อยากเห็น ‘ส้ม’ เป็นรัฐบาล

“เดินตัวตรง ไยต้องกลัวเงาเอียง”

พอ“เลือกตั้ง สว.” ตัวเอง“สอบตก” ไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับ“เสียงสนับสนับ”จากผู้สมัครด้วยกัน ก้อ,โวยวายปานว่า“ปี่จะแตก” ว่ามีการ“โกงเลือกสว.”

“ชี้กราด” อาละวาด ว่า“เจ้าหน้าที่ กตต.ภาคสนาม ”มีเอี่ยว โกงอีกด้วย การกระทำเหมือน“หน้ามือกับหลังเกือก”ก็ว่าได้ เพราะครั้งเมื่อ“สอบผ่าน สว.ระดับอำเภอ” ก็ดีใจกระตู้วู้ ขานรับให้โลกรู้ ว่าเลือกตั้ง“สว.สะอาด-ปราศจาก“การโกง”

พอมาถึง“เลือก สว.ระดับจังหวัด” ตัวเองร่วงผล็อย-โดนสอย ก็หาว่ามี“การโกง”แหลกลาญ

อยากให้กลับไปดู“พฤติการณ์-ต้นขั้ว” คนเขารู้ความดี-ความชั่วกันอย่างสุดติ่ง-กระดิ่งแมวแค่ไหน กินเงินแผ่นดิน รับหน้าที่“ปราบ” แต่หลายคน เห็นการกระทำ“ฟอนเฟะ-เละเทะ” เป็น“มือรีด-มือไถ”ระดับประเทศ

“ตำบอน”กันขนาดนี้ ผ่านรอบระดับอำเภอมาได้ ก็ถือว่า“บุญหนักหนา” แล้วมิใช่หรือ?

น่าจะ“สอบตก-ยกแรก” ตั้งแต่“ยื่นใบสมัคร”กับ“กกต.”ด้วยซ้ำ ..มี “คดีส่วย”กันอยู่ให้บานตะเกียง

และการ“เลือก สว.รอบจังหวัด” ได้เห็นปรากฏการณ์แห่งความเป็นจริงกันคาตา ประดา“กูเลอะ”เจอของจริง.. คนเขาไม่เอา“สีแสด-ส้มแจ๊ด” รอบนี้..จึง“กลิ้งตกสวรรค์”กันยกกล่อง

ทั้งที่เป็นผู้ที่“เปรียบความรู้” น่าจะเข้ารอบลึกๆมากกว่านี้ ควรจะ“ผ่านฉลุย” ลอยลำ..เข้าถึงรอบระดับประเทศ และควรได้เป็น“สว.เลือกไขว้”เสียด้วยความซ้ำ

แต่เพราะ“ปาก-ลากประเทศ”ให้เกิดความ“ขัดแย้ง”ระหว่าง“สีเสื้อ”ไม่เลิกนี่แหละ จึงเป็น“มหันตภัย” ความวิบัติ สร้างความพินาศเข้ามาหาตัวเอง

เพราะ“การเลือกสี” หวังเกาะฐาน“คนรุ่นใหม่” ขึ้นไป“เก็บเกี่ยวอำนาจ” ความเป็นใหญ่ที่จะมาถึงอีก ๓ ปี ข้างหน้า แค่“เริ่มปฐมบท” การเลือกตั้ง สว.เท่านั้นเอง..

“ปฏิกิริยา”อันเป็น“ลูกโซ่” ลักษณะต่อเนื่องจาก“เลือกตั้ง ส.อบจ” และ“เลือกตั้ง อบจ.” ไม่เอา“น้ำส้มซันควิก” ก็เริ่มลามมาถึงการเลือก“สภาฯสูง” ในระดับไขว้-ตีแบบว่าการทำอะไร ถ้าเกิดไปไม่เป็นที่“ยอมรับ”อย่างแน่นอน

เหมือนที่ “พุทธองค์”ตรัส-ดำรัสไว้.. “การเลือกเดินสายกลางดีที่สุด” ผสมได้ทั้ง“ซ้ายและขวา”ให้มาเป็นหนึ่งเดียวกัน ทุกคนอยากเห็น“คนรุ่นใหม่”ขึ้นมา“ถืออำนาจ-นำชาติ” ไปสู่ความรุ่งเรือง

“ประชาชน”เขาไม่ต้องการ“พวกไดโนเสาร์-ตกขอบ” ที่“กดหัวประชาชน”กันมาอยู่ตลอด วันนี้ก็ยังไม่เลิกอีก..

เหมือนกับประโยคหนึ่ง ของปราชญ์จีนที่ท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า..“มังกรที่แข็งแกร่ง แต่ทำไมยังกดหัวงูดินกันอีกเล่า”

ไม่น่าแปลกใจเลิกสักนิด ที่“คนในแผ่นดินนี้” อยากให้“หนุ่มสาว”มาสร้างเรื่องราวของ“ประวัติศาสตร์หน้าใหม่” โอกาสเข้ามาทั้งทางด้าน“หน้าประตูและหลังประตู” กันอย่าง“เปิดกว้าง” ทุกโอเพนเช่นนี้แล้ว

แต่ทว่า “ขบวนการ-คนรุ่นใหม่” กลับทำตัวเป็น“น้ำล้นแก้ว” เป็นแก้วน้ำ“ที่ไม่สามารถเติมน้ำ-เข้าไปได้อีก”.. “ยึดสรณะ” เอาแต่“สีส้ม”เป็นที่ยึดเหนี่ยว-เหนี่ยวรั้ง ให้กับหัวใจเพียงสีเดียว

ทั้งที่“โทนสี”เมื่อผสมกลมเกลียวกัน“หลายสี” จะได้“ความหลากหลาย”..“ความคิด”ที่ปิดบังตัวเอง ให้เปิดกว้างขึ้นอีก

เห็นการสร้าง“วาทะกรรม”อันเป็น“หลุมดำ” เป็นภัยกับตัวเอง เหมือน“ช่อ”ยังเป็น“บัวใต้น้ำ”ผุดไม่เห็นเดือน-เห็นตะวัน ด้วยการตีตรา-กล่าวหา“พรรคภูมิใจไทย” เป็น“ความชั่วร้าย” แต่เป็น“ความชั่วร้ายที่บริสุทธิ์” ในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน

นี่ไม่ใช่การ“แสวงหามิตร” แต่เป็นการคิดเพื่อให้ตัวเองเด่นกว่าทุกพรรค

“ส้ม”ไม่จำเป็นต้อง“เปรี้ยวจี๊ด” ควรเพิ่มท่าทีอันเป็นมิตรกับทุกคน เป็น“ส้ม”ที่มีรสหวาน ชวนลิ้มลอง

ทุกคนอยากเห็น“ส้ม”เป็นรัฐบาล.. “แต่พฤติการณ์-มันใช่หรือ?” ที่ใช้ปากสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น

“กะพรุนไฟ”