ขุนพล-ตั๋วช้าง
มี“เพื่อนร้อยคน”ก็น้อยเกินไป มี“ศัตรู”คนเดียวก็มากเหลือล้น
ด้วยการเป็น“นักการเมือง” เป็น“คีย์แมนใหญ่”ของพรรคการเมืองด้วยแล้ว การ“ผูกสมัคร-สัมพันธไมตรี”กับพรรคต่างๆ เป็นสิ่งที่“จำเป็น”อย่างยิ่งยวด
ถ้าคิดจะเป็น“รัฐบาล” ต้อง“ประสานใจ”เป็นหนึ่งเดียวกับพรรคต่างๆเอาไว้ล่วงหน้าก่อนเวลา นั่นแหละถูกต้องแล้วโยม
ที่นี้, มีการ“แย้ม”ออกมาให้เห็นร่องรอยกันแล้ว “สส.พรรคก้าวไกล”เข้าซุ้มบ้าน“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ณ บ้านพักรามอินทรา
นัยว่าเป็น“ขุนพลังเอก-แห่งตั๋วช้าง” รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ เกรดเอของทัพส้ม (นั่น,เขาบรรยายกันมานะครับ) “จะเท็จหรือจริง” เป็น“ปริศนาอักษรไขว้”.. “โลกโซเชียล”แชร์ออกมาเป็นน้ำจิ้ม
การพบปะเพื่อที่“เจรจากัน” เป็น“สัมพันธ์ที่ดี” กว่าการมา“แยกเขี้ยวใส่กัน”
“พรรคฝ่ายค้าน”กับ“ พรรคร่วมรัฐบาล”ไปมาหาสู่กัน ย่อมสร้าง“ความปรองดอง”ที่ดี..ให้ประชาชนได้เห็น อย่าเที่ยวไป“ตีขลุม” ทึกทักสมอ้างว่าจะเกิด“งูเห่า”เลื้อยอพยพ-ย้ายถิ่นกัน
เอาใจ“อันเที่ยงธรรม”มาเป็น“เครื่องพิสูจน์”ดีกว่า.. เลิกเหอะ “การเหมารวม”ไป“มโน”โดยปราศจากความเป็นจริง ใครต่างก็รู้ดีว่า“โลกโซเชียล”เป่าหูกันวันละสามเวลาโดยไม่ขาดอยู่แล้ว
คนที่ไปพบ“บิ๊กป้อม” อาจไม่ใช่“ขุนพลตั๋วช้าง”ก็ได้นะคุณ
อย่างไรก็ตาม หลังมานี้“ขบวนการ-พรรคส้ม”ดูจะ“ทอดไมตรี”ผูกพัน-รักใคร่กับ“กองทัพ” และ“พล.อ.ประวิทย์” ซุ่มฉ่ำ
จากที่เคย“เล่นบท”เป็น“คุณหมอในห้องคลอด” ตัดทุกอย่างที่“กองทัพ”ซื้ออาวุธ อย่างไม่สนหน้าอินทร์-หน้าพรหม เขาไม่ทำแล้ว.. แต่ “ก้าวไกล”ยกมือหนุนให้“กองทัพเรือ” ซื้อ“เรือฟรีเกต”อย่างออกหน้า-ออกตา
ถูก “สุทิน คลังแสง”ขุนพลแม่ทัพหลวง รมว.กลาโหม ขวางอ้างว่า“สเปค”ยังไม่ได้กำหนด เรื่องนี้จึงฝ่อไปโดยปริยาย
การ“ปลูกต้นรัก”ของ“ก้าวไกล” ที่เริ่ม“บานฉ่ำ-ดื่มด่ำ”กับกองทัพและ“บิ๊กป้อม”เป็นสิ่งที่ถูก ขอยกนิ้วเชียร์ ถึงจะมีการ“สร้างวิมานกลางอากาศ”ว่าเลือกตั้งในปี ๗๐ “พรรคก้าวไกล”จะ“กินรวบ”ทั้งหัวทั้งหางทั้งกลางตลอดตัว
ที่จะได้ผู้แทน หรือ สส.มากกว่าครึ่งสภาฯ เหมือนที่ “ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างปรากฏการณ์“ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว”ด้วยเสียง“๓๗๗ ที่นั่ง” โดยให้“พรรคการเมืองต่างๆ ในยุคนั้น”นั่งหน้าเศร้า-กอดเข่า เป็น“พรรคฝ่ายค้าน”ทำให้เสียงไร้ความหมายไปทันที
เพื่อเป็นความแน่ใจว่า “ก้าวไกล”จะตั้ง“รัฐบาลได้สำเร็จ” ไม่อกหัก-กระอักเลือดเหมือนครั้งชนะเลือกตั้ง ปี๖๖ ที่“สมาชิกวุฒิสภา”เป็น “หนามหยอกอก”ไม่สนับสนุนให้เป็นรัฐบาล
“ความผิดที่ว่าเป็นครู” เมื่อรู้เช่นนี้“ก้าวไกล”จึงได้ยื่นแขน-ยื่นขา-หันหน้าไปพูดคุยกับ“บิ๊กป้อม” ผู้เป็นพี่ใหญ่ของกองทัพ
การ“ปรับตัว”ในสิ่งที่เหมาะสมและถูกกับสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่“ก้าวไกล”ต้องทำเป็นอย่างยิ่ง จะมาทำตัว“อยู่เหนือลม” เด่น-ดี-ดัง กว่าทุกคนในปฐพี ก็มีแต่จะ“กินแห้ว”เท่านั้นเอง
เส้นชีวิตของ“ก้าวไกล”ที่จะเป็น“รัฐบาล”ไม่ได้ยากเย็นไปกว่าการ“งมเข็มในมหาสมุทร”ซักเท่าไหร่
ถ้า“รักษาคุณภาพ ๑๔ ล้านเสียง”กันเอาไว้ได้ “การเปลี่ยนแปลง-การเมือง”ต้องเป็นจริงขึ้นวันยังค่ำ และอย่าได้ไปว่า“คุณรังสิมันต์ โรม”ที่ไปผูกไมตรีกับ“บิ๊กป้อม”กันตั้งแต่เนิ่น
อย่าลืมว่าถึง“รัฐบาลเศรษฐา”มีเสียงหนุน ๓๑๔ เสียง ถ้ามีการ“ขัดใจ”ย่อม“แตกดังโพล๊ะ”ได้ตลอดเวลา เชื่อหัวไอ้เรืองเหอะ “ความเปลี่ยนแปลง”นั่นแหละเป็นความแน่นอน
รัฐบาลที่ว่ามั่นคง .. “ยังจมลง” กันได้ตลอดเวลา ก็เห็นกันอยู่
“กะพรุนไฟ”
