอีกไม่นาน “นายกฯเศรษฐา”คงโคจรเดินตามวิถี เพื่อเชิญ“ทักษิณ”มาเป็น“ที่ปรึกษารัฐบาล”ในไม่ช้า
ย่อมทำให้งานรัฐบาล เป็นดัง“พยัคฆ์ที่เสียบปีกบิน”
ทำให้การสร้าง“ฮับของประเทศ” รวมทุกศูนย์ของไทยทั้ง ๘ แห่ง เกิด“ฝันที่เป็นจริง”
การมา“คัดหางเสือ” สร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ และ“รัฐบาลเศรษฐา” โดยมี“ทักษิณ”ร่วมวงศ์ไพบูลย์ด้วย เป็นสิ่งที่ถูกต้อง“ตามกฎกติกามารยาท” เพื่อชาติทั้งสิ้น
ไม่มีวาระที่ “ซ่อนเร้น” อย่าคิดให้เมื่อยตุ้ม
เหมือนกับช่องน้อยสีที่ให้นักเล่าข่าว “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” กลับมาทำหน้าที่ตรงหน้าจอหลังพักโทษ
“ทักษิณ” ย่อมมีสิทธิ์เช่นนั้น..
ในการรีเทิร์นกลับมาช่วยงานแผ่นดิน เพื่อให้คนจน-รากหญ้า นอนอิ่ม-ยิ้มสยามได้เหมือนก่อน
“สรยุทธ”ช่วงพักโทษยังทำหน้าที่ “กรรมกรข่าว” จนช่องอู้ฟู
“เทพไทย เสนพงศ์” ที่พักโทษมาหมาดๆก่อน“ทักษิณ” ยังถลาโผเข้าหาเส้นทางการเมือง วิจารณ์ทุกอย่างได้ชนิดเข้าข้อ
ใครที่พยายามแย้ง ทักท้วงไม่ให้ “ทักษิณ” กลับมา
มันจะดับเบิ้ลโคตร ๒ มาตรฐาน เชียวหนา
“กะพรุนไฟ”
