ทิ้งค้างท่อ จนเขรอะ
แสดงตน เป็น“องครักษ์พิทักษ์ความชอบธรรมขึ้นมา” บทบาทแห่งการเป็น“สมาชิกวุฒิสภา” มาเปล่งปลั่งครอบจักรวาล เมื่อท่านจะ“หมดวีซ่า-สิ้นโควตา”จากนี้เพียงแค่ ๘ วัน
อย่างไรก็ดี, การออกมา“ฟาด” หวดเต็มเหนี่ยวของ“สว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” เล่นเอาเขาหน้าสั่น-หน้าหงายไม่น้อย
ดูเหมือนว่า“สว.ลากตั้ง” ซึ่งเป็น “๑ ในแม่น้ำร้อยสาย” เหมือนกับ“คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ กกต. ไม่ได้เป็น“เนื้อนาบุญ” มีผลพวงผลิตออกมาจาก“หลอดแก้ว”ของ“คสข.”เอาเสียแล้ว
“ท่าน สว.ดิเรกฤทธิ์” ได้สกรีนม่านตา ชนิดที่“เจาะลึก”ลงไปถึงรูขุมขนชั้นใน“แห่งแก่นแท้”ของ “กกต.”ทุกเส้น ว่า“เจี๊ยะบ่โละ” ไม่น่าประทับใจ..ฝีมือไม่คู่ควรค่าแก่“การรับประทาน”
นี่จะครบ ๑ ปี ในการ “เลือกตั้ง สส.” ในวันที่ “๑๔ พฤษภาคม ๖๖” แล้วนะพ่อคุณ แต่ไฉนหรือ ผลงานของ“กกต.ชุดปัจจุบัน” ยังไม่แสดง“เนื้องาน” ให้เข้าตากรรมการเสียที
“คุณดิเรกฤทธิ์” ได้หยิบเอา“ข้อมูล-หลักฐาน”จากการสืบสวนของ กกต.จังหวัด และ “ผู้ตรวจการเลือกตั้ง” ที่“ตั้งแท่น” ประเคนเรื่อง“การทุจริต” ให้“กกต.ชุดใหญ่”ลงโทษ
ไม่ให้มีการ“ประกาศรับรอง สส.ถึง ๗๑ เขต” ซึ่งเหม็นโฉ่-บานทะโร่เป็นอย่างยิ่ง แต่ “กกต.”กลับปล่อยไปก่อน แต่สามารถ“ตามไปสอยได้ตอนหลัง”
นี่ใกล้บรรจบ-พบ ๑ ปีแล้ว วันที่ ๑๔ พฤษภาคม..ใช้ “ตะขอ”สำหรับ“สอยมะม่วง” เอาผิด สส.ตก ได้พะหน่อเดียว
เป็นการ “เกี่ยว”เอา“ผู้แทน”จากเขต ๘ นครศรีธรรมราช ออกไปจาก“เส้นทางการเมือง” สำเร็จเท่านี้-เท่านั้น
พร้อมทั้งนี้ “กกต.”ยังตาม“ม้วนเสื่อ”ให้“ผู้สมัคร สส.อีก ๒ คน” เลิกเด็ดขาด ที่จะมาเล่นการเมืองเต็มตัวได้อีก
ส่วนอีก ๗๐ ประเด็น ที่“กกต.จังหวัด” และ“ผู้ตรวจการเลือกตั้ง” ส่งสารมาให้“สับกิโยตีน”ฟันคอนั้น ถูก“ยกคำร้อง” ปล่อยปู-ปล่อยปลาลงน้ำลึกไปอีก ๔๐ คน
ที่เหลืออีก“๓๐ คน” ป่านฉะนี้, ยังเงียบหายไปกับสายลมกับแสงแดด
นี่เป็นสิ่งที่“สะท้อน” ให้เห็นว่า“กกต.ชุดปัจจุบัน”จะทำหน้าที่“ตรวจสอบการเลือกตั้ง” ได้ครบถ้วนบริบูรณ์จริงหรือ?
เพราะมีทั้งอำนาจ“ระดับจังหวัด และ ประเทศ” ซึ่งเป็นงานที่ยุ่งยาก ยิ่งกว่า“เข็นครกขึ้นภูเขา”เป็นไหน ๆ
ไม่มั่นใจว่า “๕ อรหันต์ กกต.”จะมี“วิทยายุทธ์” ทำทุกอย่าง“ให้ถูกต้องตามกฎหมาย” และเกิด“ดุลยภาพ-แห่งความเป็นธรรม” กับผู้สมัครทุกคน..
นัยว่าจะ “แห่แหน” มาสมัครสว.กันอย่างมืดฟ้า-มัวดิน “ตีธง”กันมาแล้วมีเป็นหมื่น และอาจ“ทะลุเป้า”ขึ้นไปเป็น“เรือนแสน” ที่เข้ามาสมัครกัน
และต้องมา“ประกาศผล”คัดเลือก“สว. ๒๐๐คน”อีก จึงเป็นงานที่“หนักอึ้ง” พันธนาการความรับผิดชอบอย่างมาก
“งานใหม่”รับสมัครและเลือก สว.กำลังดันหลัง.. “งานเก่า”ที่จะสอย“สส.”ก็ยัง“ค้างท่อ”จนสนิมขึ้นเขรอะ
ด้วย“สรรพกำลัง”ของ“กกต.”ที่ทำให้เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ “สว.ดิเรกฤทธิ์”จึง“ไม่ภูมิใจ” และยากที่จะเชื่อมั่นได้ “ความเป็นห่วง” อันกังวล และ พะวงนั้น.. ไม่ใช่เรื่องที่“ล้อเล่น” จะมองข้ามกันไปได้
ถึง“กกต.”ออกท่าที “ขันแข็ง”อย่างจริง-อย่างจัง อย่างมุ่งมั่น ให้“เลือกและสมัคร สว.” เป็นไปอย่างขาวสะอาด บริสุทธิ์ และ“ขีดเส้นตาย” ห้ามมิให้“มีการฮั้วกัน”
แต่สิ่งที่“สว.ดิเรกฤทธิ์”เห็น.. “กกต.”ดีแต่ “เขียนเสือให้วัวกลัวไปวัน ๆ” ดีแต่ลั่นวาจา“ขีดเขียน-แต่เปลี่ยนความจริง”ยังไม่ได้
ถ้า“ผลงานครบสูตร”..สว.เขา“จะออกมาพูด”ให้ท่านเสียรังวัดทำไม?
“กะพรุนไฟ”
