24 ตุลาคม 2024

การท่องเที่ยวจีนของคนไทย’ คึกคัก ผลพวงจากนโยบายฟรีวีซ่าไทย-จีน

0

วันท่องเที่ยวจีน (China Tourism Day) ครั้งที่ 14 ในปีนี้ตรงกับวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 โดยกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน เปิดเผยว่า ได้เริ่มต้นเทศกาลท่องเที่ยวจีนแล้วตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ในธีม “สำรวจจีน หรรษากับชีวิตสุขสันต์” (Explore China, Enjoy a happy life)

โดยจะมีการจัดหลากหลายกิจกรรมตลอดเดือนพฤษภาคม ทั้งกิจกรรมประจำวัน ประจำสัปดาห์ และประจำเดือน ขณะที่ในวันที่ 19 พ.ค. แต่ละภูมิภาคจะเลือกหนึ่งเมืองเป็นสถานที่จัดงานหลัก ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย และออกสิทธิประโยชน์ทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สะท้อนว่ารัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับวันท่องเที่ยวจีนเป็นอย่างมาก และมีการประสานความร่วมมือกันทั้งประเทศ

ความสำคัญของ “วันท่องเที่ยวจีน” ไม่เพียงเป็นเทศกาลมอบความสุขสู่ชาวจีน แต่ยังควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วย จากการไปเที่ยวของชาวจีนที่เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นช่องทางสำคัญสำหรับผู้คนในการสัมผัสถึงพลังแห่งการพัฒนาของจีนและแบ่งปันชีวิตที่ดีขึ้น

สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ให้แง่คิดเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจีน ว่า ควรเร่งการสร้างสรรค์การท่องเที่ยวที่ทันสมัย  เพื่อพัฒนาจีนให้เป็นประเทศการท่องเที่ยวที่เข้มแข็ง  และให้การท่องเที่ยวสามารถบริการชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน  ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ  แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของจีน  และเพิ่มการเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรมต่างๆ  ทุกภาคส่วนและหน่วยงานควรส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างมั่นคงและต่อเนื่อง

สะท้อนว่าจีนไม่เพียงให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวในประเทศ แต่ให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะไปเที่ยวจีนด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวไทยก็เป็นนักท่องเที่ยวอีกหนึ่งประเทศที่จีนให้ความสำคัญ โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ซึ่งเป็นวันท่องเที่ยวจีน ทางสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ ในฐานะผู้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวขาเข้าแห่งประเทศจีน “5.19 วันท่องเที่ยวจีน”  ได้จัดกิจกรรมใหญ่ขึ้นที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม โดยได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย

ที่น่าสนใจคือไม่เพียงสื่อกระแสหลักของทั้งจีนและไทย ที่ให้ความสำคัญกับกิจกรรมนี้ แต่ยังมีบล็อกเกอร์ด้านการท่องเที่ยวชาวไทยเกือบ 150 คน เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย สะท้อนว่าเสน่ห์ของประเทศจีนในเรื่องการท่องเที่ยว ได้รับความสนใจจากทั่วโลก รวมทั้งจากนักท่องเที่ยวไทย ซึ่งมีเรื่องของนโยบาย วีซ่าฟรี หรือการยกเว้นฟรีซ่าให้กับคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวจีนด้วย

ฉางยู่เหมิง อุปทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย กล่าวว่า 1 มีนาคมที่ผ่านมา จีน-ไทย ได้เข้าสู่ยุคฟรีวีซ่า ถือเป็นนโยบายที่ดีที่ทำให้ประชาชนทั้งสองประเทศไปมาหาสู่กันมากยิ่งขึ้น ถึง ณ ช่วงสิ้นเดือนเมษายน ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเกินกว่า 12.12 ล้านคน ซึ่งในนี้มีนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 2.35 ล้านคน มากเป็นอันดับหนึ่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวไทย

ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวไทยก็มีความต้องการเดินทางท่องเที่ยวจีนมากขึ้น คำว่า “ท่องเที่ยวจีน” ได้กลายเป็นคำค้นหาสำคัญลำดับต้น ๆ ในโซเซียลมีเดียของไทย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่หลากหลายในประเทศจีนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้น

“ ปีหน้าจะเป็นปีครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-จีน ทั้งสองประเทศจะได้พบกับโอกาสดีใหม่ ๆ สถานทูตจีนยินที่จะสนับสนุนการเสิรมสร้างเวทีความร่วมมือมากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมความรวมมือด้านการท่องเที่ยว การเงิน การบินระหว่างจีน-ไทย ให้ประชาชนทั้งสองประเทศไปมาหาสู่กันมากยิ่งขึ้น ผลักดันการร่วมสร้างประชาคมที่มีโชชะตาร่วมกันระหว่างจีน-ไทย”

ชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ประเทศจีนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยมาโดยตลอด ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวนมากให้ไปเยือนและสัมผัส ซึ่งรัฐบาลไทยและจีนได้ออกนโยบายฟรีวีซ่าร่วมกันอย่างถาวรเพื่อสนับสนุนการแลกเปลี่ยนฉันมิตรระหว่างประชาชนทั้งสองในระดับสูงสุดประเทศไทยจะต้อนรับเพื่อนนักท่องเที่ยวชาวจีนทุกคนด้วยรอยยิ้มที่จริงใจและความกระตือรือร้นเช่นเคย

เชว่เสี่ยวหัว ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมและสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯระบุว่า ทั้งจีนและไทยมีทรัพยากรทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ถือเป็นประเทศแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของกันและกัน ซึ่งพบว่าปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยสูงถึง 3.5 ล้านคน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเที่ยวจีนในปีที่แล้วอยู่ที่ 382,000 คน เป็นอันดับที่ 11 ของนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ และมีแนวโน้มว่านักท่องเที่ยวไทยจะไปเที่ยวจีนเพิ่มมากขึ้น

ในงานยังมีการเปิดตัว ประกวดคลิปวิดีโอสั้นความคิดสร้างสรรค์ภายใต้หัวข้อ “ฉันอยากไปประเทศจีน” ครั้งที่ 2 ชิงรางวัลทริปท่องเที่ยวประเทศจีนจำนวน 10 รางวัล โดยจะเริ่มเปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2567 -15 กรกฎาคม 2567

มองในแง่ของความสัมพันธ์จากมิติการท่องเที่ยวไทย-จีน  แน่นอนว่าเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจของทั้งไทยและจีน ที่ต่างฝ่ายต่างเดินทางไปท่องเที่ยวและใช้จ่าย ซึ่งจากข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้ให้เห็นความคึกคักของชาวจีนที่มาเที่ยวไทย ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวไทยมากเป็นอันดับ 1 แล้ว และคาดการณ์ว่า ถึงสิ้นปีนี้ นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย น่าจะเป็นอันดับ 1 โดยคาดว่าจะมีจำนวนราว 5.2 ล้านคน (คาดการณ์ ณ 12 ธันวาคม 2566) เพิ่มขึ้นจากในปี 2566 ที่มีจำนวน 3.5 ล้านคน แต่ถ้าเทียบกับก่อนโควิดที่มีจำนวนราว 11 ล้านคน ก็ยังต้องถือว่าการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีนคงต้องใช้เวลาอีกระยะ เนื่องจากจีนเองก็อยู่ในช่วงของความท้าทายด้านเศรษฐกิจจีนเองด้วยเช่นกัน

ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ตั้งเป้าหมายที่จะดึงนักท่องเที่ยวจีน 8 ล้านคนให้มาเที่ยวไทยในปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มาจากข้อมูลที่พบว่า  ตลอดทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยรวมแล้วประมาณ 3.5 ล้านคน และเฉพาะแค่เดือนแรกของปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยแล้ว 444,702คน ทำให้เฉลี่ยเท่ากับนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเที่ยวไทย 20,000 คนต่อวัน ดังนั้นเป้าหมาย 8 ล้านคนในปีนี้จึงเป็นไปได้สูงมาก

โดยเฉพาะการที่รัฐบาลไทย-จีน ออกมาตรการ “ยกเว้นวีซ่า” (วีซ่าฟรี) ที่เป็นความตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างกันเป็นการถาวร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นมา จึงเป็นความสัมพันธ์ทั้งในแง่กระต้นเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ และมิติในแง่ของความสัมพันธ์ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม และสังคมของทั้ง 2 ประเทศ

โดย นายภูวนารถ ณ สงขลา

ที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการการค้าชายแดนและข้ามแดน ด้านจีนตอนใต้ หอการค้าไทย และ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว Bangkok Wealth & Biz และ สำนักข่าว บางกอกทูเดย์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *