24 ตุลาคม 2024

เมื่อมี“แรงเหวี่ยง” ย่อมเกิด“แรงต้าน” เป็นของคู่กันที่แยกไม่ออก

เพราะ“เหวี่ยง”เต็มคาราเบล..นำ“ข้าว”ที่เก็บในโกดังมาเป็นเวลา ๑๐ ปี..ว่ายัง“ใช้ได้” ไม่มี“สารก่อมะเร็ง” มีคุณค่า“ทางอาหาร” ตามเกรด-ตามเกณฑ์

นี่เท่ากับว่า เป็นการ“พิสูจน์”แจ้งให้เห็นชัด ทำให้รู้ชัดว่าไม่ได้เป็น“ข้าวเน่า” เหมือนกับที่มีการ“เทกระจาด” ขายกันไปในราคาถูกเสียยิ่งกว่า“ให้เปล่า” กิโลละ ๕-๖ บาท..ข้าวที่เขา “แปลงสภาพ”ว่าเป็น“ข้าวเน่า” ๒ แสนกว่าล้านตัน

ถูกเร่ขายเป็น“ข้าวอุตสาหกรรม” ..“อาหารสัตว์” ทั้งที่เป็น“ข้าวดี” ขายให้คนบริโภค ตกกิโลละ“๒๕-๓๐ บาท”ทีเดียว

“เงินแผ่นดิน” ถูกเหลือบไรกิน หายวับไปเป็น“แสน-แสนล้านบาท”

ใคร“เขมือบ-เหลือบตัวเลว” รับประกันซ่อมฟรีว่า “เขาผู้นั้น” ต้องรวยสะดือปลิ้นก็แล้วกัน

ประกอบกับ“พรรคเพื่อไทย” เดินหน้าตบใส่เกียร์ห้า แก้“พรบ.กลาโหม” ซึ่งถูกสร้างเป็น“อำนาจที่แข็งแกร่ง” หลังจากที่มีการ“ปฏิวัติ-รัฐประหาร”เกิดขึ้นมา..สร้างอำนาจไม่ให้“รัฐบาล”เข้าไปแตะต้อง“ขบวนการลวงพราง”ได้

และ “เพื่อไทย”มีมติ“แก้รัฐธรรมนูญ ๖๐” ที่ “นายมีชัย ฤชุพันธุ์” ประธานฯยกร่าง เปิดทาง“ยกเว้นโทษ”ให้กับ“คสช.” ทั้งที่“โทษฉีกรัฐธรรมนูญ” คว่ำ“รัฐบาลประชาธิปไตย”มีความผิดร้ายแรง

เรียกว่าถ้ามี“๑๐๐ ชีวิต” ก็หมดสิทธิ์ที่จะมี“ลมหายใจ” ถ้ายึดตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสูงสุด

และยังเสนอให้“กระบวนการยุติธรรม” เป็นหลัก“ค้ำประเทศ” ด้วยการไม่ยอมรับ“อำนาจปฏิวัติ” ไม่ให้“สนอง”ตามแนวทางของ“คณะปฏิวัติ” ที่อ้างตัวว่าเป็น“รัฏฐาธิปัตย์” มีอำนาจสูงสุดในการปกครองรัฐ

ทั้งที่มาจาก“กลิ่นไอ-ควันปืน” ขืนใจคนทั้งประเทศ เอาอำนาจไปอยู่กับคน-เพียงคนเดียว

อีกทั้ง “เพื่อไทย”จะแก้ “พรบ.ธนาคาร” ที่ให้อำนาจ“แบงก์ชาติ”เป็นอิสระ จะทำ“หูหนวก-ตาบอด”กับรัฐบาลก็ได้

ถ้า “พรบ.ธนาคาร”ดีเลิศ-ประเสริฐศรีจริง “การเงิน-การธนาคาร”ของชาติคงไม่“รุ่งริ่ง” อย่างที่เห็นกันหรอกท่านสารวัตร

ตลอดการปฏิวัติของ“คสช.” ทายาทสายตรงจากการปฏิวัติ “๑๙ กันยายน ๒๕๔๙” ต้องยกฐานะการเงินให้ดีขึ้น แต่ก็เหลวเป๋ว-ล้มเหลวอย่างไม่เป็นสับปะรดขลุ่ย ในยุค“รัฐบาล คสช.”กู้เงินสร้างประวัติศาสตร์ติดลบเกินบรรยาย

“ประเทศไทย”มีรัฐบาลมาหลาย ๑๐ คณะ หลายสิบ“นายกรัฐมนตรี” เงินที่กู้-สู้“รัฐบาล คสช.”กู้มาหนเดียวยังไม่ได้

การมีอยู่จริงของ“พรบ.ธนาคาร” ที่ให้สิทธิเหลือหลาย เกิดจากอำนาจ“ปฏิวัติ”ที่ประเคนใส่มือให้ไป

ถ้า“ธนาคารแห่งประเทศไทย” ยึดในปณิธานของ“ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์” ผู้ที่ก่อตั้งขึ้นมา ว่าเมื่อใดที่ “แบงก์ชาติ”งัดข้อ-เกิดข้อ พิพาท โต้เถียง กับ “รัฐบาล” ให้“ผู้ว่าฯธนาคารแห่งประเทศลาออก”เพื่อยุติปัญหา

แต่ดูเหมือน“ความคิดนี้”จะเข้าหูซ้าย-ทะลุหูขวาบางคน ยังคง“ถ่างขา”อ้าซ่ารับเงินเดือนล้านสามอย่างฉ่ำใจ ทั้งที่“จีดีพีไทย”ตกกรอบกันมาอยู่ตลอด แต่“แบงก์ชาติ”เหมือนไม่สนอะไรในกอไผ่ทั้งนั้น

ดูเหมือนว่าอำนาจ“อนุรักษ์นิยม” คอย“สร้างปม”ให้“รัฐบาลนิด” นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ในช่วงเวลาที่ผ่านมาตลอด

กรณี “อดีต รมต.พิชิต ชื่นบาน”ลาออก ยังคงหยิบมา“ตอกย้ำ”เพื่อใช้เป็นเหตุพายงัด-ซัด“นายกฯเศรษฐา” ทั้งที่หลายเคส “หัวหน้าพรรค”เซ็นอนุมัติให้คนลงสมัคร.. พอเขาลาออกเรื่องก็จบ ไม่ตามราวีเหมือนกรณีนี้เลย

ที่ออกมา“จี้-ตีกันเป็นรายวัน” ก็หน้าเดิมๆที่แพ้เลือกตั้งกันมาอย่างซ้ำซาก จนตั้งรัฐบาลด้วยลำแข้ง-ลำขา ตัวเองไม่ได้ พวกนี้เป็นเหมือน“แมลงวัน”ที่แตกฝูง..เพราะอยู่ในพรรคเดียวกัน ก็เปิด“มหกรรมลากไส้กันจนเละ”

หลังจาก“แตกสัมพันธ์-สะบั้น” โยกย้ายไปอยู่พรรคใคร-พรรคมัน แต่การเปิดฉากออกมากระหน่ำ เหมือนกัน“ฝนตกขี้หมูไหล-คนกระสันอำนาจกับมาร่วมกัน”

ที่ทำนี้..เหมือนกับว่าเป็น“มิตร” แท้จริงแล้วอยากกลับมาเป็น“รัฐบาล”จนตัวสั่น

อยู่พรรคเดียวเคยเป็นศัตรู..ยามนี้ “หันมาเป็นรวมหมู่” คนเขาดูออกว่าอยากเป็นรัฐบาลเท่านั้น

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *