สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยาจัดประชุมใหญ่ ประกาศเปลี่ยนชื่อเป็น PCBTA

ดึง ททท.และโรงพยาบาลดังร่วมหาแนวทางต่อยอดการท่องเที่ยวปี 67

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมชั้น 10 โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา โดยมี นายบุญอนันต์ พัฒนสิน นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เป็นประธานการประชุม ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน อาทิ นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง พ.ต.อ.แมน รถทอง ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สารวัตรใหญ่ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พ.ต.ท.ศิริชัช หนูเทพ รอง ผกก.(ป) สภ.เมืองพัทยา นางสาวมรกต กุลดิลก นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก ประจำปีบริหาร 2567 – 2569 เป็นต้น

โดยประธานที่ประชุมได้แจ้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อสมาคมจาก สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา หรือ PBTA เป็น สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา-ชลบุรี หรือ PCBTA พร้อมแถลงผลงานประจำปีปี 2566 – 2567

จากนั้นที่ประชุมได้กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย โดย นางสาวมัลลิกา สุดเสน่ห์ รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานพัทยา) ได้ชี้แจงภาพรวมการท่องเที่ยวปี 2567 ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 16.96 ล้านคน ขยายตัวร้อยละ 6.54 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ 8.02 หมื่นล้านบาท ซึ่งภาพรวมการท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยปรับตัวดีขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค โดยจังหวัดที่มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนไทยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชลบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์

ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย จำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 มีนาคม 2567 พบว่า 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย อย่างไรก็ตาม The telegraph สหราชอาณาจักร เผยการจัดลำดับ 20 สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในปี 2024 มีประเทศที่ถูกคัดเลือกจากเอเชียเพียงแค่ 2 ประเทศ คือ ประเทศไทย ถูกจัดให้อยู่ในลำดับที่ 6 นำหน้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 16

นางสาวจุฑาภรณ์ หุยากรณ์ ผู้อำนวยการตลาดอาวุโสโรงพยาบาลกรุงเทพ – พัทยา ได้นำเสนอการท่องเที่ยวแบบ Health Tourism ผนวกกับ Destination Marketing เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชอบท่องเที่ยวเชิงสุขภาพส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีคุณภาพ ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมามีลูกค้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาล ในยอดการใช้จ่าย 1 แสนบาท รายได้จะเข้าโรงพยาบาลเพียง 25% ส่วนที่เหลือจะกระจายไปตามแหล่งท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก สถานประกอบการต่างๆ ตามแต่สถานที่ที่ลูกค้ารายนั้นๆต้องการไปใช้บริการ ดังนั้นการท่องเที่ยวแบบ Health Tourism หรือเชิงสุขภาพ น่าจะเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่จะดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพดีเข้ามายังเมืองพัทยา