เขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีกันอีกแล้ว
แม้กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)จะมีมาเป็นระยะๆ แต่รอบนี้ดูเหมือนว่าจะมาแรงผิดปกติ
ถึงขั้นปล่อยข่าวว่าจะเกิดขึ้นหลังเทศกาลสงกรานต์
ปล่อยรอบนี้ให้เห็นว่า แม้แต่กระทั่ง เศรษฐา ทวีสิน ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังโดนเปลี่ยนด้วยเหมือนกัน เพราะจากที่ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็อาจจะไปนั่งควบกระทรวงกลาโหมแทนนายสุทิน คลังแสง
สาเหตุคือ งานด้านความมั่นคง โดยเฉพาะความมั่นคงระหว่างประเทศแนวโน้มรุนแรง ซึ่งนายสุทินน่าจะรับมือไม่ได้
แถมในการประชุมหน่วยงานความมั่นคงรับมือสถานการณ์เมียนมา นายสุทินดันไม่ได้เข้าร่วมด้วย
ทำให้งานด้านทหาร งานด้านความมั่นคงกลายเป็นจุดอ่อน เลยจะดึงมาให้นายเศรษฐา ซึ่งนับวันแสดงความเชื่อมั่นในอำนาจ สวนกลับทุกเรื่องตามสไตล์เนื้อแท้ดั้งเดิมสมัยทำธุรกิจ
ส่วนเก้าอี้รัฐมนตรีคลังซึ่งนั่งควบอยู่เดิม แต่ไม่เคยมีผลงานตรงเลยนั้น ลือว่าจะให้ นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มานั่งเป็นขุนคลังแทน
ส่วนนายสุทินส่อแววให้ไปทำหน้าในสภาให้กับพรรค เช่นเดียวกับ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ที่รอบนี้กระหึ่มว่าจะรักษาเก้าอี้รัฐมนตรีสาธารณสุขไม่อยู่แล้ว โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะมาเป็นรัฐมนตรีสาธารณสุขแทน
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สะพัดว่าจะหลุดเก้าอี้ เพราะผลการทำงานไม่เข้าเป้า
เซอร์ไพร์สไม่น้อยก็คือ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งๆที่ได้รับคำชมมาหมาดๆ แต่อาจจะโดนสลับเก้าอี้กับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
แน่นอนว่าหลังข่าวสะพัด ผู้ที่ตกในวังวนเด้ง หลายคนออกมาปฏิเสธว่าก็ยังเป็นแค่ข่าวลือ
แต่ที่น่าสังเกตุก็คือ รอบนี้ท่าทีของนายเศรษฐา ไม่ได้สวนกลับแบบแข็งกร้าวเหมือนครั้งก่อนๆ แต่มาสไตล์อารมณ์ดี ว่า ยังเป็นเพียงแค่ข่าวลือ วันนี้ยังไม่มีการปรับอะไร แต่ยอมรับว่าพอมีข่าวลือออกไป ทำให้มีความไม่สบายใจของหลายฝ่ายเกิดขึ้น
และทำให้มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเยอะ
“ต้องขอความกรุณาว่ายังไม่มีแพลนที่จะปรับ ครม.วันนี้ พรุ่งนี้ มะรืนนี้ หากออกข่าวไปเยอะจะมีความหวั่นไหว”
เรื่องการปรับ ครม.มีหลายเหตุผล ไม่ว่าจะหน้าที่สภา การบริหาร เรื่องของการถูกคนถูกฝา ทำงานมา 6-7 เดือน ต้องไปดูอีกทีว่าความเหมาะสมอยู่ตรงไหน ทุกอย่าง เอาเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก..นายเศรษฐาระบุ
อีกข้อสังเกตุคือ ท่าทีของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ตอบคำถามเรื่องรัฐบาลบริหารงานมา 7 เดือนแล้ว ถึงเวลาจะปรับ ครม.ได้หรือยัง ว่า ต้องถามนายกฯ.. ต้องแล้วแต่นายกฯ
“นายกฯอาจทำงานแล้วมองว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง ก็เป็นเรื่องที่นายกฯจะต้องคิดแล้วเสนอพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย”
สุดท้ายข่าวลือรอบนี้จะเป็นจริง หรือมาถึงเมื่อใด เชื่อว่าไม่นานคงเห็นชัด
เก้าอี้รัฐมนตรีมีจำกัด คนอยากเป็นคงไม่อยากจะรอนานหรอก ใช่มั้ย
หนามกุหลาบ
