24 ตุลาคม 2024

“เจ้ากระทรวงคมนาคม” ไม่ใช่“เจว็ด” มาสิงสถิตเป็น“เทพารักษ์” เฝ้ากระทรวงหน้าต้นหูกวางซะเมื่อไหร่

ความเป็น“รัฐมนตรีว่าการ” มีหน้าที่บริหารแผ่นดิน เพื่อให้“ประเทศชาติ”เดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพเต็มเครื่อง เป็นผู้“บังคับบัญชาสูงสุดในกระทรวง-ทบวงกรม” จึงไม่ใช่“กระโถนท้องพระโรง” ที่ใครบ้วนน้ำหมาก หรือคายชานหมาก

“มีอำนาจอยู่ในมือ” โดยมี“รัฐธรรมนูญ”สนับสนุน ส่งเสริม สั่งการ ทุกอย่าง ให้“ใสสะอาด-ปราศจากข้อติฉิน”

ก่อนหน้านี้ มี“สื่อต่างประเทศ”ประโคมข่าว ป่าวประกาศให้รู้ครึกโครมไปทั่วแคว้นพารา—ประเทศไทยอย่างอึงคะนึง ว่า.. “บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)” ได้สั่งซื้อเครื่องบิน“โบอิ้ง ๗๘๗ จำนวน ๔๕ ลำ” เป็นฝูงใหม่-ฝูงใหญ่ทีเดียว

มาพร้อมกับ“ออปชั่น” สามารถเพิ่มขนาด“ข้อตกลง”ได้ถึง“๘๐ ลำ” นำหน้าหลายประเทศขึ้นมาทันที หากการเดินทาง“ระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น” ก็สามารถ“เพิ่มงบซื้อ”ได้อย่างสะดวกโยธิน

แต่ไม่น่าเชื่อ?..เมื่อได้ฟัง “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการคมนาคม แถลงจำนรรจา ให้“เซ็งเป็ด”ขึ้นมาทันที ดูท่านจะ“ตะแบง-แซงทางโค้ง”ยังไงก็ไม่รู้ ..โดยกล่าวว่า“ขณะนี้การบินไทย อยู่ในระยะการฟื้นฟูกิจการ”

“กระทรวงคมนาคม” โดยตนเองถึงจะเป็น“เจ้ากระทรวง” แต่ก็ไม่อาจ“สอด-แทรกซึม”เข้าไปยุ่งได้?

ท่านบอกว่า“เราไม่มีอำนาจ ทำได้แต่เพียงสอบถาม การจัดซื้อครั้งนี้มีความคุ้มค่าหรือไม่?” อย่างไรก็ดี, “นายสุริยะ”ยอมรับว่า “กระทรวงคมนาคมมีความเป็นห่วงอย่างมาก”

“ห่วงจริงหรือ?”..ทำไมมา“นั่งเป็นพระอันดับ” ทำตัวเป็น“พระผู้น้อย” ไม่สมเกียรติเป็น“รัฐมนตรีว่าการ”เอาเสียเลย

ซึ่งมี“ผู้รู้” สันทัดในเรื่อง“การบริหารบริษัทเครื่องบิน” พากัน“ทักท้วง” กล่าวติงเป็นเสียงเดียวกันว่า..มีความจำเป็นหรือ?..ที่ต้องซื้อ “โบอิ้ง ๗๘๗” ล็อตใหญ่ฝูงบินพาณิชย์มหึมากันขนาดนี้ ในเมื่อ“การบินไทย” ยังมี“เครื่องบินรุ่นแอร์บัส A๓๘๐”จอดอยู่เฉยๆ ไม่ใช้ทำประโยชน์อะไร เสียหายรายได้ไปจังเบอร์

แต่ดูเหมือนว่า “นายสุริยะ”จะยกแม่น้ำทั้ง ๕ ขึ้นมาเป็นแรงเชียร์ ให้“การบินไทย”ซื้อเครื่องบินอย่างสุดโต่ง อ้างว่า “เครื่องบิน A๓๘๐”เป็นเครื่องบินเก่า ส่วนใหญ่ไม่คุ้มค่าต่อการใช้บิน จำเป็นอย่างยิ่ง“ต้องหยุดบินไป” เพราะต้องใช้“น้ำมันมากขึ้น” เปลืองต้นบินการบินมากเกินเหตุ

แทนที่“จะเบรก-กลับเสกกระหม่อม”..เหมือนเชียร์ยังไงก็ไม่รู้สิ

แต่เมื่อ“เจาะเวลา –ย้อนไปหาอดีต” สมัยที่“นายสุริยะ”เป็น“รัฐมนตรีว่าการคมนาคม” เมื่อปี๔๕ ถึงปี๔๗ “นายสุริยะ”เจ้าเดิมท่านนี้ ได้อนุมัติจัดซื้อ“เครื่องบิน A๓๔๐-๕๐๐” จำนวน ๔ ลำ และ “เครื่องบิน A๓๔๐-๖๐๐” จำนวนอีก ๖ ลำ ให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มูลค่า “๕๓,๕๓๖ ล้านบาท”

ส่งผลให้ “การบินไทย”แบกภาระหนี้กันอย่างอ่วมอรทัย

กรณี “ซื้อเครื่องบิน ๑๐ ลำ” ดังกล่าวนี้ เข้าสู่มือการสอบสวนของ “คณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” ถึงจะ“รอดปากเหยี่ยว-ปากกา”.. โดย “ปปช.”มีมติยกคำร้อง “ไม่มีการชี้มูลความผิด ผู้เกี่ยวข้อง”

ทำไมกันล่ะหนอ?..การซื้อเครื่องบิน ถึงได้“อุบัติ” มีเหตุเกิด-กำเนิดขึ้นกับ“ท่านสุริยะ”ทุกคราวไป

หากส่องแว่นขยายดูกัน จะเห็นว่า“ผู้นั่ง-สั่งการคมนาคม” มักไม่มีเรื่อง“ในกอไผ่”ให้วิจารณ์กัน..เพื่อไม่ให้“เกิดประวัติศาสตร์-ซ้ำรอย” เหมือนเมื่อครั้งอดีต ซึ่งได้ล่วงเลยมาแล้ว

จึงอยากให้“เรื่องเก่า”ได้ใช้เป็น“บทเรียน” เพื่อเป็น“คติเตือนใจ” จะได้ไปเจ็บตัว-ปวดร้าวกันอีก

เมื่อ“การบินไทย” ซื้อเครื่องบินโบอิ้ง A๗๘๗ ฝูงใหญ่ และจะ“ต่อยอด”ซื้อเพิ่มเป็น“๘๐ ลำ” ไม่ให้ตกเป็นปากหอย-ปากปู

มีแต่“ความโปร่งใส” ถึงจะเป็น“เกราะแก้วกำบังกาย” ได้เป็นอย่างดี

ที่พูดมา เพราะเป็นห่วงหรอก..“อย่าให้ถูกหลอก” เสียยี่ห้อเหมือนเก่าได้อีกเชียวนะ

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *