สอนให้-ไม่มีกั๊ก
วันที่ ๑ มีนาฯ ที่ผ่าน..เป็น “วันหวยออก” ที่จะยก“ฐานะคนจน”ให้รวยทันตาเห็น หากถูกรางวัลที่ ๑ เต็มรัก
วันดีเช่นนี้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้ไปร่วมบำเพ็ญกุศล “ม.ร.ว.สดศรี ปันยารชุน” ภริยา “ผู้ดีรัตนโกสินทร์” ท่านอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เกรียงไกร
เพราะท่านมีสายสัมพันธ์ กับอำนาจทุกเส้น ไม่ว่า “กลุ่มอนุรักษ์-ฝ่ายขวา” ที่คุมฐานอำนาจประเทศ และท่านยังเป็นที่เคารพรักเป็นอย่างยิ่งของ “กลุ่มก้าวหน้า-ฝ่ายซ้าย” ที่อยากพลิกฟื้นแผ่นดินให้ดียิ่งขึ้น
เห็นจากวันที่ ๒ ธันวาคม ปี ๖๒ สมัย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” คุมหางเสือ-คัดท้ายหัวเรือพรรคอนาคตใหม่ นายอานันท์ได้เดินทางมาด้วยตนเอง ฟังนายธนาธร ณ สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (fcct) ถึงหน้าขอบเวที
ท่านจึงเป็นเหมือน “น้ำประสานทอง” ที่เชื่อมติด และมีความ“ยืดหยุ่น” เข้าได้กับทุกยุค-ทุกสมัย อีกทั้งท่านอานันท์ ยังเป็น“มือประสานสิบทิศ” ที่พลิกประเทศไทยให้พ้นวิกฤตมาแล้ว ด้วยความเจนจบทุกด้าน ไม่ว่าเป็นนักการทูต หรือนักธุรกิจ จึงมีมุมมอง เห็นปัญหาในประเทศไทย ได้ครบ-จบทุกเรื่อง
เมื่อมาเจอนายกรัฐมนตรีรุ่นน้อง ท่านอานันท์ได้แนะนำเรื่องภูมิศาสตร์ความขัดแย้งระหว่างประเทศเรื่องจีนและสหรัฐ ไทยเราเหมือน “อยู่กลางเขาควาย” ในสถานการณ์ขัดแย้งของผู้ที่มีอำนาจ ๒ ขั้ว ย่อมมีอันตรายเข้ามาได้ทุกเมื่อ เป็นการเตือนเพื่อเปิดสมองในเรื่องนี้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกันได้แนะนำว่า เมื่อไปดูแฟลตตำรวจ และแฟลตทหารมาแล้ว ไปดูความยากจนของพี่น้องต่างจังหวัดมาแล้ว ท่านต้องดูที่กรุงเทพฯด้วยนะ อย่าให้เป็นเหมือน “ใกล้เกลือกินด่าง” มองข้ามปัญหาใกล้ตัวที่ทิ่มแทงตาอยู่ทุกวัน
สะกิดและเตือนใจ ให้ไปดู “ชุมนุมแออัด” ทั้งหลายที่เป็นเช่น “สลัม” อยู่กลางใจเมือง
ที่ท่านเป็นห่วงปัญหานี้ คงมองเห็นว่า“คนจน”มีแต่“ปัญหางอกเงย”เหมือนกับ“ถั่วงอก”ที่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว
“นายกฯเศรษฐา” ได้บอกว่า ตนไม่มีเวลาช่วงนี้ แต่หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศจะหาเวลาลงพื้นที่
ต้องยอมรับว่า “อดีตนายกฯอานันท์” เป็น “ผู้นำสายกลาง” ที่ไม่เอียงเอนเข้าข้างใดอย่างสุดโต่ง เข้ากับทหาร และ กลุ่มอนุรักษ์นิยม โดยไม่มีร่องรอยกินใจ-ใดๆทั้งนั้น
กับ “อนาคตใหม่” ที่ถ่ายยีนสายเลือดเป็น “ก้าวไกล” ฝ่ายค้านอันดับหนึ่ง ก็เข้ากันเป็นปี่กับขลุ่ย บรรเลงคีย์เดียวกันสบาย
คุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่ “ท่านอานันท์” ได้มอบให้ “นายกฯเศรษฐา” เป็นหลักที่“ผู้บริหารประเทศ”ต้องน้อมฟังไปปฏิบัติ จะมา“เข้าหูซ้าย-ทะลุหูขวา” จะเกิดโทษแก่ตัวเองโดยไม่จำเป็น
ปัญหาของประเทศเหมือนกับ“เมฆหมอก”ที่เคลื่อนย้ายตัวสู่จุดวิกฤตของชาติอย่างไม่ขาดระยะ มีคนมาร่วมด้วย-ช่วยอีกแรง จะไม่ดีได้ฉันใด
แฟลตเมืองหลวงที่แออัด สลัมน้ำครำของคนไทยคือปัญหาที่ “รุมเร้า” ถึงพยายามคลี่คลายมาหลายรัฐบาลก็ล้มเหลว
เมื่อ “ท่านอานันท์” ผู้เป็นดัง“นักปกครอง-นักการทหาร-นักการต่างประเทศ-นักธุรกิจ”ที่อยู่ในองคาพยพของท่านแนะนำ จึง“แสงสว่าง”ส่งความปรารถนาดี ให้ “นายกฯเศรษฐา” นำไปแก้ ซึ่งมีแต่เป็น “ผลบวก” สร้างความศรัทธาทวีคูณให้กับรัฐบาลเปล่งประกายขึ้นอย่างรวดเร็ว
พันธกิจคนจนในกรุงเทพฯ ที่ “ท่านอานันท์” ฝากให้ “นายกฯเศรษฐา” อย่างไม่มีกั๊ก เชื่อว่าจะ “สร้างศรัทธา” ไปยังทหาร-ฝ่ายขวา และพรรคก้าวไกล-ฝ่ายซ้าย ให้มา “จูน” เพื่อเชื่อมในการทำงานร่วมกัน
“ท่านอานันท์” อุตสาห์ฝากงานให้ “เศรษฐา” ไปปฏิบัติ
ทหารกับก้าวไกล “จะรุมอัด” มันก็ใจดำเกินไป
“กะพรุนไฟ”