24 ตุลาคม 2024

‘เศรษฐา’ ยัน ไม่เคยกดดันผู้ว่าธปท. และไม่เคยคิดแก้กม.ลดอำนาจ ส่วนอนาคตไม่รู้

0

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสังคมมองว่าการมีความเห็นที่ขัดแย้งระหว่างรัฐบาล กับ นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจเป็นอุปสรรคต่อการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ไม่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรคของเงินดิจิทัล หากมีข้อสงสัยก็มีหน้าที่อธิบาย ตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา ส่วนที่มีความเห็นต่างกันได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว

นายเศรษฐา กล่าวถึงกระแสที่ว่ารัฐบาลมีแนวคิดจะแก้ พ.ร.บ.เกี่ยวกับอำนาจของผู้ว่าธปท. ว่า ไม่ได้มีแนวคิด และไม่เคยพูดเลย เป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่ต้องไปดูแล ประเด็นตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าธปท. รัฐบาล หรือสภาผู้แทนราษฎร มาอยู่ด้วยกันเพราะว่าต้องดูแลประชาชน เรื่องนี้สำคัญสุด ส่วนการแก้ไขกฎหมาย ต้องมีการส่งเรื่องมาจากกระทรวงการคลัง แต่เวลานี้ยังไม่เห็นส่งขึ้นมา

“ผมไม่เคยพูด แต่อนาคตผมไม่ทราบ ต้องถามคุณพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง”

ส่วนที่มีข่าวเรื่องจะมีการเสนอแก้กฎหมาย ยิ่งทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลต้องการลดอำนาจผู้ว่าธปท. นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องไปถามต้นตอของข่าว วันนี้ตนไม่ได้พูด

กรณีที่บอกว่าไม่เคยมีความขัดแย้ง แต่ภาพที่ออกมาสื่อถึงความขัดแย้งระหว่างกัน นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าดูที่ภาพ ดูที่เนื้องานดีกว่า อย่างที่บอกตนไม่ปฏิเสธเรื่องดอกเบี้ย เพราะคิดว่าดอกเบี้ยสูงควรจะลด แต่ทางผู้ว่าธปท.บอกไม่สูงไม่ควรลด ใช่หรือไม่ ก็ชัดเจนแล้ว จึงต้องไปหาวิธีการอื่นที่จะบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชน โดยเชิญ 4 ธนาคารมาพูดคุย

“ผมไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่านเลย ได้เชิญธนาคารพาณิชย์แล้วก็ลดไปประมาณ 0.25% ผมได้ขอบคุณไปและก็เดินหน้าบรรเทาทุกข์ของพี่น้องประชาชนต่อไป ไม่ได้มีการไปต่อว่าอะไรทางผู้ว่าธปท. ไม่เคยพูดให้ผู้ว่าฯลาออก รวมถึงเรื่องการปลดผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ถ้าท่านผู้ว่าฯฟังอยู่ ผมไม่เคยกดดันและไม่เคยพูดด้วย ผมอาจจะมีการพูดคุยถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ผมเป็นผู้นำรัฐบาลพูดมาแค่นี้โดยตลอด ก็แค่นี้นะครับ”

ส่วนที่ผู้ว่าธปท.บอกว่านักการเมืองมาแล้วก็ไป ขณะที่ ธปท.ต้องรักษาสภาพการเงินการคลังของประเทศ นายเศรษฐา กล่าวว่า คงไม่ไปคอมเมนต์เกี่ยวกับว่าใครพูดอะไร ตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ธปท. รัฐบาล สภา เรามาทำงานเพื่อใคร เพื่อประชาชน จิตใจตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียว และกฎหมาย

ส่วนจะทำให้อุณหภูมิความขัดแย้งลดลงได้อย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า อุณหภูมิจะถูกลดก็ต่อเมื่อปัญหาของประชาชนถูกแก้ไข

จำเป็นจะต้องมีการเรียกผู้ว่าการ ธปท. เข้ามาพูดคุยอย่างจริงจังเพื่อลดปัญหาต่างคนต่างพูดหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้ต่างคนต่างพูด ตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียว ผู้ว่าธปท.ก็พูดเองมีอะไรก็สื่อสารผ่านกระทรวงการคลัง ตนขอใช้ว่าให้เป็นไปตามระบบแล้วกัน และตนจะติดตามผ่านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งตนได้มีการสั่งการไปแล้ว และเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมก็ได้มีการให้สัมภาษณ์ย้ำไปแล้ว

“ผู้ว่าฯ บอกชัดเจนแล้วว่าไม่อยากให้สื่อสารโดยตรงกับท่านให้ผ่านกระทรวงการคลัง ผมก็ทำตามที่บอกมา และก็ไม่ได้เชิญสื่อมวลชนมากล่าวโทษผู้ว่าฯหรืออะไรเลยใช่ไหม เมื่อท่านถามมาว่าดอกเบี้ยสูงไหม ผมก็บอกว่าดอกเบี้ยสูง ก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ว่าฯ คู่กรณีของผมคือความยากจนของพี่น้องประชาชน และความยากจนเกิดมาจากดอกเบี้ยสูง ผมก็บอกแค่นี้ ถ้าจะเปลี่ยนใจผม อย่างไรก็เปลี่ยนใจผมไม่ได้ ฝ่ายการเมือง ฝ่ายส.ส. รัฐมนตรี และองค์กรอิสระ อย่างเช่น ธปท.เอง ก็มีความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชน แต่มองปัญหาคนละแบบเท่านั้นเอง ซึ่งต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำซึ่งกันและกัน”

ถ้าจะพูดอะไรประโยคหนึ่งถึงผู้ว่าธปท. อยากจะพูดอะไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ครับ ไม่มี ได้พูดชัดเจนแล้ว สิ่งที่เราเห็นด้วยไม่เห็นด้วย อย่าว่าแต่ผู้ว่าธปท.เลย คนในรัฐบาลเองคนในพรรคเอง ต่างก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกคน นโยบายต่างๆ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เราเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็พูดคุยกันไป อย่าให้มีวาทกรรมว่าจะปลดจะอะไรมันไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในความคิดเลยแม้กระทั่งนิดเดียว

“ความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว วันนี้ผมก็ไม่ได้เห็นตรงกับคุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ทุกเรื่อง แต่เราก็คุยกัน มีภาษาที่สามารถพูดคุยสื่อสารกันได้ พยายามที่จะยืดหยุ่นประนีประนอมกันได้ เพราะผมเชื่อว่าทุกคน รวมถึงทุกคนที่ยืนอยู่ที่นี่มาทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาดีกว่า เรื่องความขัดแย้งเป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้มีเกิดขึ้น แต่เมื่อมีความเห็นต่างเราก็พยายามบริหารความเห็นต่างตรงนี้ บนบรรทัดฐานของการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน”

กรณีกระแสโซเชียลมีเดียติดแฮชแท็กเซฟผู้ว่าธปท. รู้สึกอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มีคอมเมนต์ เพราะมองว่าผู้ว่าฯไม่มีอะไรที่จะต้องถูกเซฟ เพราะมาอย่างถูกต้อง และมีหน้าที่ก็ทำงานไป หลายอย่างที่ทำตนก็เห็นด้วยเหมือนกัน และหลายอย่างที่ตนทำเชื่อว่าผู้ว่าฯก็เห็นด้วย ซึ่งหลายอย่างก็อาจจะไม่เห็นด้วย แต่เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันแล้ว อย่างน้อยทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไปขัดแย้งกับใคร จึงไม่มีข้อคิดเห็นที่ว่าจะต้องเซฟ และคิดว่าผู้ว่าฯไม่ต้องการการเซฟเพราะไม่มีใครจะไปปลด ไม่มีใครพูด รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด

“เพียงแต่เราอาจไม่เห็นตรงกันในบางเรื่องหรือไม่ และถูกไปแปล พยายามยกระดับขึ้นไปให้เกิดความขัดแย้ง ยืนยันว่าในที่สาธารณะหรือส่วนตัวผมก็พูดแบบนี้ คือพูดเรื่องดอกเบี้ยเรื่องเดียว ไม่ได้พูดเรื่องการกำกับดูแลแบงก์ หรือหนี้เสีย ไม่ได้พูด เพราะดูหนี้เสียมีอัตราที่ดีแล้ว เมื่อเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องที่ดีถูกต้องไม่ต้องชมกัน ต่างทำในสิ่งที่ดีไป และมั่นใจว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ในหลายเรื่อง เช่น การลงพื้นที่ใน 2 วันที่ผ่านมา เป็นประโยชน์ต่อประชาชน”นายเศรษฐา กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *