24 ตุลาคม 2024

“มือที่จับอนาคตกำไว้แน่น ไม่ยอมปล่อย” แล้วจะมี “มือที่ไหน” มา “ไขว่คว้า” หาอนาคตได้เล่า

“เดอะคึก” เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็น “ตัวตึง” ไม่ยอม “ข้ามกาลเวลา” ให้พ้นเสียที..จาก “ขุนศึกคนกล้า” เลือดสีฟ้า พรรคแม่ธรณีบีบม้วยผม

เมื่อย้าย “รีเวล” หันมานิยม-เสื้อส้ม แต่เอกลักษณ์ของเอกบุรุษยังเหนียวหนึบ เกลียดเข้าไส้กับคนที่ได้รับโทษจาก“น้ำมือกลุ่มรัฐประหาร” มีความคิดที่ไม่เคย“ลอกคราบ” ลอกพฤติกรรมกันเช่นนี้แหละ

จึงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่..“ลูกหลาน-ไอ้ไข่” จะเทคะแนนให้กลับมาเป็น“สส.”อีกที

กราฟชีวิตชี้ชัดว่า “เทพไท” ลงเลือกตั้งสมัยแรกปี๔๘ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ เกาะบารมี “พรรคประชาธิปัตย์” เข้ามาเป็น “ผู้แทน” กันอยู่หลาย พ.ศ.

ผลงานเข้าตามีเรตติ้ง แต่ไม่“โสภานัก”เมื่อจัดรายการผ่านสถานี“บลูสกายแชนแนล” ชื่อรายการ“สายล่อฟ้า” ปม“ว.๕ โฟร์ซีซั่น” ที่ป้ายจุดด่างให้“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรี ฟุ้งกลิ่นหมองมัวเปื้อนมลทิน

จนทำให้“สามเกลอสายล่อฟ้า” อย่าง “ชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ “เทพไท เสนพงศ์” อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช และ “ศิริโชค โสภา” อดีตส.ส.สงขลา ถูกพิพากษาว่าหมิ่นประมาท ใส่ความ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ทำนองว่าไม่เข้าร่วมประชุมสภาฯ น่าจะเดินทางไปทำภารกิจ ว.๕ ที่โรงแรมโฟร์ซีชั่น

ทั้งหมดถูกศาลฎีกาจำคุก ๑ ปี รอลงอาญาไว้ ๒ ปี และปรับเงินคนละ ๕๐,๐๐๐ บาท

แต่“ยิ่งลักษณ์”ไม่อยากให้“นักการเมือง-สายล่อฟ้า”ต้องหมดอนาคต ให้ทนายไปยื่นถอนฎีกากับ“๓ เกลอ ปชป.”

ครั้นเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๔ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของ“เทพไท เสนพงศ์” มาตรา ๑๐๑ (๖) ประกอบมาตรา ๙๘ (๔) และมาตรา ๙๖ (๒) ในกรณีทุจริตเลือกตั้ง“นายกฯอบจ.” จึงหลุดจากตำแหน่ง

ต่อมาคดีนี้ศาลฎีกา ได้ยืนจำคุก“เทพไท เสนพงศ์” และ“มาโนช เสนพงศ์” สองพี่น้องคนดังเมืองคอนไว้ ๒ ปี แถม“ตัดสิทธิทางการเมืองคนละ ๑๐ ปี” เล่นเอาชีวิตนี้เหงาไปเลยทีเดียว

หลังได้รับการ“พักโทษ” ออกมาสู่เสรีภาพแห่งประชาธิปไตย ดูเหมือนว่า“เทพไท” ยังเป็น“ตัวจี๊ด” เล่นงานอดีตนายกฯสองพี่น้อง อย่างไม่รู้ขาด เหมือนเป็น“เหาฉลาม” หรือ“เหาทะเล” ที่คอยกัดกิน ติดตัวเขาไม่รู้สร่าง

เรียกว่าเดินหน้า “ลุยดะปะฉะแหลก” พูดวนเวียนอยู่แต่ “ระบอบทักษิณ” เป็นเนืองนิจ คนที่“จมอยู่กับอดีต” ไม่มีวันฟื้นตัวกลับมาเป็นที่พึ่งของประชาชนได้

เมื่อตะกายข้ามฝั่ง ออกจาก“ประชาธิปัตย์”แล้ว ควรมีสไตล์ท่วงทำนองใหม่เสียด้วย ยิ่ง“ทัศนคติ” ดูคนอื่น“ในแง่ลบ” ควรจะหยุดได้แล้ว

ที่ตีเขามาร่วม ๒๐ ปี ล้วนเป็น“ความพ่ายแพ้”ที่ตัวเองได้รับทั้งหมด

ยิ่งตามตี ราวีเขา “สิ่งที่ปรากฏ” แพ้เขาราบคาบ

ยังไม่รู้ตัวอีกหรือนี่??

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *