ป.ป.ช.รับสำนวนคดี ‘บิ๊กโจ๊ก’-ลูกน้อง ปมเว็บพนันมินนี่ ไว้สอบเอง ยันเป็นอำนาจที่มอบหมายไม่ได้
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีการพิจารณากรณีพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ส่งบันทึกขอคืนสำนวนคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพวก รวม 5 คน ถูกกล่าวหาพัวพันเครือข่ายเว็บพนันมินนี่ และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 149 ซึ่งเป็นสำนวนคดีที่ 2 ที่ บก.ปปป.ส่งมาให้ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.66 กลับไปดำเนินการเอง
โดยที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติรับสำนวนดังกล่าวไว้ดำเนินการเอง จะไม่ส่งสำนวนคืนให้กับตำรวจตามที่ร้องขอ สำหรับคดีเครือข่ายเว็บพนันมินนี่แบ่งออกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรกมีผู้ต้องหา รวม 61 คน เป็นตำรวจและประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ซึ่ง ป.ป.ช.มอบกลับไปให้ บก.ปปป.ดำเนินการเอง ส่วนอีกสำนวนเป็นกรณีกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และลูกน้อง รวม 5 นาย ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติวันนี้รับคำร้องไว้ดำเนินการสอบสวนเอง โดยไม่ส่งสำนวนกลับคืนให้ตามคำร้องขอจาก บก.ปปป.
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า กรณีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเห็นว่า เป็นการกล่าวหาผู้ดำรงตำแหน่งสูงกว่าผู้ร้องเรียน ซึ่งอยู่ในระดับผู้อำนวยการ และกล่าวหาว่าเป็นการกระทำความผิดร้ายแรง มีผลกระทบในวงกว้าง เข้าหลายข้อในเรื่องความผิดร้ายแรง มูลค่าที่มีการกล่าวหากันก็มีมูลค่าสูง ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ช. ไม่สามารถมอบหมายให้ได้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้ระดับเรื่องนี้ไว้พิจารณา ดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนเอง ประกอบกับมีเรื่องข้อกล่าวหาเดิมที่เคยส่งไปยังกองบัญชาการสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันในเรื่องของบัญชีม้า ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ต้องทำไปพร้อมกัน จึงมีมติให้ดึงสำนวนดังกล่าวกลับมาพิจารณาพร้อมกัน
สำหรับกรอบระยะเวลาการทำงานนั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า ต้องดูข้อมูลที่พนักงานสอบสวนจะส่งมา เพราะส่งมายังไม่ครบ หากส่งมาครบก็สามารถสั่งไต่สวนได้เลย ไม่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ดังนั้นต้องดูสำนวนตำรวจก่อน หากครบแล้วชี้ไปได้เลยก็ไต่สวนโดยองค์คณะกรรมการอุทธรณ์ทั้งคณะ ทั้งนี้อยู่ระหว่างการจัดส่งหนังสือให้มีการส่งคืนเรื่องกลับมา หากส่งกลับมาแล้ว ป.ป.ช.ก็จะเรียกประชุมเลย เบื้องต้นสัปดาห์นี้ ป.ป.ช. น่าจะสามารถส่งหนังสือออกไปได้ เพราะที่ประชุมมีมติว่าให้สำนักงานฯ ดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องรอรับรองรายงานการประชุม ถ้าสำนวนที่ส่งมาครบถ้วน ก็สั่งไต่สวนได้เลย และแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจง ถ้าชี้แจงแล้วฟังไม่ได้ ก็จะสรุป เพื่อมีคำวินิจฉัย
“การที่ ป.ป.ช.รับเรื่องนี้ไว้พิจารณาเองนั้น ขอยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการดึงเรื่อง หรือมีความสัมพันธ์ส่วนตัวอะไร แต่ที่ดึงคืนมาเพราะเป็นเรื่องร้ายแรง มอบหมายไม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 234 อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องร้ายแรงจึงมอบไม่ได้” นายนิวัติไชย กล่าว