สื่อ-กระพือเท็จ

ถ้ามี “สำเหนียก” เท่าปลายนิ้วก้อย ในการตระหนักรู้ จดจำ หรือฟัง อย่างใจที่เป็นกลาง “ประเทศไทย” คง “ยุติสงครามกลางเมือง” ระหว่างประชาชนกับประชาชน โดยมี “ชุดลายพราง” เข้ามาผสมโรงได้แน่

ในบทบัญญัติ “แห่งกฎหมายสงครามนั้น” มีความเห็นว่า “สงครามเป็นสิ่งต้องห้าม จะทำสงครามได้ ก็แต่เฉพาะที่มีเหตุผลยุติธรรมเท่านั้น”

แต่ในปัจจุบันเรามี “สื่อตัวเสี้ยม” ที่เลือก “ฝักฝ่าย” แต่ทำตัวดัดจริต-ติดกมลสันดาน ว่าเป็น “สื่อที่เป็นกลาง”

“กลางหาคุณพ่อคุณแม่กันตรงไหน” สร้างประเด็น “ความขัดแย้ง” ให้ประชาชนในประเทศเป็น “ปรปักษ์ กันและกัน”

วัตถุประสงค์เพื่อไม่ให้คนที่อยู่กัน “คนละสี หันมาสามัคคีรักใคร่กัน” ความแตกฉานบานเป็นกระด้งเท่าไหร่ พวกนี้จะมีรายได้เป็นกอบ-เป็นกำ

คิดแต่เพียงว่า “สร้างความแตกแยก” ยิ่งมีหันมาดูมาฟังจนเกิด “ยอดวิว-ยอดไลน์” สร้างเงินได้บานตะไท ฉะนั้น,ทุกวันนี้ จึงมีการ “ปั่น” สร้างความกินแหนง-แคลงใจ ทั้งที่ความแตกแยกนี้ ทำให้เกิดการ “สิ้นชาติได้”

แต่พวกนี้“ไม่ยี่หระ” ไม่สนใจไม่สะทกสะท้านไม่ไยดีสิ่งใดทั้งสิ้น ทำตัวเป็น “ปีศาจปากคาบคัมภีร์” แต่แท้ที่จริงมันเอาหนังราชสีห์มาคลุมในร่างหมาจิ้งจอกที่ไม่เคยหวังดีกับชาติ

“ไทยเรา” เหมือนกำลังเข้าสู่ “สงครามรวันดา” เมื่อ“สื่อ”ทำตัวสามาลย์ ผ่าน “โซเชียล” กระจายผ่านคลื่นแห่งโทรทัศน์ ออกข่าว “ยุยง-ปลุกปั่น” จนมีประชาชนตายไปเฉียด ๑ ล้านศพ ถูกบันทึกไว้ เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๗ เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดในโลก ณ ประเทศรวันดา ในแอฟริกา

ภายใน ๑๐๐ วัน กลุ่มหัวรุนแรงสายฮูตู ได้สังหารชาวทุดซี่ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยไปราว ๘ แสนคน รวมทั้งศัตรูการเมือง โดยไม่สนใจว่าคนเหล่านั้น จะมีชาติพันธุ์อะไร แม้แต่กระทั่งเด็ก ก็ฆ่าโดยไม่มีระเว้น

วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๗ รัฐบาลหัวรุนแรงที่นำโดยฮูตูในรวันดา ได้ทำการโจมตีอย่างมีระบบ ใช้การ “กระจายข่าวเท็จ” ผ่าน “วิทยุกระจายเสียง” ออกอากาศปลุกระดมด้วยการให้ร้ายชาวทุดซี่ ที่อาศัยอยู่ในรวันดา

ภายใน ๑๘๐ วัน ของสื่อชั่ว-สื่อเสี้ยม สั่งการผ่านคลื่นกระแสข่าว จนกลุ่มฮูตูบ้าคลั่งสังหารชาวทุดซี่ไป ๘ แสนคน ใช้ “ดาบยาว” เป็นอาวุธสังหารที่เลือดเย็นที่สุด เป็นอีกครั้งหนึ่งที่โลกประณามอัปยศ

เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกรัฐมนตรี ก้าวพ้นจากทำเนียบฯ สำนักแห่งอำนาจ ทุกคนเชื่อว่าจะกลับมา “สามัคคี” เป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกสี-ทุกฝ่าย กันอย่างไม่เลือกข้าง

คิดว่า เมื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี วันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๖ “ความสงบ ต้องจบสิ้น”

แต่ที่ไหนได้ “เศรษฐา” ก้าวขึ้นมาสร้างประชาธิปไตย ให้กับคนไทยทั้งเมือง ไม่เป็นที่ “สบอารมณ์” ไม่เป็นที่พอใจ ของสื่อเลือกข้างกันอย่างรุนแรง

ใช้ “สันดานดิบ” ที่ไม่ได้ขัดเกลา พุ่งทำร้ายประเทศ และ “รัฐบาลเศรษฐา” กันอย่างต่อเนื่อง ยุยงให้ “คนบางสี” เกลียดจังรัฐบาลจนเข้าไส้

ผลงานสร้างรายได้ ทั้ง ราคาข้าว ยางพารา มันสำหลัง อ้อย ฯลฯ พากันขึ้นราคา “เกษตรกร” รวยทันตาเห็น

“สื่อเลวร้ายชุดนี้” ก็ด่าว่ารัฐบาลไม่มีผลงาน สอดคล้องเหมือน “นักการเมืองบางพวก” ที่จ้องล้มรัฐบาลใน“สงกรานต์นี้ให้ได้”

ความเป็น “ประชาธิปไตย” ต้องยอมรับ “ความเห็นต่าง” ได้เสมอ

แต่ “สื่อชั่ว” ทำเช่นนี้ ขืนเลี้ยงเอาไปทำพันธุ์ มันจะทำให้ “คนไทยฆ่ากัน” รัฐบาลยอมได้หรือ?

“กะพรุนไฟ”