24 ตุลาคม 2024

หรือจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน!

0

พบเอกชนขนทุ่นว่ายน้ำของหลวง ใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวนับ 100 ลูก อะไรปิดตาเจ้าหน้าที่…ทั้งๆที่พื้นที่กระทำผิดห่างจากที่ทำการเมืองพัทยา เพียงไม่ถึง 200 เมตร

ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าที่ผ่านมามีผู้ประกอบการภาคเอกชนรายหนึ่งซึ่งเปิดพื้นที่ให้เช่าเป็นตลาดนัดและร้านอาหารพร้อมเครื่องดื่มริมชายหาดกระทิงลาย หลังร้าน ป.ประมง ฝั่งขาเข้า จ.ชลบุรี ม.1. ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับรายงานว่าในพื้นที่ดังกล่าวคาดว่าอาจจะมีการนำทรัพย์สินซึ่งเป็นของหลวงจำนวนมากมาใช้เป็นอุปกรณ์ในการประดับตกแต่งและใช้ประโยชน์เป็นที่พำนักนั่งชิลริมชายหาด โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าพื้นที่นี้มีเนื้อที่ประมาณ 1-2 ไร่ ตั้งอยู่ริมต้นชาหาดกระทิงลาย โดยพบว่ามีการติดตั้งป้ายให้เช่าพื้นที่ตลอดแนวถนนทางเข้าจากริมสุขุมวิท ภายในมีการจัดทำเป็นตลาดนัดจำหน่ายสินค้า นอกจากนี้ภายในยังจัดทำที่นั่งรับประทานอาหารขนาดใหญ่ประมาณ 20-30 โต๊ะ รวมถึงห้อง น้ำ-ห้องสุขา ซึ่งสิ่งที่สำคัญคือมีการตรวจพบทุ่นเขตว่ายน้ำซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นของเมืองพัทยาในสภาพที่ยังสามารถใช้งานได้ประมาณ 50-60 % จำนวนนับร้อยใบคิดเป็นมูลค่ารวมกว่าล้านบาทถูกขนนำมาวางเรียงไว้กั้นเป็นแนวเขตของร้าน รวมทั้งนำมาตั้งจัดวางเป็นเก้าอี้สำหรับแขกที่เข้ามาใช้บริการ และแนวเขตห้องน้ำ

โดยจากการสอบถามผู้ประกอบการที่มาเช่าพื้นที่ด้านในทราบว่าพื้นที่นี้เปิดให้บริการมาเป็นระยะเวลานานพอสม ควรแล้ว ซึ่งจะมีการนำทุ่นเขตว่ายน้ำหรือทุ่นสำหรับช่องทางเดินเรือของเมืองพัทยาขนาดประมาณ 90×90 ซม.ซึ่งไม่ทราบว่าไปซื้อหรือเอามาจากที่ใด หรือนำของหลวงมาใช้โดยมีการไปขออนุญาตหรือไม่เพื่อนำมาใช้ในการจัดวางไว้เพื่อทำแนวเขตของร้านและสร้างชุดเก้าอี้สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวอีกเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้สำหรับพื้นที่นี้ปกติจะเปิดให้บริการทุกวัน โดยนักท่องเที่ยวจะแวะเวียนเข้ามาซื้ออาหารและเครื่องดื่มจากร้านภายในตลาด จากนั้นก็จะขนอาหารมานั่งในพื้นที่ที่ทางตลาดจัดเตีรยมไว้ให้เพื่อนั่งรับประทานและพักผ่อน โดยพบว่าแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก และจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าในทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันนักขัตฤกษ์ ขณะที่ในเวลาใกล้กันนี้ทราบว่าทางตลาดจะมีการจัดจ้างดนตรีสดมาเปิดทำการแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการอีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าสำหรับทุ่นเขตว่ายน้ำหรือทุ่นบอกแนวเขตช่องทางการเดินเรือ เมืองพัทยาต้องตั้งงบประมาณหรือโครงการในการขอรับงบประมาณสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อนำมาใช้ในการจัดระเบียบทางทะเล โดยได้ดำเนินการมาต่อเนื่องหลายครั้งใช้งบประมาณไปจำนวนนับหลายสิบล้านบาท ขณะที่การใช้งานพบว่าไม่มีการเฝ้าระวังติดตามหรือการนำเก็บกลับมาซ่อมบำรุงอย่างไร

ส่วนพื้นที่ของตลาดนัดที่ไปพบว่าอาจมีการนำทุ่นของหลวงมาใช้นั้น มีการตั้งข้อสังเกตุว่าเมืองพัทยาเองก็มีการจัดตั้งศูนย์กู้ภัยทางทะเลและชายฝั่งกระทิงลาย ซึ่งมีลักษณะเป็นอาคารคอนกรีตภาวรพร้อมห้องปฏิบัติการและเครื่องมือ แต่กลับพบว่าขณะตรวจสอบซึ่งเป็นวันทำการกลับไม่มีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯประจำการแต่อย่างใด ด้วยมีการปิดล็อคจากด้านในอย่างแน่นหนา

ขณะที่พื้นที่ภายในกว่า 50 % นั้น พบว่ามีการเก็บรักษาทุ่นเขตว่ายน้ำหรือทุ่นบอกแนวเขตการเดินเรือที่ผ่านการใช้งานมาแล้วลักษณะเดียวกับที่ทางตลาดนัดใช้ถูกขนมาวางไว้อย่างเป็นระเบียบจำนวนนับร้อยลูก แต่พื้นที่ของตลาดดังกล่าวที่พบทุ่นจำนวนมากนั้นก็มีระยะทางห่างจากศูนย์กู้ภัยทางทะเลของเมืองพัทยาในระยะไม่เกิน 200 เมตร

จึงมีการตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เจ้าหน้าที่จะไม่ทราบว่ามีภาคเอกชนนำทรัพย์สินหรือทุ่นไปใช้ประโยชน์ และมีการเข้ามาทวงถามหรือให้ขนกลับมาเก็บรักษาไว้หรือไม่อย่างไร เพราะเท่าที่สังเกตุดูแล้วพบว่าการดำเนินการดังกล่าวนาจะผ่านระยะเวลาการใช้มานานนับเดือนแล้ว

ซึ่งเรื่องนี้หากทุ่นเขตว่ายน้ำดังกล่าวเป็นทรัพย์สินของเมืองพัทยาจริงก็จะถือว่าเป็นคามหละหลวมและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องที่ปล่อยให้มีการขนทรัพย์สินไปใช้ประโยชน์โดยไม่มีการขออนุญาต หรือจะมีเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งเป็นกรณีที่เมืองพัทยาควรให้ความใส่ใจและตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *