ก้าวหน้า-จะถูกฆ่าอีก
“กมฺมุนา วฺตตโลโก” ถอดความได้อย่างตรงตัวว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” เป็นสิ่งที่แน่แท้ว่า “มนุษย์ทุกผู้ กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง” โดยการกระทำหรือว่า“กรรม”ที่สานขึ้นมา
“คนหัวก้าวหน้า” อยากให้ประเทศไทย“พลิกเปลี่ยน-หน้ามือเป็นหลังมือ” ไม่อยาก“ล้าหลัง” คัดท้ายเป็น“เต่าคลาน”
“บ่วงกรรม”ที่ว่ามานี้ ล้วนเป็น“กลุ่มอนุรักษ์นิยม”ก่อเป็นกำแพง“ปิดกั้นความเจริญ”
หลายคนเริ่มหวัง เมื่อมี “พรรคอนาคตใหม่” และส่งไม้ “ต่อยอด” สืบปณิธานมาถึง“พรรคก้าวไกล”
ได้“คณะก้าวหน้า”ของ“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-ช่อพรรณิการ์ วานิช”เป็นแรงกระตุ้นอยู่หลังฉาก คอยเติม“เชื้อไฟ”ให้ความคิดพัฒนา แต่สุดท้ายไม่พ้นร่างเงาของ“อำนาจเดิม” ตามมาปลิด-ลิดรอน-ตอนอำนาจประชาชน ไปได้ทุกครั้ง สิท่าน
เห็นการต่อสู้ ที่พยายามเอาชนะ“พลังครอบงำประเทศ” ของ“ธนาธร-ช่อ-พรรณิการ์” ก็เอาใจช่วยลึกๆ แต่ทว่าจะ“ฝ่ากรงเล็บ”รอดพ้นจากการ“ขยุ้มล่าเหยื่อ”ของกลุ่มที่ไม่อยากให้ประเทศแปลงเปลี่ยนได้หรือไม่
ก้อเรื่อง, “เลือก สว.”ตามการขีดเขียนของ“นายมีชัย ฤชุพันธ์” อดีตประธานร่างรัฐธรรมนูญ ที่ไม่คิดเปลี่ยนเส้นทางให้“คนรุ่นใหม่”สู่สังเวียนแห่งสภาสูงได้เลย
เพราะโลกนี้มีความคิดใหม่ๆ เราจึงเห็นการเปลี่ยนแปลง-พัฒนา โลกทั้งใบอย่างไม่หยุดยั้ง
ในยุค“ปฏิวัติอุตสาหกรรม” ที่โลกยามค่ำคืน“ต้องการแสงสว่าง” เพื่อให้“สายพานการผลิต”เดินหน้าทั้งคืน มนุษย์ผู้ไม่จำนน-จนต่อความคิด “โทมัส อันวา เอดิสัน” เจ้าพ่อนักประดิษฐ์ ไม่เพียงแต่“ผลิตหลอดไฟเป็นคนแรก”
จนทำให้โลก และทุกประเทศ ถูก“สร้างสรรค์”ช่วงกลางคืนให้เป็น“สวรรค์”สำรับคนทำงานในยามดึกดื่น
อีกทั้งเรายังมี “พี่น้องตระกูลไรต์” ได้แก่ “ออวิลล์ ไรต์” และ “วิลเลียม ไรต์” ขบคิดด้วยปัญญานอกกรอบ จาก“จักรยาน ๒ ล้อ” มาสู่“เครื่องบินเจ้าเวหา” ซึ่งเป็นธุรกิจ“เรือเหาะ-หุ้มเหล็ก” ที่เชื่อมโลกติดกันเหมือนเป็น ๑ เดียว
เริ่มต้นก็คิดอย่างไม่“ก้าวกระโดด” ต้นแบบคือ“เครื่องร่อน” จากนั้นจึงขยับ-ปรับเข้าใกล้ความสำเร็จ “ดูนกบิน” และกลับมาสร้าง“รูปทรงปีก” จึงประสพผลตามมา “เห็นแผ่นดิน-แผ่นฟ้า”ด้วยตัวเอง เมื่อนั่งอยู่ในเครื่องบิน
คนที่“เปลี่ยนแปลง” ไม่มีวัน“นั่งงอมือ-งอเท้า” ให้การ“พัฒนา”หลุดลอยฟ่องไปได้หรอก
“ธนาธร” และ “ช่อ-พรรณิการ์” เห็นว่าระบบ“เลือกตั้ง สว.” ใน“๒๐ สาขาอาชีพ” ให้แต่คนแก่ได้เปรียบ มีสิทธิ์-คิดที่จะกำชัยได้ไม่ยากเย็น เพราะเขาเป็นที่รู้ เป็นที่ทราบ กับคนที่“สมัคร สว.” จึงได้เปรียบบานตะไท
เพื่อไม่ให้คะแนนอีกเสียง ต้อง“ตกน้ำ-หล่นหายไปเฉยๆ” ไม่มีทางอื่น ก็ต้อง“เลือกคนที่มีชื่อ”เอาไว้ก่อน
จึงเป็นการ“ปิดกั้น”หนทางของ“คนรุ่นใหม่”ที่จะเข้ามาเป็น“พลังแผ่นดิน” คิดอ่านสิ่งดีๆเพื่อประเทศชาติได้
ถ้า“เปิดโอกาส” รับประกันว่า“ชาติ”ต้องได้“พวกไฟแรง” ไม่ใช่“แก่หง่อม”ไร้น้ำความคิด เหมือนที่เป็นอยู่ขณะนี้
อย่างไรก็ดี, ขั้นตอนยังไม่“เปิดกว้าง” ที่จะให้“ธนาธร-“ช่อพรรณิการ์”ทำอะไรได้อย่างสมใจนึก
เมื่อ“กกต.”ออกมา“ดักหน้า” ขัดขวาง ยับยั้ง ดักคอ ขึ้นมาแล้ว โดย“นายแสวง บุญมี”เลขาฯ กกต. ยันการเลือกสว.“ให้แค่แนะนำตัว ห้ามหาเสียง”
และยัง“กระทบชิ่ง” ไปถึงการที่ “ธนาธร-ช่อพรรณิการ์” เชิญชวนคนอายุ ๔๐ ปี ให้มาลงสมัคร เพื่อไม่ให้เกิดการ“บล็อกโหวต” ฮั้วในกลุ่มที่มี“กำลังเงิน” จ่ายค่าสมัครให้ ๒ พัน ๕ และค่าน้ำร้อน-น้ำชาอีกเป็นหมื่น
“ประชาชน”อยากเลือก“สว.” เขาก็ลั่นประตู-ลงกลอน ไม่ให้มีส่วน.. เลือกได้แต่คนจ่าย ๒ พัน ๕ ถึงได้สิทธิ์นั้น..
เพื่อไม่ให้“ความฝันของท่านทั้งประเทศ”ต้องสูญเปล่า
“ธนาธร-ช่อพรรณิการ์” ทำสิ่งใด ควร“หาทางออก” ให้“กกต.”เป็น“อาจารย์ใหญ่”แนะนำ
ใช้“ทีมกฎหมาย”ของ“คณะก้าวหน้า” เดี๋ยวจะพากันตาย
ทางออกต้องมีทุกข้อ.. อย่าให้“เขาเชือดคอ”กันได้อีกต่อไป
“กะพรุนไฟ”