มีใครศรัทธา?
ไม่เป็น“เทวดาตกสวรรค์”..ยังทำหน้าที่ให้“ประชาธิปไตย”ก้าวหน้า.. ทำให้เศรษฐกิจ“เชิดหัวขึ้นฟ้า”ได้อีกต่อไป
ถึง “ศาลรัฐธรรมนูญ”รับคำร้อง“๔๐ สว.”ไว้พิจารณา-หาความจริงตามเนื้อผ้า
แม้นว่า “อดีตรัฐมนตรีพิชิต ชื่นบาน”ผู้เป็นหัวใจหลักโครงการ“รับจำนำข้าว” และรู้มาตลอด“๑๐ ปี-ข้าวไม่ได้เน่า” ถึงจะ“ลาออก” ยังสร้างประเด็นส่งผลให้“นายกฯเศรษฐา ทวีสิน”ต้องส่ง“คำชี้แจงใน ๑๕ วัน”
เทียบเคียงกันแล้วไม่“หนักหน่วง” น่าห่วงอะไรให้มากนัก (ปลอบใจกัน ดีกว่ามานั่งโศกาเป็นไหนๆ)
เพราะในสมัยที่“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตนายกรัฐมนตรี ถูก“ตีความ”ว่าเป็น“นายกรัฐมนตรีมาครบ ๘ ปีแล้ว” ครั้งกระนั้น “พล.อ.ประยุทธ์”ถูกสั่งให้“หยุดปฏิบัติหน้าที่”กลางเวหา ทีเดียวเชียว
แต่กรณี “นายกฯเศรษฐา” ยังผ่านด่านมะขามเตี้ย ชนะด้วยเสียง “๕ ต่อ ๔” ให้ทำหน้าที่“เดินหน้าประเทศไทย”ได้ต่อไป
ทันทีที่“ศาลรัฐธรรมนูญ”ลงมติมา ให้“พล.อ.ประยุทธ์”หยุดทำงานในฐานะ“นายกรัฐมนตรี” ท่านก็ไม่เข้าทำเนียบฯ ไปอยู่ยัง“กระทรวงกลาโหม” เพราะช่วงนั้น..ท่านสวมหมวก ๒ ใบ จึงนั่งถ่างขาตามสิทธิ์และหน้าที่อย่างชอบธรรม
หลังจากที่ยื่นคำชี้แจง-แถลงไข “พล.อ.ประยุทธ์”ก็สวมวิญญาณเป็นเสือคืนถิ่น กลับมากินตำแหน่งจนหมดวาระในที่สุด
เมื่อ“ศาลรัฐธรรมนูญ” รอคำอธิบาย ขยายเนื้อความการเสนอชื่อ“คุณพิชิต ชื่นบาน”เป็นรัฐมนตรี อย่าเพิ่ง“สรุป”ว่า “นายกฯเศรษฐา”จะหลุด“พ้นไปจากตำแหน่ง” เคลมกันแบบนี้ จะเข้าทางผู้เซาะกร่อนบ่อนทำลาย
ถึง “นายกรัฐมนตรี”ของ“พรรคไทยรักไทย-พรรคพลังประชาชน-พรรคเพื่อไทย” จะ“ขาหัก” กระอักเลือดมาหลายคน เมื่อรักกันเต็มร้อย – รอกันสักหน่อย ว่า“ศาลรัฐธรรมนูญ”ท่านจะตีความออกมาด้วยสิ่งใด..
ทั้งหมดอยู่กับ“สิ่งอ้างอิง-ข้อเท็จจริง” ที่“นายกฯเศรษฐา” จะทำให้เรื่องนี้กระจ่างชัดเจนกันขึ้นมา
ฉะนั้น, “อย่าได้-ไปตีตนก่อนไข้” วิตกกังวล หวาดกลัว ทั้งที่เรื่องร้ายๆยังไม่ได้เกิด จะดีกว่านะท่านผู้ชม..
แต่สิ่งน่ารับฟังจาก“รังสิมันต์ โรม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ดูจะแปลก เมื่อมีการสอบถามก่อนแต่งตั้ง“คุณพิชิต” ไปยัง“กฤษฎีกา” มือกฎหมายชั้นอ๋อง น่า“ตีความเสียให้ขาด”
ถ้าคิดว่ามีปัญหา ควรจะ“ตัดไฟเสียแต่ต้นลม” เพื่อดับต้นเหตุไม่ให้เป็นชนวนเข้ามาหา“นายกฯเศรษฐา”
อย่างไรก็ดี, “กฎหมายมาตราเดียวกัน” ยังตีความกันไปคนละทิศ-คิดกันไปคนละทาง เราก็เห็นกันอยู่ถมเถ
ไม่ต้องเป็นพะวงไปกับ“นายกฯเศรษฐา”ท่านเลย..เพราะถ้าถูกลง“กิโยตีน” เครื่องประหารไม่ให้เล่นการเมือง ท่านก็กลับไปเป็น“ซีอีโอ” อยู่กับ“บริษัทใหญ่ยักษ์แสนสิริ” อสังหาริมทรัพย์ บิ๊กเบิ้มของประเทศ
ชีวิตท่าน“เดินบนพรมแดง” อยู่กับ“ความสำเร็จ” สร้างฐานะขึ้นมาอย่างร่ำรวย ไม่เหมือนกับ“นักการเมืองบางคน” ที่เป็น“สวะ”อยู่ใต้เกือกของคนบางคน
เขา“กดปุ่ม”ให้ทำอะไร ก็ปฏิบัติตาม ไม่มีคิด “ประเทศชาติ”ที่วิกฤต ว่าจะเดินไปข้างหน้า ว่า“ซวนเซหรือล้มคว่ำ”
หวังแต่เพียงว่า “ตัวเอง”จะได้มีอำนาจ รับใช้“คนสั่งการ” ไม่คิดถึงชาติและประชาชนกันเลย
ก้อเอากันเหอะ เมื่อ“รัฐธรรมนูญ ๖๐” ยังมีอำนาจคอยที่จะ“กระชุ่น” ดุนหลังให้คนที่มีความสามารถตกจากตำแหน่งได้
ไม่มีใครหรอก จะเป็นผู้“ชนะตลอดกาล-ตลอดไป” อย่างชั่วนิรันดร์ “ชิงอำนาจ” เพื่อให้“อำนาจอยู่กับมือนั้น” ไม่มีใคร“รักษา”ดูแลกันได้นานหรอก-จะบอกให้
“อำนาจเป็นสมบัติที่ผลัดกันชม” ต้องรู้ไว้ด้วยว่า“สิ่งนี้” ไม่ใช่สมบัติที่“ผูกขาด”เอาไว้กับตัวเองหรอกนะ นี่เป็นการได้“ชื่นชม”เป็นครั้งเป็นคราวเท่านั้นแหละ..เมื่อถึงที่สุดแล้ว “อำนาจก็ต้องหลุดมือ” เป็น “สัจธรรมที่เที่ยงแท้”
“สว.ลากตั้ง”นี่ก็หมดวาระ อยู่แค่“รักษาการ” ดูแลในช่วงเวลา“แค่กระผีกลิ้น” เท่านั้นเอง
ได้ “สว.ชุดใหม่” กันเข้ามา..พวกนี้ก็จะเป็นไม้ผุๆ รอ“ย่อยสลาย” เป็น“อินทรียสาร” ที่ดับสูญ
ถามหน่อยที่อยู่มา.. “มีใครศรัทธา” สรรเสริญบ้างคุณเจ้าขา ช่วยบอกหน่อยเถิดคุณ
“กะพรุนไฟ”
