24 ตุลาคม 2024

“ต้นไม้ที่สูงเกินป่า”..ยากที่จะต้านแรงลมได้ ต้อง“โค่นล้ม”กันสักวัน

ดูไปแล้ว เหมือนกับ“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” อดีต ผบ.ทบ.-อดีต รมว.กลาโหม-อดีต รองนายกฯ

ปัจจุบัน นั่งเป็นศรีสง่ากับตนเอง คือดำรงตำแหน่ง“หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” ๑ ในหุ้นส่วน “รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน”

ชีวิตท่านสุดยอด “สูงกว่าต้นไม้ทั้งภูเขา” จึงควรรู้จัก“ถอย” เพื่ออยู่เป็น“อมตะ” ให้คนรุ่นหลังสรรเสริญ วัยนี้ “การไขว่คว้า”นอกจากจะออกแรงเสียเปล่า ยังจะถูกเขา“ย้อนเกร็ด” เจ็บปวดโดยไม่จำเป็น

ช่วง ๒๐ ปีที่ผ่านมานั้น “ยุทธการเปิดเกมรุก”โหมเข้าใส่“พรรคเพื่อไทย” และ“พ้องเพื่อน” ถูกโหมกระหน่ำใส่กันไม่ยั้ง แต่วันนี้เขา“ตั้งลำ-ตั้งหลัก”ได้เป็นที่สำเร็จ..และยังอยู่ในแถวหน้า“แห่งอำนาจ”เสียด้วย

ถึงเวลาที่“ทาร์ซาน” เจ้าป่าแห่งพงไพร จะโหนเถาวัลย์ไปทางนั้นที-มาทางนี้ที เหมือนแต่ก่อนคงจะไม่ได้..

“การรู้จักถอย” เป็น“พิชัยยุทธ์สงคราม” ที่ขุนศึก-ขุนทหาร ต้องรู้ปรับตัวให้ทัน เพื่อให้อยู่ในดุล“บัญชีอำนาจ”กันได้ อีกทั้ง“กำลังพล”ที่แข็งแกร่ง ก็..“กระปลก-กระเปลี้ยเสียขา” เหล่าปะดา“ลูกยอด” ก็“หมดอำนาจ-สิ้นวาสนา”แทบหมด

“นักการเมือง”ที่เป็นกำลังเสริมใยเหล็ก พากัน“ร่วงพรู” โรยราสอบตก ดุจดัง“ใบไม้”ที่ร่วงตกจากต้น มาเป็นปุ๋ยก็ไม่ปาน

“ทีมรุก”ที่เคยเป็น“พายุหมุน” ศูนย์กลางเคลื่อนตัวสู่ที่ใด “ใครก็ไม่อาจขวางกั้น” ต้อง“สยบยอม”ศิโรราบให้นั้น “วันนั้นกับวันนี้”.. ทุกอย่างไม่เหมือนเก่า ยากที่จะ“เอากลับคืนมาได้”

“ทาร์ซาน”ยามที่มีอำนาจ กับ“เจ้าป่า”ที่หมดพลัง ควรปรับสภาพในช่วงที่“สังขารเสื่อมถอย”

หลังวันที่ ๑๘ มิถุนายน ที่“อัยการสูงสุด” มีการนัดหมายโดยไม่แจ้ง ตรงกับวันที่“ศาลรัฐธรรมนูญ”ลับคมมีด-เสียคมกริบ มีเรื่อง“ตั้งแท่น”กันอยู่ ๓ วาระ เรื่อง“นายกฯเศรษฐา-ยุบพรรคก้าวไกล และ พรป.เลือก สว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่”

จับเสียงของ“เกจิการเมือง” และ“กูรูนักวิเคราะห์” ลงความเห็นว่า ..ผ่านวันที่ ๑๘ มิถุนายนไปแล้ว “นายกฯเศรษฐา”จะเป็น“พยัคฆ์ที่เสียบปีกบิน” อำนาจจะเรืองรอง-ไม่เป็นสอง อีกแล้วล่ะท่านผู้ฟัง

แต่จะเป็น“วิกฤต” ห้วงอันหวาดเสียวของ“พรรคพลังประชารัฐ” ที่มี“บิ๊กป้อม”นั่งสะง่อมเป็นหัวหน้าพรรคอยู่

อยากให้หลายคนย้อนดู ราวปี ๒๕๕๓ “ผู้เฒ่าม้าทอง” วัฒนา อัศวเหม ค่ายปากน้ำ แห่งพรรคประชากรไทย “สร้างตำนาน” เรื่องราวที่คนรู้กันทั้งแผ่นดิน ด้วยการนำ“งูเห่า”ไปหนุนประชาธิปัตย์ ได้“ท่านชวน หลีกภัย”เป็นนายกฯ

ฝืนมติหัวหน้าพรรค “สมัคร สุนทรเวช” ในช่วงจังหวะนั้น..ทำให้“ประชากรไทย”ถูกผ่าออกมาเป็น ๒ ซีก คือเป็น“ฝ่ายรัฐบาล”ส่วนหนึ่ง..เป็น“ฝ่ายค้าน” อีกส่วนหนึ่ง

และมีเค้าว่า “อดีตจะหวนกลับ” เมื่อ“พรรคพลังประชารัฐ” ยังมี“ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” เป็นรัฐบาล และถึงขั้นที่จะก้าวไปถึงดวงดาว ขึ้นเป็น“หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” เสียด้วยซ้ำ-เขาเล่าและตอกย้ำกันมา

ปล่อยให้ “บิ๊กป้อม” ถูกลอยแพไปกับกระแสน้ำ..ทั้ง “พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ หลุมโควตา

และไม่ต้องกลัวว่า “รัฐบาล”จะไม่ประสานกันแน่น-เป็นปึกแผ่นเดียวกัน เพราะจะได้“พรรคประชาธิปัตย์ ๒๑ เสียง” ในสาย“เฉลิมชัย ศรีอ่อน”หัวหน้าพรรค… และ“เดชอิศม์ ขาวทอง” เลขาธิการพรรค เข้ามาร่วมวงศ์ไพบูลย์ ทำงานสร้างคะแนนให้ “ประชาธิปัตย์”ยืนขึ้นมาใหม่

“ท่านเดชอิศม์” เป็นเด็กสร้างของ“สายจันทร์ส่องหล้า”กันมาก่อน มีจุดกำเนิด-เกิดเป็นนักการเมืองเต็มตัวอยู่กับพรรคนี้ จึงเป็น“หน่อเนื้อเดียวกัน” ที่ทำงานร่วมกันไม่ยาก..เพราะการเป็นรัฐบาล ประชาธิปัตย์มีหนทาง“ฟื้น-คืนกลับมาได้”

๒๑ เสียง..ไม่รวมสายของ“ท่านชวน หลีกภัย” ที่ยืนอยู่“มุมน้ำเงิน” ไม่ใช่“มุมแดง” เหมือนเสียงส่วนใหญ่ของคนในพรรค

การเมืองไทย “พรรคเดียวกัน”อยู่คนละฝั่ง แบ่งออกเป็น“ฝ่ายค้าน” และ“รัฐบาล” เกิดขึ้นมาแล้ว

“งูเห่า” เกิดเพราะใคร.. “ใครสร้างงูเห่าเอาไว้” ก็จดจำกันเองเถิด-พ่อคุณ

“กะพรุนไฟ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *